ช่วงนี้นับว่าเป็นช่วงที่อุปกรณ์ Solid State Drive กำลังก้าวเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ของอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรื่องความเร็วคงไม่ต้องพูดถึงเพราะเร็วชนิดกินฮาร์ดดิสก์ขาดไปหลายช่วงตัว ส่วนความจุดและราคาที่ใครๆ ว่ากันว่ามหาโหดนั้นก็เริ่มจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เราจึงเห็น SSD ถูกนำมาใช้ในคอมพิวเตอร์ระดับ High-End มากขึ้น รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่อาจจะเป็นทางเลือกในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย
Kingston SSDNow KC300 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจมากทีเดียว เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลที่ทำได้ดี แต่การประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย น่าจะทำให้มันกลายเป็นชุดอุปกรณ์ตัวหนึ่งน่าจับตามองเลยทีเดียว
แกะกล่องลองสัมผัส
น่าจะเรียกได้ว่าเป็นกล่อง SSD ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับมากเลยก็ว่าได้สำหรับ Kingston SSDNow KC300 ตัวนี้ นั่นเพราะมันไม่ใช่เป็นเพียงแค่ SSD เพียงอย่างเดียว แต่มันมาเป็นชุดพร้อมกับอุปกรณ์ที่ช่วยให้มันนำไปใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน๊ตบุ๊ค รวมไปถึงการใช้งานแบบ ?พกพา? ด้วย แต่ต้องบอกก่อนว่าเจ้าจุดติดตั้งพิเศษนี้สามารถเลือกจะซื้อเป็นชุด หรือเลือกซื้อเฉพาะตัว SSD เดี่ยวๆ ก็สามารถทำได้
สำหรับ KC300 นั้นจัดว่าเป็น SSD ในกลุ่มที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรธุรกิจ ด้วยการพัฒนาให้มันมีความเร็วในการอ่านข้อมูลที่ 525MB/s และเขียนข้อมูลที่ 500MB/s ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงมากสำหรับ SSD ในปัจจุบัน พร้อมกับเทคโนโนโลยีต่างๆ ที่อัดแน่นมาภายในอย่างพรั่งพร้อมไม่ว่าจะเป็น SMART ที่สามารถตรวจสอบสถานะการทำงานของไดรฟ์ได้ตลอดเวลา หรือ DuraWrite ที่ใช้อัลกอริทึมในการเขียนข้อมูลที่ช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานของ SSD ออกไปให้ยาวนานที่สุดอีกด้วย ดังนั้นตัวไดรฟ์นี่ก็ไม่ธรรมดาแล้ว
ส่วนชุดอุปกรณ์ติดตั้งเสริมที่มีมาให้นั้นก็จะประกอบไปด้วยแท่นยางขนาดเท่าตัว SSD เพื่อรองหรือหนุนตัว SSD ให้ใส่ได้พอดีกับช่องใส่ภายในโน๊ตบุ๊ค เนื่องจาก KC300 นั้นมีความบางมากกว่าฮาร์ดดิสก์ 2.5 นิ้วปกติเล็กน้อย และยังมีโครงเหล็กสำหรับยึดเข้ากับ Bay ขนาด 3.5? สำหรับเครื่องเดสก์ท็อป และส่วนสุดท้ายคือกล่องที่ช่วงแปลงเอา KC300 ให้กลายเป็นฮาร์ดดิสก์พกพาและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ทันทีผ่านพอร์ต USB ที่สะดวกต่อการใช้งานได้ทันที
รายละเอียดทางเทคนิค
-ฟอร์มแฟคเตอร์: 2.5″
-อินเทอร์เฟซ: SATA Rev. 3.0 (6Gb/s) ? รองรับ SATA Rev. 2.0 (3Gb/s)
-ความจุ: 60GB, 120GB, 180GB, 240GB, 480GB
-ระบบควบคุม: Sandforce-SF2281
-การเข้ารหัส: เข้ารหัสอัตโนมัติ (AES 128 บิต)
-อ่าน/เขียนต่อเนื่อง2 SATA Rev. 3.0 : 240GB ? สูงสุด: 525/500MB/s
-อ่าน/เขียน 4k สูงสุด: 240GB ? สูงสุด 85,000/52,000 IOPS
-อ่าน/เขียนแบบสุ่ม 4k: 240GB ? สูงสุด 32,000/56,000 IOPS
-Enterprise SMART Tools: ระบบตรวจสอบเสถียรภาพในการทำงาน ข้อมูลสถิติการใช้งาน การคำนวณอายุการใช้งานที่เหลือ การกระจายการสึกหรอของชิ้นส่วน อุณหภูมิ
-จำนวนไบต์สำหรับเขียนทั้งหมด (TBW): 240GB ? 765TB 3 DWPD4
-อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน: 0.08 W เปิดทิ้ง / 0.16 W เฉลี่ย / 1.73 W (สูงสุด) อ่าน / 2.49 W (สูงสุด) เขียน
-ขนาด: 69.8mm x 100.1mm x 7.0mm
-น้ำหนัก: 240GB ? 86.0g
-การสั่นสะเทือนขณะทำงาน: 2.17G Peak (7?800Hz)
-การสั่นสะเทือนขณะไม่ทำงาน: 20G Peak (10?2000Hz)
-MTBF: 1 ล้านชั่วโมง
-การรับประกัน/บริการ: รับประกัน 3 ปีพร้อมบริการทางเทคนิคฟรี
ทดสอบการใช้งาน
สำหรับการทดสอบนั้นเราจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือส่วนที่เชื่อมต่อโดยตรงผ่านทางพอร์ต SATA3 ของตัว KC300 เลย และอีกส่วนคือการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานผ่านกล่องฮาร์ดดิสก์พาพกซึ่งเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB แทน
ผลการทดสอบในโหมด SATA (ไฟล์รูปในโฟลเดอร์ Test Result ?SATA)?การตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นด้วย AIDA64
HD Tune-002-Benchmark Read and Write
HD Tune-005-Random Access Read and Write
AS SSD
ATTO Bechmark
TeraCopy Read and Write
ผลการทดสอบในโหมด USB (ไฟล์รูปในโฟลเดอร์ Test Result ?USB)?
การตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นด้วย AIDA64
HD Tune-Benchmark Read and Write
HD Tune-Random Access Read and Write
AS SSD
ATTO Bechmark
TeraCopy
ผลการทดสอบ
หากดูผลการทดสอบในโหลดของ SATA เทียบกับ SSD แบรนด์อื่นๆ ก็จะเห็นว่ามีความเร็วในการทำงานที่ดีพอสมควร ด้วยอัตราการส่งข้อมูลจริงๆ อยู่ในระดับ 200-300 MB/s ขึ้นไป ซึ่งจุดที่น่าจะเป็นจุดเด่นคงเป็นเรื่องของความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่มีความเร็วสูงใกล้เคียงกัน ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานจึงถือว่า KC300 ผ่านสบายๆ สำหรับคนที่ต้องการ SSD ที่ช่วยฉุดให้เครื่องของคุณเร็วมากขึ้น
มาถึงส่วนของ USB ที่ใช้กล่องแปลงในชุดติดตั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเชื่อมต่อผ่าน USB ย่อมทำให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลร่วงมาอยู่ที่ระดับ 30-40 MB/s เท่านั้น ด้วยข้อจำกัดและความเร็วของ USB นั่นเอง แต่สิ่งที่คุณจะได้รับเพิ่มขึ้นมาก็คือความสะดวกสบายในการใช้งานที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งใครที่ต้องการประสิทธิภาพสูงๆ ของ SSD คงจะไม่เอามาต่อผ่าน USB อยู่แล้ว โหมดนี้จึงเป็นโหมดสำรองเอาไว้ใช้งานยามจำเป็นมากกว่า
ส่วนการทดสอบการถ่ายโอนไฟล์ด้วยโปรแรกม TeraCopy นั้นไม่ต้องแปลกใจที่ความเร็วในการเขียนข้อมูลจะสูงกว่าการอ่าน เนื่องจากฮาร์ดดิสก์คู่ที่ใช้ในการทดสอบเป็นฮาร์ดดิสก์แบบธรรมดา ความเร็วในการถ่ายโอนกลับมายังฮาร์ดดิสก์จึงช้ากว่า ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นว่า KC300 มีความเร็วในการทำงานมากกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติอยู่มากเลยทีเดียว
บทสรุป
เอาเป็นว่าถ้าพูดถึงตัว Kingston SSDNow KC300 ที่เป็นไดรฟ์อย่างเดียว อาจจะมีความเร็วไม่หวือหวานักเมื่อเทียบกับ SSD พวกตระกูล HyperX แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่แน่นอน ประสิทธิภาพของมันยังคงแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน ในขณะที่คุณจะได้เพิ่มส่วนของความทนทาน รวมถึงการเข้ารหัสที่ช่วยให้ข้อมูลปลอดภัยมากขึ้น เหมาะสำหรับกลุ่มธุรกิจองค์กรที่ต้องการไดรฟ์ที่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่ว่าใช่งานเก็บข้อมูลไป 6-7 เดือนแล้ว SSD เกิดพังขึ้นมาแบบนี้ย่อมเสียหายมากกว่าแน่นอน
ส่วนชุด Kit ที่เป็นออปชันเสริมนั้นขอบอกว่าน่าใช้งานมาก แม้ว่าจะไม่ทราบราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ด้วยความที่เป็นชุดแปลงที่ช่วยให้สามารถใช้อุปกรณ์ในกลุ่มฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ขนาด 2.5? ไปใช้งานในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก แบบนี้ซื้อเป็น Kit ติดตัวไว้หนึ่งชุดก็อุ่นใจดีเหมือนกันนะครับ
จุดเด่น
-มีความเร็วในการทำงานอยู่ในระดับที่ดี
-รองรับการทำงานได้ทั้ง SSD ภายใน และใช้เป็น External ได้ด้วย
ข้อสังเกต
-มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการติดตั้งจำนวนมาก
By Toffee Latte