Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

MacBook เล่นเน็ตไม่ได้ ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แก้อย่างไรดี ?

เดี๋ยวนี้ในการใช้งานคอมพิวเตอร์แต่ละครั้งก็จำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ตเป็นพื้นฐานกันหมดแล้วนะครับ สำหรับในส่วนของ MacBook เองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

เดี๋ยวนี้ในการใช้งานคอมพิวเตอร์แต่ละครั้งก็จำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ตเป็นพื้นฐานกันหมดแล้วนะครับ สำหรับในส่วนของ MacBook เองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ระบบเครือข่ายไร้สายหรือ Wireless ก็เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากสะดวกและคล่องตัวกว่าการเชื่อมต่อผ่านสายแลนอยู่มากมาย อีกทั้งความเร็วที่ได้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงและช่วยให้ใช้งาน ณ จุดใดในที่ต่างๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สำนักงาน ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้าหรืออื่นๆ ก็ตาม

MacBook-Pro-Wireless-WiFi

Advertisement

ซึ่งหากไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายได้ ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากทีเดียว เพราะต้องหาสาย LAN มาต่อเพียงอย่างเดียว คงไม่ใช่ทางออกที่ดีนักในการใช้งาน ที่สำคัญใน MacBook รุ่นใหม่ๆ ก็จะไม่มีพอร์ต LAN มาให้แล้ว จะใช้งานทีหนึ่งจำเป็นหาอแดปเตอร์มาต่อเพื่อแปลงสายอีก ซึ่งแต่ก่อนที่จะหาตัวแปลงเข้าไปเพื่อทดแทนการใช้งานไร้สาย Wi-Fi นั้น ?ซึ่งเป็นทางแก้ปลายเหตุ ก็คงต้องมาดูกันก่อนว่าสาเหตุที่เป็นปัญหานั้นเกิดขึ้นจากสิ่งใด

macbookair_wifi-100043977-large

เบื้องต้นอาจจะต้องไปดูก่อนว่า สัญญาณที่ Wi-Fi ออกมานั้นมีความแรงมากน้อยเพียงใด ในบางครั้งอยู่ในจุดอับสัญญาณหรือสัญญาณไม่นิ่ง ก็ทำให้การเชื่อมต่อทำได้ไม่ต่อเนื่องและจะพบปัญหาการหลุดการเชื่อมต่อ หากเป็นเช่นนี้ ต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนที่นั่งหรือเปลี่ยนจุดที่ตั้ง Access point หรือถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องติดตั้งเสาสัญญาณใหม่ ?ที่เพิ่มความแรงในการส่งให้มากยิ่งขึ้น

วิธีแก้ไขปัญหา?MacBook เล่นอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ เบื้องต้น

  • ทดลองปิดเปิดเราท์เตอร์ใหม่
  • ตรวจสอบดูว่าเราท์เตอร์ร้อนเกินไปหรือเปล่า
  • ทดลองปิดเปิด Wi-Fi ที่เครื่อง MacBook ใหม่
  • ทดลองปิดเปิดเครื่อง MacBook ใหม่

ถ้ายังไม่ได้ ก็ให้เรามาตรวจสอบถึงปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เครื่อง MacBook ของเราไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตและ Wi-Fi ได้

  1. ปัญหาเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ Wi-Fi มากกว่าหนึ่งเครื่องหรือไม่
    • ปัญหา Wi-Fi อาจมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่มีปัญหาหรืออาจมีความเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ Wi-Fi ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้น โดยปกติแล้ว หากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครื่องอื่นๆ (เช่น Apple TV หรือ iPhone) สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีปัญหา แสดงว่าเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณก็น่าจะไม่มีปัญหา
    • หากคุณมีอุปกรณ์ Wi-Fi เครื่องเดียว ให้อ่านบทความนี้ต่อ
  2. ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    • ติดตั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่มีสำหรับ Mac ของเรา
    • หากเราใช้เราเตอร์ Wi-Fi ของบริษัทอื่นๆ ให้ตรวจสอบกับผู้ผลิตเพื่อยืนยันว่าคุณได้ติดตั้งเฟิร์มแวร์ล่าสุดแล้ว หากมีการอัปเดต ให้ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่ออัปเดตเฟิร์มแวร์
    • เมื่อต้องการระบุว่าเฟิร์มแวร์สถานีฐาน Wi-Fi ของ Apple ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือไม่ โปรดดูการอัปเดตซอฟต์แวร์ของเรา
  3. ตรวจสอบการเชื่อมต่อของคุณ
    • ปัญหาเครือข่ายบางอย่างอาจมาจากสายที่หลวมหรือหลุด ตรวจสอบว่าสายอีเธอร์เน็ตและสายไฟที่เชื่อมต่อระหว่างโมเด็มของคุณและเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณเชื่อมต่อถูกต้อง การตรวจสอบว่าอุปกรณ์เช่น เราเตอร์และโมเด็มเปิดอยู่ การถอดสายและค่อยๆ เสียบสายอีเธอร์เน็ตใหม่ และ/หรือการเปลี่ยนสายอีเธอร์เน็ตที่เสียหายอาจสามารถแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องทำการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมได้
  4. ตรวจสอบว่าคุณกำลังใช้การตั้งค่าที่แนะนำสำหรับอุปกรณ์ของคุณ
  5. รีสตาร์ทอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ
    • การปิดโมเด็มหรือเราเตอร์เป็นเวลาสองสามวินาทีจากนั้นเปิดใหม่อาจแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเครือข่ายได้โดยไม่ต้องแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม หากคุณใช้บริการโทรศัพท์ผ่าน ISP ของคุณ การหมุนเวียนพลังงานโมเด็มของคุณอาจเป็นการขัดจังหวะบริการดังกล่าว คุณอาจต้องติดต่อ ISP ของคุณเพื่อให้กู้คืนบริการโทรศัพท์ของคุณ ถ้ามีการรีเซ็ตหรือปิดโมเด็มของคุณ ตรวจสอบว่ามีวิธีการอื่นในการติดต่อ ISP ของคุณ (เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความล่าช้าในการเรียกคืนบริการอินเตอร์เน็ตหรือโทรศัพท์

การแก้ไขปัญหา MacBook ใช้งานอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ไม่ได้

อาการ: Mac ของฉันไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

  • เว็บเพจไม่เปิดใน Safari หรือเว็บเบราว์เซอร์อื่น หน้าเหล่านี้อาจว่างหรือคุณอาจได้รับการเตือนว่า “คุณไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต”
  • แอปพลิเคชั่นอินเทอร์เน็ตเช่น Mail, iChat หรือ App Store ไม่สามารถเชื่อมต่อกับบริการได้

หมายเหตุ: เราเตอร์อาจถูกกำหนดค่าให้อนุญาตบริการบางอย่างใช้อินเทอร์เน็ต (เช่น Mail) ได้ขณะป้องกันไม่ให้บริการอื่นๆ ใช้อินเทอร์เน็ตได้ (เช่น เว็บเบราว์เซอร์) หากคุณไม่แน่ใจว่าเครือข่ายของคุณถูกกำหนดค่าในลักษณะนี้หรือไม่ ให้ติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่ายของคุณ หากเครือข่ายของคุณไม่ถูกกำหนดค่าในลักษณะนี้และแอปพลิเคชั่นอินเทอร์เน็ตบางอย่างทำงาน และบางอย่างไม่ทำงาน แสดงว่าปัญหาอาจมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ

ใช้ขั้นตอนเหล่านี้หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่สามารถใช้งานออนไลน์ได้

  1. ตรวจสอบว่า Wi-Fi เปิดอยู่Mac OS X จะอนุญาตให้คุณปิดการ์ด Wi-Fi (AirPort) ของคุณอย่างสมบูรณ์ในกรณีที่คุณไม่ต้องการใช้ บางครั้ง การ์ด Wi-Fi อาจถูกปิดโดยไม่ได้ตั้งใจ หากอินเทอร์เฟซ Wi-Fi ของคุณเปิดอยู่และเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เมนู Wi-Fi จะเป็นตัวหนา เมนู Wi-Fi จะอยู่ที่มุมขวาบนของหน้าจอ

    แถบเมนู AirPort

    หากเมนูของคุณมีลักษณะเหมือนด้านลน แสดงว่าคอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย Wi-Fi ให้ไปยังขั้นตอนที่ 2 ด้านล่าง

    หาก Wi-Fi ปิดอยู่ ให้เลือก?เปิด Wi-Fi?จากเมนู

    หมายเหตุ: หากเมนู Wi-Fi มีเครื่องหมายตกใจ โปรดดูบทความนี้

    หากไอคอนไม่ปรากฏในแถบเมนู ให้เลือก?การตั้งค่าระบบ?จากเมนู?Apple?คลิกไอคอน เครือข่าย จากนั้นเลือก Wi-Fi ทำเครื่องหมายในช่องถัดจาก “แสดงสถานะ Wi-Fi ในแถบเมนู”

    HT4628 02 th

    หากอินเทอร์เฟซ Wi-Fi ของคุณไม่ปรากฏในการตั้งค่าระบบ แสดงว่าคุณจะต้องตรวจสอบว่าการ์ด Wi-Fi ของคุณปรากฏใน Mac ของคุณ เริ่มจากสื่อการติดตั้งที่มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือจาก?Recovery HD?หากได้ติดตั้ง OS X Lion คอมพิวเตอร์ของคุณควรสามารถเข้าถึงเครือข่ายที่ใช้งานได้

  2. หากคุณยังไม่สามารถใช้งานออนไลน์ได้ ให้ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่ถูกต้อง

    เครือข่าย Wi-Fi ของคุณควรอยู่ในรายการในเมนู Wi-Fi เครือข่าย Wi-Fi ที่ Mac ของคุณเชื่อมโยงจะถูกเลือกดังแสดงด้านล่าง:

    HT4628 03 th

    เลือกเครือข่ายของคุณหากยังไม่ได้เลือก หากเครือข่าย Wi-Fi ของคุณมีการป้องกันด้วยรหัสผ่าน คุณจะถูกพร้อมท์ให้ป้อนรหัสผ่านดังแสดงด้านล่าง

    การรับรองความถูกต้องของ AirPort

    หมายเหตุ: หากคุณไม่ทราบรหัสผ่านของเครือข่ายของคุณ คุณจะต้องติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบ/เจ้าของเครือข่าย คุณอาจต้องกำหนดค่าเราเตอร์ของคุณเพื่อกำหนดรหัสผ่านสำหรับเครือข่าย

    เครือข่าย Wi-Fi ของคุณอาจไม่สามารถมองเห็นได้ในรายการ หากเครือข่ายปิดอยู่ เครือข่ายจะไม่ประกาศชื่อเครือข่าย ในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ให้เลือก?เข้าร่วมเครือข่ายอื่น?จากเมนู?Wi-Fi?คุณจะถูกพร้อมท์ให้ป้อนชื่อเครือข่ายและการตั้งค่าความปลอดภัย

    การรับรองความถูกต้องเครือข่ายที่ปิดของ AirPort

    ป้อนชื่อของเครือข่ายของคุณแล้วเลือก ความปลอดภัย ที่เครือข่ายของคุณใช้

    หากเครือข่ายของคุณยังไม่สามารถมองเห็นได้ในรายการเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ แสดงว่าเครือข่ายอาจกำลังใช้ Wi-Fi มาตรฐานที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้ Mac ส่วนใหญ่จะรองรับ Wi-Fi มาตรฐานทั่วไปทั้งหมด วิธีตรวจสอบว่ามาตรฐานใดบ้างที่ Mac รองรับ ใช้?ยูทิลิตี้เครือข่าย?ตั้งค่าอินเทอร์เฟซเครือข่ายเป็น Wi-Fi แล้วตรวจสอบข้อมูลที่อยู่หลัง “รุ่น:”

    HT4628 06 th

  3. หากคอมพิวเตอร์ของคุณได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่ถูกต้องแล้วแต่คุณยังไม่สามารถใช้งานออนไลน์ได้ คุณควรตรวจสอบการตั้งค่า TCP/IP ในบานหน้าต่าง เครือข่าย ของการตั้งค่าระบบ
    1. เลือก?การตั้งค่าระบบ?จากเมนู?Apple
    2. เลือก?เครือข่าย?จากเมนู?มุมมอง
    3. เลือก Wi-Fi จากนั้นคลิกปุ่ม ขั้นสูง ในมุมซ้ายล่างของหน้าจอ
    4. เลือกแท็บ TCP/IP จากด้านบนของหน้าจอ
    5. หน้าต่างของคุณควรมีลักษณะดังนี้ (การกำหนดค่า IPv4 ของคุณอาจแตกต่างและที่อยู่ IPv4 จะแตกต่างอย่างแน่นอน):
      HT4628 07 th 
    6. หากไม่มีที่อยู่ IPv4 ปรากฏอยู่ หรือหากที่อยู่ IP เริ่มด้วย “169.254.xxx.xxx” ให้คลิก “ต่ออายุการเช่าช่วงเวลา DHCP”
    7. สอบถามผู้ดูแลระบบเครือข่ายของคุณเพื่อระบุการตั้งค่า TCP/IP ที่ถูกต้องสำหรับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ หากไม่มีการตั้งค่า TCP/IP ที่ถูกต้องแล้ว คอมพิวเตอร์ของคุณจะไม่สามารถใช้งานออนไลน์ได้
    8. หากการตั้งค่า TCP/IP ของคุณปรากฏว่าถูกต้องแล้ว คอมพิวเตอร์ของคุณยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ให้ตรวจสอบแท็บ DNS ดูแท็บนี้ด้านล่าง DNS คือบริการอินเทอร์เน็ตที่จะแปลที่อยู่ IP ให้เป็น URL และในทางกลับกัน การกำหนดค่า DNS จะอนุญาตให้คอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่อกับ?www.apple.com?โดยไม่ต้องป้อนที่อยู่ IP เฉพาะของเซิร์ฟเวอร์ AppleHT4628 08 th
    9. คุณอาจต้องติดต่อ ISP ของคุณสำหรับที่อยู่ DNS หรือใช้ DNS ที่ผู้ให้บริการสาธารณะให้ไว้ เมื่อต้องการเพิ่มที่อยู่ DNS ใหม่ เพียงคลิกปุ่ม + แล้วป้อนที่อยู่ IP สำหรับ DNS นั้น
  4. ลองเชื่อมต่อกับเราเตอร์ของคุณผ่านอีเธอร์เน็ต หาก Mac ของคุณมีอีเธอร์เน็ต เชื่อมต่อสายอีเธอร์เน็ตโดยตรงกับเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณจากคอมพิวเตอร์ของคุณ
  5. ตรวจสอบช่วงไปยังเราเตอร์ Wi-Fi และลดการรบกวน หากคอมพิวเตอร์ของคุณไกลจากเราเตอร์ Wi-Fi เกินไปหรือสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณมีการรบกวน Wi-Fi มากเกินไป คอมพิวเตอร์ของคุณอาจไม่สามารถตรวจจับเครือข่าย Wi-Fi อย่างถูกต้องได้ วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบขีดจำกัดของช่วงกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณคือการย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณหรือเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณให้ใกล้กันมากขึ้นแล้วตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ (เช่น ผนัง ตู้ เป็นต้น) ระหว่างเราเตอร์และคอมพิวเตอร์ของคุณโปรดดู?แหล่งที่อาจรบกวนสัญญาณไร้สาย?สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรบกวน สาเหตุ และวิธีแก้ไข
  6. ลองเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อื่น

    หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มีอาการเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อื่น แสดงว่าปัญหาอาจมีความเกี่ยวข้องกับเราเตอร์เครือข่ายหรือ ISP ของคุณ ในกรณีนั้น คุณควรติดต่อผู้ผลิตเราเตอร์หรือ IPS ของคุณ

อาการ: เครือข่าย Wi-Fi ดูเหมือนทำงานช้า

  • การสตรีมภาพยนตร์อาจข้ามหรือหยุดชั่วคราว
  • iTunes หรือการดาวน์โหลดอื่นๆ อาจใช้เวลานานเกินไปในการดาวน์โหลดให้เสร็จสมบูรณ์
  • เว็บเพจอาจไม่โหลดอย่างรวดเร็ว

หากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตช้าบนคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ยืนยันว่าเครือข่ายของคุณรองรับมาตรฐาน Wi-Fi ที่ถูกต้อง 802.11n จะให้ความเร็ว Wi-Fi ที่เร็วที่สุด มาตรฐานอื่นๆ ก็มีความเร็วเช่นกัน แต่คุณควรยืนยันว่าคอมพิวเตอร์ของคุณกำลังใช้โปรโตคอลที่เร็วที่สุดที่มีอยู่

  1. กดคีย์ Option ค้างไว้ขณะคลิกเมนู Wi-Fi

    คีย์ Option ของ AirPort

    เส้นโหมด PHY จะแสดงโปรโตคอลที่คอมพิวเตอร์ของคุณใช้ในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi หากโปรโตคอล 802.11 ที่คาดคิดไว้แสดงอยู่ คุณควรตรวจสอบการตั้งค่าของเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณ ให้สอบถามผู้ผลิตเราเตอร์ของคุณสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดค่า

  2. ปิดใช้งานบริการเครือข่ายอื่นๆ ที่ใช้งานอยู่ บริการเครือข่ายที่ใช้งานอยู่จะใช้แบนด์วิธที่มีอยู่ส่วนหนึ่ง ตัวอย่างของบริการเหล่านี้คือ เซิร์ฟเวอร์ไฟล์ การสตรีมวิดีโอ เกมออนไลน์ และอื่นๆ เมื่อบริการเหล่านี้ใช้งานอยู่ อาจทำให้บริการอื่นๆ ช้าลงได้ ลองปิดแอปพลิเคชั่นเครือข่ายที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อเพิ่มความเร็วของแอปพลิเคชั่นอื่น โปรดทราบว่าคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครื่องอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของคุณอาจมีส่วนทำให้ประสิทธิภาพลดลง หากคุณไม่แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่ ให้ลองปิดหรือยกเลิกการเชื่อมต่อจากเครือข่าย
  3. ใช้การรับรองความถูกต้อง WPA2 หากมี โหมดการรับรองความถูกต้อง WPA2 จะตรงตามมาตรฐานสูงสุดในการใช้งานกับ Wi-Fi และควรใช้เพื่อให้ความเร็วที่ดีที่สุดสำหรับเครือข่าย Wi-Fi รุ่นใหม่ วิธีการรับรองความถูกต้องอื่นๆ อาจลดประสิทธิภาพของเครือข่าย Wi-Fi ของคุณได้ ในการเปลี่ยนวิธีการรับรองความถูกต้องที่เราเตอร์ Wi-Fi ใช้ คุณจะต้องติดต่อผู้ผลิต
  4. ตรวจสอบช่วงไปยังเราเตอร์ Wi-Fi และลดการรบกวน หากคอมพิวเตอร์ของคุณไกลจากเราเตอร์ Wi-Fi เกินไปหรือสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณมีการรบกวน Wi-Fi มากเกินไป คอมพิวเตอร์ของคุณอาจไม่สามารถตรวจจับเครือข่าย Wi-Fi อย่างถูกต้องได้ วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบขีดจำกัดของช่วงกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณคือการย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณหรือเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณให้ใกล้กันมากขึ้นแล้วตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ (เช่น ผนัง ตู้ เป็นต้น) ระหว่างเราเตอร์และคอมพิวเตอร์ของคุณ

    โปรดดู?แหล่งที่อาจรบกวนสัญญาณไร้สาย?สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรบกวนและวิธีแก้ไข

  5. ลองเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อื่น หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานตามปกติเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อื่น แสดงว่าปัญหาอาจมีความเกี่ยวข้องกับเราเตอร์เครือข่ายหรือ ISP ของคุณ ในกรณีนั้น ให้ติดต่อผู้ผลิตเราเตอร์หรือ IPS ของคุณ

อาการ: การเชื่อมต่อเครือข่ายหลุดอย่างไม่คาดคิด

  • Mac ของคุณอาจไม่เชื่อมต่ออย่างต่อเนื่องกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณอย่างน่าเชื่อถือได้
  • Mac ของคุณอาจหยุดเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตขณะใช้งาน

ใช้ขั้นตอนเหล่านี้หากคอมพิวเตอร์ของคุณหลุดจากการเชื่อมต่อจากเครือข่าย Wi-Fi อย่างไม่คาดคิด

  1. ตรวจสอบช่วงไปยังเราเตอร์ Wi-Fi และลดการรบกวน

    หากคอมพิวเตอร์ของคุณไกลจากเราเตอร์ Wi-Fi เกินไปหรือสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณมีการรบกวน Wi-Fi มากเกินไป คอมพิวเตอร์ของคุณอาจไม่สามารถตรวจจับเครือข่าย Wi-Fi อย่างถูกต้องได้ วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบขีดจำกัดของช่วงกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณคือการย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณหรือเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณให้ใกล้กันมากขึ้นแล้วตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ (เช่น ผนัง ตู้ เป็นต้น) ระหว่างเราเตอร์และคอมพิวเตอร์ของคุณ

    โปรดดู?แหล่งที่อาจรบกวนสัญญาณไร้สาย?สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรบกวนและวิธีแก้ไข

  2. ลองเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อื่น หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานตามปกติเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi อื่น แสดงว่าปัญหาอาจมีความเกี่ยวข้องกับเราเตอร์เครือข่ายหรือ ISP ของคุณ ในกรณีนั้น ให้ติดต่อผู้ผลิตเราเตอร์หรือ IPS ของคุณ

อาการ: หลังจากรีสตาร์หรือปลุกจากการพักเครื่อง คอมพิวเตอร์ของฉันอาจไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

  • หลังจากปลุกจากการพักเครื่องหรือเริ่มต้นการทำงาน คอมพิวเตอร์ของคุณอาจไม่แสดงว่ากำลังเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย Wi-Fi
  • หลังจากรีสตาร์หรือปลุกเครื่อง คอมพิวเตอร์ของคุณอาจแสดงว่าได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย แต่ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

 

วิธีแก้ไข

ใช้ขั้นตอนเหล่านี้หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่คุณต้องการโดยอัตโนมัติ

1. ตรวจสอบการตั้งค่า TCP/IP ของคุณในบานหน้าต่าง เครือข่าย ของการตั้งค่าระบบ คลิกปุ่ม “ต่ออายุการเช่าช่วงเวลา DHCP”

  1. เลือก?การตั้งค่าระบบ?จากเมนู?Apple
  2. เลือก?เครือข่าย?จากเมนู?มุมมอง
  3. เลือก Wi-Fi จากนั้นคลิกปุ่ม ขั้นสูง ในมุมซ้ายล่างของหน้าจอ
  4. คลิกแท็บ TCP/IP จากด้านบนของหน้าจอ
  5. คลิกปุ่ม “ต่ออายุการเช่าช่วงเวลา DHCP”

HT4628 10 th

2. เลือกแท็บ Wi-Fi แล้วดูรายการ เครือข่ายที่แนะนำ ของคุณ

  1. เลือกแต่ละเครือข่ายแล้วคลิกเครื่องหมาย ลบ (-) เพื่อลบเครือข่ายเหล่านั้นออกจากรายการ เครือข่ายที่แนะนำ ของคุณ
  2. คลิก ตกลง แล้วปิดการตั้งค่าเครือข่าย

HT4628 11 th

3. ลบรหัสผ่านของเครือข่ายที่จัดเก็บไว้ของคุณโดยใช้ ยูทิลิตี้การเข้าถึงพวงกุญแจ

  1. เปิดการเข้าถึงพวงกุญแจจาก /แอปพลิเคชั่น/ยูทิลิตี้ หน้าต่างของคุณจะมีลักษณะดังนี้:
    HT4628 12 th
  2. ลบรหัสผ่านเครือข่าย AirPort ของคุณจากพวงกุญแจล็อกอิน: เลือกพวงกุญแจ “ล็อกอิน” จากแถบด้านข้างของพวงกุญแจ คลิกคอลัมน์ “ชนิด” เพื่อสั่งรายการพวงกุญแจตามชนิดพวงกุญแจ ลบรายการทั้งหมดของชนิดนั้นออก: “รหัสผ่านของเครือข่าย AirPort”
  3. ลบรหัสผ่านของเครือข่าย AirPort ของคุณออกจากพวงกุญแจระบบ: เลือกพวงกุญแจ “ระบบ” จากแถบด้านข้างของพวงกุญแจ คลิกคอลัมน์ “ชนิด” เพื่อสั่งรายการพวงกุญแจตามชนิดพวงกุญแจ ลบรายการทั้งหมดของชนิดนั้นออก: “รหัสผ่านของเครือข่าย AirPort”

    หมายเหตุ: ขั้นตอนด้านบนจะเป็นการลบรหัสผ่านเครือข่าย Wi-Fi ของคุณออก หากคุณไม่ทราบรหัสผ่าน หรือหากเครือข่ายของคุณไม่ใช้รหัสผ่านเพื่อจำกัดการเข้าถึง คุณควรติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่ายของคุณ

4. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ

5. เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ คุณจะต้องป้อนรหัสผ่านของคุณสำหรับเครือข่ายอีกครั้งหากจำเป็น

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

สินค้าใน Apple Ecosystem นอกจาก iPhone ก็มีแท็บเล็ตอย่าง iPad ซึ่งมีรุ่นย่อยมากมาย แต่รุ่นที่ใครก็อยากได้อย่าง iPad Pro ราคาเริ่มต้นตอนนี้ก็ค่อนข้างสูง เริ่มต้นตอนนี้ก็ต้องมีเงินหลักสามหมื่นบาทแล้ว แม้ราคาจะสูงแต่ก็เป็นอุปกรณ์ทำงานอีกชิ้นที่คนใช้อุปกรณ์ Apple มีเอาไว้แล้วทำงานสะดวกขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเสริมให้ MacBook, เซ็นเอกสาร, ตัดต่อคลิป ฯลฯ ได้สะดวกมาก ยิ่งถ้ามี Apple...

How to

ในวันหยุดหรือหลังเลิกงาน เชื่อว่าหลายคนก็มี YouTube เป็นเพื่อนไว้ดูหนัง, การ์ตูนหรือฟัง Podcast กันแน่นอน แต่ถ้าไม่อยากให้โฆษณากวนใจก็ต้องสมัคร YouTube Premium เพิ่มให้ดูคลิปได้ต่อเนื่องไม่ให้เสียอารมณ์นัก ซึ่งบางคนก็ไม่ชอบที่ Google ทำแบบนี้นักจึงหาวิธีแก้ทางร้อยแปดมาใช้กัน กลับกันการใช้บัญชี Premium ยอมเสียค่าบริการคนละ 179 บาท/เดือน จะเป็นแพ็คเกจแบบตัดโฆษณาใน YouTube Music ไปในตัว ทำให้เวลาฟังเพลงไม่ต้องโดนยิงสปอตโฆษณาให้เสียอารมณ์...

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Mac Corner

ขึ้นชื่อว่าเป็นไอโฟนเป็นใครอยากได้ ว่าด้วยราคาเครื่องจะจ่ายเงินสดรอบเดียวก็ยังได้แต่ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องใช้เงินก้อนเมื่อไหร่ หลายคนจึงเลือกวิธีผ่อนไอโฟนทีละงวดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 10 ถึง 30 เดือนก็มี ตามที่ร้านค้ากับธนาคารเจ้าของบัตรจะทำข้อตกลงกันไว้ ทำให้ลูกค้าได้เปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น และยังไม่รวมแคมเปญอื่นๆ จาก Apple กับตัวแทนจำหน่ายแต่ละเจ้าเอามาเป็นจุดจูงใจเพิ่มเติมอีกด้วย ข้อดีของการจ่ายเงินผ่อน นอกจากไม่ต้องลงเงินก้อนครั้งเดียวแต่เฉลี่ยจ่ายไปเรื่อยๆ จนครบได้แล้ว ยังมีเครื่องมือทางการเงินอีกหลายอย่างเข้ามาช่วยแบ่งเบาผู้ใช้ได้อีกมาก ไม่ว่าจะใช้แต้มในบัตรเครดิตหักลดราคาเครื่องก่อนผ่อนชำระได้, กดส่งโค้ดเอาแต้มกับเงินคืนไว้ใช้ในโอกาสอื่นได้ไม่พอ ในยุคนี้บางร้านค้ายังให้ผ่อนด้วยบัตรประชาชนใบเดียวได้อีก เป็นทางเลือกเพื่อคนไม่มีบัตรเครดิตแต่มีเงินในกระเป๋าแบ่งจ่ายค่าเครื่องได้สะดวกไม่แพ้กันAdvertisement ผ่อนไอโฟนวิธีไหนได้บ้าง? ปัจจุบันสามารถผ่อนมือถือได้หลายวิธี...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก