ต้องยอมรับจริงๆ ครับว่า Samsung Galaxy S5 นั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงในซีรีส์ S ที่ยอดขายไม่ได้เป็นไปดั่งใจของ Samsung สักเท่าไรนัก ผู้ใช้หลายคนต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันถึงเรื่องดีไซน์และวัสดุพลาสติกที่ทำให้สมาร์ทโฟนระดับเรือธงนี้ดูด้อยค่าไปในทันใด นอกไปจากนั้นยังมีคำด่าจากผู้ใช้งานในอีกหลายๆ เรื่องที่ Samsung ต้องเอากลับไปพิจารณาใหม่ถ้าต้องการที่จะเพิ่มยอดขายที่ตกลงกว่า 60% ของปีนี้(เมื่อเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว) ให้เพิ่มขึ้น ล่าสุดเลยมีข่าวลือออกมาครับว่าทาง Samsung เริ่มต้นโครงการพัฒนา Galaxy S6 ในชื่อของโครงการที่ฟังดูแล้วเหมือนจากจุดสูงสุดคืนสู่สามัญ ชื่อว่า Project Zero ครับ
ลองไปดูกันดีกว่าครับว่า Samsung จะทำโครงการ Project Zero นี้ให้ออกมาเป็น Galaxy S6 ที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไรบ้าง เริ่มจากเรื่องสเปคหน้าจอกันก่อนครับ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับความละเอียดระดับสูงสุดโดยจากข้อมูลบอกว่า Project Zero นั้นจะใช้หน้าจอที่รองรับความละเอียดที่ระดับ Quad HD (2560 x 1440 pixels) ซึ่งก็จะเท่ากับ Note 4 ที่พึ่งจะวางขายไปไม่นานนี้แต่ก็ถือว่าสูงสุดในตลาด และน่าจะเป็นมาตรฐานของความละเอียดหน้าจอระดับบนไปอีกพักใหญ่ๆ ที่ยังไม่ทราบก็คือ ความหนาแน่นของ pixel นั้นยังไม่มีข้อมูลครับเนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดว่า Project Zero นั้นจะใช้หน้าจอที่ขนาดเท่าใด
ส่วนต่อมาก็คือเรื่องของหน่วยประมวลผลที่ Project Zero เลือกใช้นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น โดยจะมีรุ่นที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ octa-core รองรับการประมวลผลที่ 64-bit ของทาง Samsung เองอย่าง Exynos 7420 ที่ประกอบไปด้วย ARM Cortex-A53 จำนวน 4 core และ ARM Cortex-A57 จำนวน 4 core ส่วนอีกรุ่นก็จะเป็น Snapdragon 810 ของทาง Qualcomm ที่รองรับการประมวลผลที่ระดับ 64-bit เช่นเดียวกัน แต่ทว่ายังคงเป็น quad-core อยู่ครับ สำหรับในส่วนของหน่วยความจำนั้นคาดว่าทาง Samsung จะยังคงยืนหยัดอยู่ที่ 3 GB เช่นเดิมครับ เหตุผลหนึ่งก็คือหน่วยความจำที่ขนาด 3 GB ก็มากพอสำหรับการใช้งานต่างๆ อยู่แล้ว และ Galaxy S6 นั้นก็จะไม่มีแอปพลิเคชันพิเศษที่ต้องใช้ Stylus มากินหน่วยความจำเพิ่มแต่อย่างใดครับและในส่วนของแหล่งเก็บข้อมูลนั้นทาง Samsung น่าจะมีตัวเลือกมาให้ตั้งแต่ 32 GB, 64 GB และ 128 GB ครับ
สำหรับกล้องหลังนั้นทาง Samsung จะเลือกใช้เซนเซอร์ IMX240 แบบเดียวกับที่พบใน Galaxy Note 4 แต่ทว่าความละเอียดอาจจะเพิ่มมากขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 16 MP หรือไม่ก็ 20 MP ส่วนกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 5 MP เพื่อรองรับกับการถ่ายภาพแบบ selfie ตามสมัยนิยมนั่นเองครับ ที่สำคัญก็คือชิปโมเด็มสำหรับการเชื่อมต่อ 4G นั้นทาง Samsung จะใช้ชิป LTE โมเด็มของตัวเอง(คาดว่าน่าจะเป็นโมเดล SS333 หรือ?Exynos Modem 333) ซึ่งจะมาแทนที่ชิปโมเด็มของทาง Intel ที่ Samsung เลือกใช้บนชิปเซ็ท Exynos 5430/5433 (ในรุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 810 นั้นน่าจะยังคงใช้ชิปโมเด็มของ Qualcomm อยู่ครับ)
ท้ายสุดสำหรับชิปการสื่อสาร โดยทาง Samsung น่าจะใช้ชิปของทาง Broadcom รุ่น BCM4773 ซึ่งจะมาพร้อมกับ GPS และเซนเซอร์ต่างๆ ที่รวมเอาไว้บนชิปตัวเดียวกันเป็นครั้งแรกครับทำให้สามารถที่จะใช้งาน WiFi, Bluetooth ฯลฯ ได้โดยใช้ชิปเพียงตัวเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ Samsung จะแบ่งรุ่นของ Galaxy S6 ออกเป็นหลายๆ รุ่นตามเครือข่ายที่ร่วมจำหน่ายครับ โดยแต่ละรุ่นจะมีชื่อตามเครือข่ายดังต่อไปนี้ครับ
- Zero-F US – VERIZON SM-G920V_NA_VZW
- Zero US – AT&T SM-G925A_NA_ATT
- Zero EUR – OPEN SM-G925F_EUR_XX
- Zero-F CA (Canada) – BELL MOBILITY SM-G920W8_NA_BMC
- Zero-F US – SPRINT PCS SM-G920P_NA_SPR
- Zero CA – BELL MOBILITY SM-G925W8_NA_BMC
- Zero US – VERIZON SM-G925V_NA_VZW
- Zero-F – EUR OPEN SM-G920F_EUR_XX
- Zero US – T-MOBILE (US) SM-G925T_NA_TMB
- Zero US – SPRINT PCS SM-G925P_NA_SPR
- Zero US – US CELLULAR SM-G925R4_NA_USC
- Zero-F US – AT&T SM-G920A_NA_ATT
- Zero-F US – US CELLULAR SM-G920R4_NA_USC
- Zero-F US – T-MOBILE (US) SM-G920T_NA_TMB?
ที่มา : sammobile