สำนักข่าว Voice TV ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มของธุรกิจร้านเกมในปัจจุบันที่ถึงแม้ว่าธุรกิจร้านเกมในกรุงเทพฯจะซบเซาลง จากตัวเลขการขอยกเลิกใบอนุญาตเกือบ 500 ร้าน แต่ผู้เล่นยังเลือกที่จะเล่นเกมที่ร้านมากกว่าที่บ้าน ขณะที่สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ระบุว่า ในอนาคตร้านเกมจะมีจำนวนที่น้อยลงแต่จะมีขนาดที่ใหญ่และมีคุณภาพมากขึ้น
ร้านเกม ยังไม่ตาย แต่จะปรับให้มีขนาดใหญ่ และมีคุณภาพมากขึ้น!!
โดยภายในร้าน รอคเก็ต (Rocket) ร้านเกมย่านตลาดอมรพันธุ์ สี่แยกเกษตร ยังคงดูคึกคัก แม้ว่าปีที่ผ่านมา ธุรกิจร้านเกมในกรุงเทพฯ จะซบเซาลง เนื่องจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่ถูกลง จนแต่ละบ้านสามารถซื้อคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ไว้ใช้งานได้มากขึ้น
พนักงานดูแลร้าน ยอมรับว่า ลูกค้าลดลงเมื่อเทียบกับ 6 ปีก่อน แต่การปรับตัวของทางร้าน ทั้งขนาดของร้าน ที่เป็นตึกทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นและจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 80 เครื่อง ที่ปรับปรุงระบบทุกๆ 3 ปี ถือเป็นจุดดึงดูดผู้เล่นได้เป็นอย่างดี
ผู้อำนวยการสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องใบอนุญาตประกอบกิจการของร้านเกม มองว่า อนาคตธุรกิจร้านเกมจะเหลือน้อยลง เนื่องจากราคาเทคโนโลยีที่ถูกลง และการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกัน คุณภาพของธุรกิจร้านเกมจะมีมากขึ้น เพราะเจ้าของธุรกิจ ต้องพัฒนาและปรับปรุงร้านให้ตอบสนองต่อความต้องการของสังคม
ปัจจุบันทั่วประเทศมีธุรกิจร้านเกมกว่า 2 หมื่นร้าน และตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2553 จนถึง เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ประกอบการร้านเกมขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์แล้วกว่า 492 ร้านแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละร้านก็ต้องปรับตัวตามยุคตามสมัยเช่นเดียวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์