ปัญหาลบไวรัสไม่ออก นับเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ทำให้เครื่องที่ใช้นั้นลดศักยภาพลงไปเรื่อยๆ ยิ่งหากเป็นเครื่องรุ่นเก่าหรือช้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งแย่ลงไปใหญ่ การรีบหาทางแก้ไขปัญหา เพื่อที่จะลบหรือทำลายไวรัสเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ แต่ในเมื่อลบไม่ได้ ก็ต้องมาดูกันว่าจะทำอย่างไรกันดี
สิ่งแรกที่ควรต้องทำก็คือ การตรวจสอบให้ได้ว่าไวรัสที่ติดเครื่องมานั้นเป็นแบบใด โดยบางครั้งไม่ได้ออกอาการอย่างชัดเจน แต่มีการแฝงทำงานในเบื้องหลัง อย่างเช่น Trojan หรือ Malware ที่ซ่อนตัวได้มิดชิดทีเดียว ต่างจากไวรัสทั่วไปหรือ Adware ที่แสดงตัวให้เห็นอย่างชัดเจน การที่เราต้องทราบถึงชนิดของไวรัสก็เพื่อที่จะได้ค้นหาเครื่องมือสำหรับการแก้ไข ซึ่งความจริงมีหลายแนวทางในการแก้ไขปัญหาลบไวรัสไม่ออก เพียงแต่ว่าไวรัสบางตัวหรือบางชนิดจะมีขั้นตอนการลบที่เยอะอยู่บ้าง จึงต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น
ขั้นตอนแรกให้ตรวจสอบก่อนว่า Anti Virus ที่ใช้อยู่นั้นมีการอัพเดตให้ทันสมัยอยู่หรือไม่ เพราะพื้นฐานและโอกาสในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนที่มีการออนไลน์ต่อเนื่องหรือมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็อาจจะมีโอกาสที่อัพเดตได้ถี่ แต่บางคนเป็นการใช้งานแบบ Stand alone หรือไม่ค่อยได้ต่ออินเทอร์เน็ต เน็ตช้า การอัพเดตก็คงเป็นไปได้ยาก แต่การอัพเดตเป็นการบอกให้โปรแกรมเรียนรู้และรับทราบพฤติกรรมของไวรัสได้ทัน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาทางอัพเดต เป็นเรื่องแรกที่ควรเริ่มต้นทำในทันที
ขั้นตอนที่สอง การเลือกโปรแกรมแอนตี้ไวรัสให้เหมาะสม อย่างเช่น ในกรณีที่ไม่ได้มีการต่ออินเทอร์เน็ตหรือทำธุรกรรมออนไลน์และใช้งานในการเชื่อมต่อเครือข่ายบ่อยนัก Anti Virus เป็นทางออกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความสามารถในการตรวจสอบ ด้วยระบบที่พร้อมในการตรวจจับสิ่งผิดปกติที่อยู่ในระบบ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสทั่วไปหรือการคุกคามพื้นฐาน แต่หากเป็น Internet Security จะเพิ่มฟังก์ชั่นในการตรวจจับภัยคุกคามประเภท Anti Spam, Phishing, Anti Theft รวมไปถึง Firewall และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่ช่วยในการป้องกันจากการเชื่อมต่อเครือข่ายได้ดียิ่งขึ้น ฉะนั้นเลือกใช้ให้ถูกและเหมาะสม
ขั้นตอนที่สาม ในบางครั้ง Anti Virus แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย อาจไม่ได้ตอบโจทย์กับการใช้งานและมีความปลอดภัยตามที่ต้องการ เพราะเครื่องมืออาจไม่ได้ป้องกันทุกสิ่งอย่างจากการคุกคามได้ อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้น การเลือกซื้อหรือใช้แอนตี้ไวรัสแบบที่มีค่าใช้จ่าย ก็น่าจะเป็นรูปแบบการป้องกันที่ดีและคุ้มค่ากว่า หากต้องการความปลอดภัยขั้นสูง ในการทำธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงส่งผลให้การตรวจจับไวรัสที่นอกเหนือจากการป้องกันปกติทำได้ดีขึ้น
ขั้นตอนที่สี่ เลือกเครื่องมือที่ใช้ในการลบเพิ่มเติมหรือที่คุ้นตาในสิ่งที่เรียกว่า Removable ในบางครั้งการที่ไวรัสมีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ก็ทำให้โปรแกรม Anti Virus ไม่สามารถตรวจจับได้ถูกต้องหรือบางครั้งผู้ใช้ตั้งค่าการทำงานไว้ไม่รัดกุม ก็มีโอกาสเสี่ยงสูง ในกรณีที่โปรแกรมปกติไม่สามารถตรวจจับได้หรือไม่อาจลบไวรัสได้ตามต้องการ ก็อาจต้องใช้การดาวน์โหลดเครื่องมือในการลบ โดยมีเครื่องมือ 2 รูปแบบคือ Removable ที่เป็นตัวกลาง อย่างเช่น Malware Removable หรือ Trojan Detection ทั้งสองแบบนี้จะเป็นการระบุไวรัสในรูปแบบที่ต้องการ ส่วนอีกแบบหนึ่งจะเป็นเครื่องมือลบแบบเจาะจงตัวไวรัส อย่างเช่น Trojan.BC Removable, TR/PSW.Kates.H ซึ่งจะสแกนหาเฉพาะไวรัสที่มีรูปแบบหรือพฤติกรรมเฉพาะตัวเท่านั้น
ขั้นตอนสุดท้าย ในบางครั้งการที่ไวรัสโจมตี จนแทบจะไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือเกิดความเสียหายจนยากจะเยียวยา อย่างเช่น ไม่สามารถบูตเครื่องได้ เปิดโปรแกรมทำงานช้าหรือไม่เปิดให้ทำงาน รวมถึงไฟล์ข้อมูลเสียหายมากจนเกินไป จนบางครั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสไม่อาจทำงานขึ้นมาได้ ก็คงต้องใช้วิธีล้างเครื่องใหม่ ด้วยการฟอร์แมตเครื่อง เพื่อให้ระบบกลับมาสดใหม่อีกครั้ง แต่ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการแบ็คอัพข้อมูลหรือการจัดเตรียมไฟล์และโปรแกรม เพื่อให้ปลอดภัยในการใช้งานและพร้อมสำหรับการใช้งานอีกครั้ง จัดเป็นวิธีสุดท้ายในการแก้ปัญหา ลบไวรัสไม่ออก ได้อีกทางหนึ่ง