Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

5 ขั้นตอน! เพิ่มความเร็ว เร่งความลื่นใน iOS 8 ให้ iPhone, iPad และ iPod Touch

เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนที่ใช้งาน iOS 8 บน iPhone, iPad และ iPod Touch เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบางคนอาจจะใช้งานได้อย่างลื่นไหล นั่นก็เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ยังจัดว่าเป็นรุ่นใหม่อยู่ อาทิ iPhone 5S, iPad Air

เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนที่ใช้งาน iOS 8 บน?iPhone, iPad และ?iPod Touch เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบางคนอาจจะใช้งานได้อย่างลื่นไหล นั่นก็เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ยังจัดว่าเป็นรุ่นใหม่อยู่ อาทิ iPhone 5S, iPad Air หรือ iPad mini Retina แต่ก็คงมีเพื่อนๆ บางคนอาจจะใช้งาน iOS 8 แล้วรู้สึกได้ว่ากระตุกหรือหน่วงบ้าง แน่นอนว่าถ้ามีวีธีทำให้อุปกรณ์ที่รัน iOS 8 ก็คงดีมากๆ

ว่าแล้วทางทีมงานก็ขอนำเสนอ 5 ขั้นตอนที่จะมาเพิ่มความเร็ว เร่งความลื่นใน iOS 8 ให้ iPhone, iPad และ iPod Touch ยังไงก็ลองไปทำตามกันดูนะครับ น่าจะช่วยให้เครื่องของเราหน่วงหรือกระตุกน้อยลงพอสมควรเลย

Advertisement

ios8-beta44

1. เปิดการใช้งาน?Increase Contrast ให้เป็น On

ด้วยความที่ว่า?Notification Center?ที่เป็นศูนย์รวมแจ้งเตือน และ Control Center ซึ่งเป็นที่อยู่ของส่วนควบคุม Wi-Fi, Bluetooth และปรับค่าอื่นๆ ใน iOS มีความโปร่งแสง ทำให้เวลาเรียกใช้งานบางครั้งอาจจะมีความกระตุกหรือหน่วงได้ สำหรับวิธีการเราก็สามารถแก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการเปิด?Increase Contrast ให้เป็น On เพื่อให้ทึบแสง แน่นอนว่าแม้จะลดความสวยงามลง แต่จะทำให้ iOS 8 ลื่นขึ้นแน่นอน

วิธีการ?Settings -> General -> Accessibility -> Increase Contrast?แล้วเปิดเป็น?On

ios8-boots-3

2. ปิดการใช้งาน?Background App Refresh

บางแอพพลิเคชัน จะสามารถใช้สิทธิ์ในการดึงข้อมูลเบื้องหลัง เพื่ออัพเดตข้อมูลในเครื่องให้ทันสมัยอยู่เป็นระยะๆ แบบอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องกดเปิดแอพเลย ซึ่งมันอาจจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้เราก็จริง แต่มันก็มีการใช้งานแบตเตอรี่รวมไปถึงความลื่นของ iOS 8 ด้วยเช่นกัน ถ้าใครอยากลดการใช้พลังงานของระบบแลเพิ่มความเร็วในการใช้งานล่ะก็ ลองปิดการทำงานนี้ดูได้เลย

วิธีการ?Settings -> General ->?Background App Refresh?จากนั้นก็เลือกปิดทั้งหมด (หรือบางตัว)

ios8-boots-2

3. เปิดการใช้งาน Reduce Motion (ปิด Parallax)

ตัวของ Reduce Motion ก็คือลักษณะการแสดงผลที่เสมือนว่าไอคอนแอพกับภาพวอลล์เปเปอร์เบื้องหลังแยกชั้น (layer) ออกจากกัน (ตัวอย่างตามภาพด้านบน) ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นเคยในชื่อเรียกช่วงแรกๆ ในชื่อว่า Parallax นั่นเอง แน่นอนว่าการใช้เอฟเฟ็คท์การแสดงผลแบบนี้ จะต้องใช้พลังงานมากกว่าการแสดงผลแบบภาพนิ่งตามปกติ ไม่มีการแยกชั้น layer ประกอบกับอาจจะทำให้ผู้ใช้หลายท่านเวียนหัวได้

วิธีการ ?Settings -> Accessibility -> Reduce Motion -> On

ios8-boots

4.?ปิดการทำงาน Automatic Updates & Download

นับได้ว่าการทำงาน?Automatic Updates & Download เป็นอะไรที่สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ใช้งาน iOS 8 เพราะไม่ต้องมัวมานั่งค่อย?Updates และ Download แต่ละแอพพลิเคชั่นหรือเพลงให้เสียเวลา แต่ด้วยความที่บางครั้งการทำงานของมันอาจจะทำงานไปพร้อมๆ กับเรากำลังใช้งานอยู่ แน่นอนว่าทำให้เครื่องช้าลง ซึ่งแม้ว่าเราจะปิดการทำงานส่วนนี้ไปแล้ว เราก็ยังสามารถ Updates และ Download ได้ด้วยตนเองอยู่นะครับ

วิธีการ ?Settings ->?iTunes & App Store -> Automatic Downloads ? ปิดไปทั้ง 3 ตัว

ios8-boots-4

5. จัดการติดตั้ง iOS 8 แบบ?Clean Install

ในการที่เราอัพเดทจาก iOS 7 อาจจะมีการอัพเดทที่ไม่สมบูรณ์ เพราะไฟล์เสียหายระหว่างการอัพเดท (ยิ่งอัพเดทแบบ OTA ยิ่งมีโอกาสสูง) รวมไปถึง?File system บางตัวอาจจะค้างหรือเป็นขยะในเครื่องที่เราจัดการออกไม่ได้?แน่นอนว่าจะทำให้การทำงานของ iOS 8 ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น ส่งผลให้เครื่องช้าเครื่องหน่วงและแฮงค์ไปในที่สุด ฉะนั้นทางที่ดีแล้วเราควรที่จะทำการอัพเดทใหม่ผ่านทางโปรแกรม iTunes อีกครั้ง ก็จะดีที่สุดครับ (เป็นตัวเลือกสุดท้ายของ 5 วิธีทั้งหมด)

วิธีการ ต่ออุปกรณ์ -> เปิดโปรแกรม iTunes -> Backup -> Restore -> Restore from this backup

2557-09-18 at 14.30.31 copy

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับคนที่ใช้งาน iOS 8 แล้วช้าๆ หน่วงๆ ก็ลองไปทำตาม 5 วิธีนี้ดูนะครับหวังคงช่วยได้ไม่มากก็น้อย ได้ผลเป็นอย่างไรสามารถร่วมพูดคุยกันได้เลย

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

TP-Link Archer BE400 เราเตอร์ตัวนี้ง่ายตั้งแต่ตั้งค่าเริ่มใช้งานไปจนใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในตัว! อัปเกรดแล้วเน็ตแรงขึ้นเยอะ!! เครือข่าย Wi-Fi 7 ได้รับการรับรองเป็นมาตรฐานใหม่อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 จากนั้นเราเตอร์มาตรฐานใหม่นี้รวมถึง TP-Link Archer BE400 ก็เปิดตัวมาให้เลือกซื้อกันหลากหลายสเปกตั้งแต่รุ่นประสิทธิภาพสูงฟีเจอร์ติดตัวมากมายหรือจะเป็นรุ่นคุ้มค่า ฟีเจอร์ครบถ้วนทั้ง Multi-Link Operation (MLO) สำหรับรับส่งข้อมูลผ่านหลายคลื่นสัญญาณให้ได้ความเร็วสูงสุดและลดความหน่วง (Latency) ลง...

Buyer's Guide

อัพเดท iPhone 15 ราคาล่าสุด 2025 ทั้งเครื่องเปล่าและติดโปร จาก 3 ค่ายใหญ่ ทั้ง AIS, DTAC และ TRUE หลังจากที่เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone 16 Series กันไปแล้ว หลายๆ คน ที่กำลังมองหาซื้อ...

Buyer's Guide

บนท้องถนนแม้เราจะขับรถดีและปลอดภัยเพียงใดก็อาจได้เจอคนขับรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ไร้ความรับผิดชอบและคึกคะนองก่อความเสียหายได้ ดังนั้นการติดกล้องติดรถยนต์เอาไว้เพื่อบันทึกเหตุการณ์บนท้องถนนเป็นหลักฐานเวลาเกิดเหตุสุดวิสัยก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องเมื่อไหร่แต่ถ้าเกิดแล้วก็ยังป้องกันตัวและเผื่อเป็นหลักฐานให้เพื่อนร่วมถนนคนอื่นได้ก็เป็นเรื่องดีกว่าทำอะไรไม่ได้เลย วิธีการเลือกกล้องติดรถยนต์มาใช้สักตัวก็ไม่ยากมาก เริ่มต้นอย่างแรกคือต้องดูความละเอียดของกล้องว่าอยู่ในระดับ 1080p ขึ้นไปไหมและเชื่อมต่อกับมือถือได้หรือเปล่า ซึ่งถ้ามีสองอย่างนี้ก็ดูต่อได้ว่าอยากได้กล้องแบบใด เอามาติดตามปกติหรือสวมทับกระจกมองหลังและเดินสายกล้องไปด้านหลังตัวรถเลยก็มี ถ้าใครมีความสามารถสักนิดก็ติดตั้งเองได้เลยหรือจะพ่วงเข้ากับแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อเปิดโหมดกล้องวงจรปิดเพิ่มได้อีกด้วยAdvertisement เลือกกล้องติดรถยนต์อย่างไรให้คุ้ม ถ่ายภาพได้คมชัด? การติดตั้งกล้องติดรถยนต์เอาและแจ้งกับทางประกันภัยจะได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 5~10% กล้องหน้ารถสามารถเชื่อมสายไฟเข้ากับแบตเตอรี่รถยนต์เพื่อเปิดระบบกล้องวงจรปิด เก็บภาพเวลาจอดรถไว้ในลานจอดรถได้ ในกล่องกล้องติดรถยนต์จะมีอุปกรณ์ DIY แถมมาให้ผู้ใช้ติดตั้งได้เอง สามารถต่อปลั๊กร้อยสายไฟติดตั้งได้ไม่ยากมาก 7 กล้องติดรถยนต์น่าใช้ ถ่ายคลิปคมชัดทุกวินาที! Aston...

Mac Corner

อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้เสมอไม่ว่าจะแบบใดก็ตาม ปัญหาว่าไอแพดเปิดไม่ติดก็ต้องหาทางซ่อมไอแพดให้กลับมาใช้งานได้ตามเดิม นับเป็นปัญหากวนใจชาว Apple มาก ยิ่งใครเก็บงานเอาไว้ในแท็บเล็ตตัวนี้แล้วไม่ได้ Cloud sync แบ็คอัพงานเอาไว้เจอแบบนี้ก็เดือดร้อนไปตามกัน ซึ่งอันที่จริงวิธีแก้ปัญหาไอแพดไม่ทำงานนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดและอาจเป็น “เส้นผมบังภูเขา” ซึ่งถ้าเป็นปัญหาด้านซอฟท์แวร์ก็ทำเองได้ไม่ยาก แล้วถ้าเกิดจากฮาร์ดแวร์แล้วจะส่งศูนย์ให้ดูแลต่อก็ว่ากันไปอีกกรณีหนึ่ง ไอแพดเปิดไม่ติดเกิดจากอะไรได้บ้าง? อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นมีโอกาสทำงานผิดพลาดได้ทั้งหมด แต่วิธีเช็คแนะนำให้แก้ปัญหาด้านซอฟท์แวร์ก่อนแล้วไปเช็คฮาร์ดแวร์ในภายหลัง อุปกรณ์ Apple ไม่ว่าจะ iPad หรือ iPhone สามารถกด Restart...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก