เมื่อสองวันที่ผ่านมาทาง Google ได้จัดงาน Google I/O ซึ่งเป็นงานเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับเหล่านักพัฒนา ที่ผลสุดท้ายก็จะมาตกอยู่กับผู้ใช้อย่างเราๆ นี่เอง ซึ่งลักษณะงานก็จะเป็นเช่นเดียวกับ WWDC ของฝั่ง Apple ครับ โดยเมื่อคืนนี้ก็มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์มากมายหลายกลุ่ม จนแทบเรียกได้ว่า Google จะครองโลกกันเลยยังไงอย่างนั่น ทางเราจึงขอสรุปไฮไลท์เด่นๆ ของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้ได้ชมแล้วกันในบทความนี้
Android L
สำหรับในปีนี้ Google ได้เปิดตัว Android เวอร์ชันใหม่ในชื่อเรียกว่า Android L ไม่มีชื่อโค้ดเนม ไม่มีบอกรหัสรุ่นอีกต่อไป โดยได้มีการปรับเปลี่ยนในหลายๆ จุด ทั้งในส่วนของดีไซน์หน้าตา และระบบภายใน ตัวอย่างข้อมูลที่น่าสนใจก็เช่น
- เปลี่ยนมาใช้คอนเซ็ปท์ดีไซน์ที่มีชื่อว่า Material Design เน้นการออกแบบที่อิงจากวัสดุหลายๆ ประเภท โดยเฉพาะกระดาษ ซึ่งก็จะใกล้เคียงกับคอนเซ็ปท์ในปัจจุบัน แต่จะดูโดดเด้งกว่าเดิม เน้นการใช้สัญลักษณ์เรขาคณิตเข้ามาประกอบมากขึ้น สังเกตได้จากไอคอนปุ่มสั่งงานทั้งสามปุ่ม
- เฟรมเรตของแอนิเมชันการทำงานจะอยู่ที่ 60 fps
- ยังคงความแบนราบ (flat) เอาไว้อยู่ แต่มีแสงเงาเพิ่มความเป็นสามมิติ ช่วยให้สังเกตความเป็นปุ่มกดได้ง่าย
- เปลี่ยนตัว runtime จาก Dalvik ไปเป็น ART เต็มตัว สามารถใช้งานได้ทั้งสถาปัตยกรรม ARM, x86 และ MIPS
- รองรับ 64 บิท
- แอพเดิมๆ แทบไม่ต้องแก้โค้ดเลย
- ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือ, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์, นาฬิกา Android Wear และบนทีวีจะไม่แตกต่างกัน
- หน้าตา Recent Apps เปลี่ยนไปเป็นแบบ card
- ปรับแต่งให้ดึงประสิทธิภาพ GPU ออกมาได้ดีขึ้น
- เพิ่มฟีเจอร์ Battery Saving เข้ามาในตัว
- สามารถปลดล็อคหน้าจอแบบไม่ต้องใส่รหัสได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์ Android อยู่ใกล้เครื่อง เช่นใส่นาฬิกา Android Wear อยู่
- มีระบบแยกแอพ/ข้อมูลของที่ทำงานกับของส่วนตัว ทำให้ไม่ต้องพกมือถือหลายเครื่อง
ทั้งนี้ ยังไม่มีกำหนดการว่าเครื่องในปัจจุบันจะได้รับการอัพเดตเป็น Android L เมื่อไร แต่ที่แน่ๆ HTC ประกาศแล้วว่า HTC One (M7) และ HTC One (M8) จะได้รับการอัพเดตเป็น Android L หลังจาก Google ปล่อยโค้ดเข้าโครงการ AOSP ภายใน 90 วัน ส่วนผู้ใช้งาน Nexus 5 และ Nexus 7 (2013) ในคืนนี้ก็น่าจะมีรอม Android L Developer Preview ออกมาให้ดาวน์โหลดไปลองแฟลชใช้งานกัน (น่าจะยังมีบั๊กประปราย ไม่แนะนำสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป)
Android Wear
- มีการโชว์เดโมใช้งานจริง เช่นการสั่งงานด้วยเสียง การซิงค์ข้อมูลกับมือถือ แท็บเล็ต การแสดง notifications
- ยก Google Now มาใช้บนนาฬิกาแบบจริงจัง
- สามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชันอื่นๆ ได้ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้างแอพสำหรับ Android Wear โดยเฉพาะ
- รองรับการใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- เปิดตัว Samsung Gear Live นาฬิกา smartwatch ที่ใช้ Android Wear
- สำหรับ Samsung Gear Live (ราคา $199 หรือประมาณ 6,400 บาท) และ LG G Watch (ราคา $229 หรือประมาณ 7,400 บาท) จะเริ่มเปิดให้สั่งจองบน Play Store ในคืนนี้ (ในไทยสั่งโดยตรงไม่ได้เช่นเคย) ส่วน Moto 360 คงต้องรอช่วงปลายฤดูร้อนของสหรัฐฯ จึงจะเปิดให้สั่งจอง
Android Fit
- เป็นแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อสุขภาพ
- สามารถทำงานร่วมกับแอพและฮาร์ดแวร์ตัวอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพได้
- เน้นไปในเชิงของนักพัฒนามากกว่าผู้ใช้ทั่วไป (ผู้ใช้อย่างเราๆ จะเห็นผลก็ตอนแอพและระบบออกมาแล้ว)
Android Auto
เป็นไปตามข่าวลือเลยละครับ สำหรับระบบปฏิบัติการที่ใช้ภายในรถยนต์ ของ Google ในงาน Google I/O 2014 ที่ใช้ชื่อว่า Android Auto โดยระบบปฏิบัติการนี้มี 3 ฟีเจอร์หลักๆ คือระบบนำทาง ผ่าน Google Maps , การติดต่อสื่อสาร และการเล่นเพลง ที่พร้อมใช้ได้ผ่านคำสั่งเสียงตลอดเวลา
ซึ่ง Android Auto นั่นจะไม่ใช่ระบบที่ทำงานแยกต่างหากภายในรถยนต์ แต่จำเป็นต้องอาศัยสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในการทำงาน พูดอีกอย่างคือเสมือน Mirror ภาพของ Android ขึ้นไปทำงานบนคอนโซลรถยนต์ และตัดให้เหลือเพียงระบบแผนที่และความสามารถในการนำทาง โทรศัพท์และเล่นเพลง โดยสั่งงานผ่าน Google Now เท่านั้น แต่ก็ยังสามารถใช้งานระบบสัมผัสหน้าจอได้อยู่เช่นกัน
ในส่วนของ Android Auto มี SDK ผ่าน APIs สองส่วนคือเสียง (สตรีมเพลง) และข้อความ (การแจ้งเตือน) โดยมีแอพพลิเคชั่นดังๆ ที่ทำรองรับไว้แล้วอย่าง Spotify, Tune In, Pandora, Songza แต่ไม่มี Toyota (เนื่องจากไปเข้าร่วมกับ Apple CarPlay เต็มตัว และจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการล่าสุดอย่าง Android “L” ในช่วงปลาย 2014 นี้
Android TV
- เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการนำ Android เข้าสู่ทีวีอย่างเต็มตัวของ Google โดยจะยก Play Store และเกมต่างๆ ให้มาใช้งานบนทีวีได้ดีขึ้น
- สามารถใช้มือถือ แท็บเล็ต Android รวมไปถึง Android Wear สั่งงานได้ แน่นอนว่าสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย
- สามารถค้นหาข้อมูลจากทีวี โดยใช้ Google Now ได้เช่นกัน
- มีผู้ผลิตหลายรายตกลงร่วมโครงการ Android TV โดยในส่วนของทีวีก็มี Sony, Sharp และ TPVision เข้าร่วม ส่วนบริษัทอื่นที่น่าสนใจก็เช่น NVIDIA ซึ่งประกาศจะทำเครื่องเกมที่ใช้ Android TV ด้วย
- ด้านของ Chromecast ก็ได้รับการอัพเกรดฟีเจอร์ด้วย ที่เป็นไฮไลท์สุดก็คือสามารถต่อภาพจากมือถือ/แท็บเล็ต Android ไปขึ้นบนทีวีแบบสดๆ ได้แล้ว (แบบเดียวกับที่ Apple TV ทำได้)
- ต่อไปนี้ การเชื่อมต่อมือถือ/แท็บเล็ตเข้ากับ Chromecast ไม่จำเป็นต้องใช้ WiFi วงเดียวกันก็สามารถทำได้
หลักๆ ก็มีอยู่ประมาณนี้นะครับ ที่เหลือก็จะเป็นเนื้อหาส่วนพวก Chromebook และด้านของ Google Cloud ที่เน้นพูดฟีเจอร์ในเชิงนักพัฒนาซะมากกว่า สำหรับใครต้องการชมฉบับเต็ม ก็สามารถเข้าไปดูได้จากวิดีโอ keynote ของ Google จากด้านล่างนี้เลยครับ จัดไปเลย 3 ชั่วโมงเต็ม
ข้อมูลจาก : Specphone