เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่า Asus จะหันไปใช้ชิปเซ็ทของ Qualcomm แทนบน smartphone ซีรีส์ ZenFone ครับ สาเหตุนั้นไม่เป็นที่แน่ชัดครับแต่ก็ได้มีการคาดการณ์ว่าที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากทาง Intel ไม่มีชิปเซ็ทที่สนับสนุนการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE ซึ่งหาก Asus ไม่เปลี่ยนแปลงก็จะไม่สามารถที่จะแข็งขันได้ในตลาด(คาดว่าจะเป็น ZenFone LTE ครับ) ซึ่งข่าวนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือของชิปเซ็ท Intel ในตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่ลดลงไปพอสมควร ทาง Intel โดย?David McCloskey ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และการดำเนินธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นจึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ vr-zone ครับว่าข่าวนี้ทำให้เกิดความสับสนและการสูญเสียความเชื่อมั่นในสถาปัตยกรรมของ Intel สำหรับตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยรวม ซึ่ง?McCloskey ได้ยืนยันว่าในช่วงตลอดปีที่ผ่านมา Intel ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชิปเซ็ทของ Intel มีความสามารถ ประสิทธิภาพ และอัตราการใช้พลังงานที่ดีไม่ได้ด้อยไปกว่าคู่แข่งรายอื่นแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้จาอหลายๆ อุปกรณ์ที่เลือกใช้ชิปเซ็ทของ Intel อย่างเช่น Lenovo K900 และ Samsung Galaxy Tab 3 เป็นต้นครับ
McCloskey ค่อนข้างที่จะกระตือรือร้นที่จะหักล้างความคิดที่ยังคงมีคนคิดว่า Intel ใช้เงินการการจ้างให้ผู้ผลิตหันมาใช้ชิปเซ็ทของ Intel(ในที่นี้หมายถึงการลดราคาค่าชิปเซ็ทให้กับผู้ผลิต หรือแม้กระทั่งให้เงินสนับสนุนในการสร้างผลิตพัณฑ์ที่ใช้ชิปเซ็ท Intel) ว่าโปรแกรมทั้งหมดที่ทาง Intel กับผู้ผลิตนั้นเป็นความร่วมมือซึ่งกันและกันในการสร้างสรรค์ผลิตพัณฑ์และนวัตกรรมที่ใช้ชิปเซ็ทของ Intel ไม่ได้เป็นโปรแกรมที่ Intel ทำขึ้นเพื่อจ้างให้ผู้ผลิตหันมาใช้ชิปเซ็ทของ Intel แต่อย่างใด ดังจะเห็นได้ว่าชิปเซ็ทของ Intel ดังจะเห็นได้ว่าชิปเซ็ทของ Intel มีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ดีจริงหากเทียบกันกับคู่แข่งที่ใช้ชิปเซ็ทบนสถาปัตยกรรม ARM แล้ว?McCloskey ยอมรับว่าหากเทียบกันแล้วความยืดหยุ่นในการพัฒนาบนสถาปัตยกรรม ARM มีมากกว่า ARM แต่เราก็ได้มีความพยายามในการร่วมงานกับผู้ผลิตในจีนและใต้หวันเพื่อที่จะทำให้การพัฒนาบนสถาปัตยกรรมของ Intel มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ตอนนี้เองทาง Intel ก็ยังไม่ยอมออกจากตลาดง่ายๆ ครับ และยังคงพร้อมที่จะพลักดันให้ตัวเองก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้ชนะในตลาดชิปเซ็ทอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมภาคภูมิ ทั้งนี้ Intel เองก็ยังมีโครงการสำหรับชิปเซ็ทอุปกรณ์เคลื่อนที่ตัวใหม่ที่มาพร้อมกับปริสิทธิภาพที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน อย่างตลาดบนก็จะมี Intel Core M สำหรับ Tablet เป็นผู้แข่งขัน ส่วนตลาดระดับล่างก็จะมี Project SoFIA ที่ในตอนนี้จะรองรับกับการเชื่อมต่อแบบ 3G ก่อน และในปี 2015 จะรองรับกับเชื่อมต่อแบบ 4G LTE ครับ คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่า Intel จะดำเนินการแก้เกมอย่างไรเพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้นำในตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่มาไว้ในกำมือ
ที่มา : vr-zone