หลังจากทางเราได้ไปเดินชมและเก็บภาพบรรยากาศ ภาพผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในบูท ASUS ที่งาน Computex 2014 มาแล้ว ทางเราก็ได้โอกาสในการเข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของ ASUS ที่ไต้หวันอีกด้วย ซึ่งภายในนี้เรียกได้ว่าสมกับเป็นสำนักงานใหญ่จริงๆ ครับ เอาเป็นว่าเรามาชมภาพยากาศพร้อมกับเรื่องราว ข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า
ตึกสำนักงานใหญ่ ASUS ตั้งอยู่นอกเมือง โดยสามารถเดินทางได้ทางรถไฟฟ้า เมื่อออกจากสถานีก็ใช้เวลาเดินอีกไม่เกิน 10 นาที
ใกล้ๆ กันนั้นก็จะเป็นตึกและโรงงาน Pegatron ที่เป็นเครือของ ASUS นั่นเอง เรียกว่าแถบนี้เป็นละแวกของ ASUS จริงๆ แถมยังมีวัดที่เป็นวัดที่เจ้าของ ASUS เป็นผู้ลงทุนสร้างเองอยู่แถวๆ นี้อีกด้วย
วิวจากด้านบนของตึก ASUS ครับ
ภายในตึกก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สนามบาสเกตบอล, ห้องอบซาวน์น่า ถ้าพนักงานคนไหนเลิกงานแล้ว ก็สามารถลงมาใช้บริการได้ตามสะดวกเลย
ห้องทานอาหารของ ASUS สำนักงานใหญ่เรียกว่าหรูมากๆ มีอาหารให้เลือกมากมาย โดยในภาพบนจะเป็นส่วนของบุฟเฟ่ต์ที่สามารถเดินเลือกตักอาหารที่ต้องการได้เลย เมื่อตักเสร็จ ก็ค่อยนำอาหารมาชั่งน้ำหนัก แล้วค่อยจ่ายเงินภายหลัง ส่วนคอกาแฟก็มี Starbuck ให้นั่งจิบกาแฟกันได้ แถมยังมี 7-11 ในตัวอีกด้วย
โต๊ะในห้องทานอาหารของ ASUS มีที่นั่งมากพอสมควรเลยทีเดียว เท่าที่ลองสอบถามดู ภายในตึกสำนักงานใหญ่ ASUS นี้ มีพนักงานทำงานอยู่ถึงกว่า 8,000 คน ซึ่งเป็นแค่กลุ่มงานบริหาร, ค้นคว้าวิจัยและงานอื่นๆ เท่านั้น ยังไม่นับรวมฝั่งโรงงาน ด้วยจำนวนคนที่มากขนาดนี้ ทำให้ต้องมีการจัดกลุ่มกันลงมารับประทานอาหารกันซักหน่อย ส่วนเวลากลับบ้านก็เช่นเดียวกันครับ แต่ไม่ได้กรูออกมา 8,000 คนพร้อมๆ กันนะ เพราะมีพนักงานบางส่วนอยู่ทำงานถึงดึกๆ บางส่วนเลิกงานเย็นก็ทยอยแยกย้ายกลับกันไป โดยพนักงานที่นี่ก็มีทั้งชาวเอเชีย ฝรั่งก็มี
สำหรับในการทัวร์สำนักงานใหญ่ ASUS ครั้งนี้ ก็จะใช้การเดินเวียนฐานกันไปหลายๆ กลุ่มครับ เนื้อหาหลักๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพูดถึงแนวคิด วิธีการออกแบบ เทคโนโลยีต่างๆ ที่ ASUS นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของตน เช่น เทคโนโลยีการเคลือบสี ยกตัวอย่างก็ในฝาหลัง ASUS MeMO Pad ที่มีการเคลือบสีหลายชั้น ไม่ว่าจะเป็นชั้นสี, ชั้นเคลือบเพื่อเพิ่มความเงางาม, ชั้นเคลือบเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทาน หรืออย่างใน Zenfone ก็จะใช้การเคลือบผิวเพื่อให้มีผิวสัมผัสที่เหมือนเซรามิก อย่างที่หลายๆ ท่านคงได้เห็นและสัมผัสกันไปแล้ว
อีกหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจก็คือแนวคิดในการออกแบบ ASUS Transformer Book Flip ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก ASUS ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายโหมด เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว เพียงแค่พลิกจอ ซึ่งสามารถพลิกได้ 360 องศา ซึ่งทาง ASUS ได้นำตัวต้นแบบที่ใช้ในการศึกษา พัฒนาของทีมค้นคว้าวิจัยมาให้ชมกัน โดยเน้นไปที่การพัฒนาบานพับเพื่อให้ได้ทั้งความแข็งแรงทนทาน ความง่ายในการใช้งาน และสามารถหมุนรอบได้ 360 องศา ตัวอย่างของเครื่องต้นแบบก็ตามภาพด้านล่างนี้เลย
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือส่วนของ Seamless Home ที่เน้นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายในบ้านแบบไร้สาย โดยในห้องนี้ก็จะมีอุปกรณ์ไอทีอยู่หลายชิ้นทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊ค, เครื่อง HTPC, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมต่อเพื่อรับส่งข้อมูลถึงกันได้โดยไม่ต้องใช้สายเลย เช่นระหว่างกำลังใช้งานโน๊ตบุ๊คอยู่ ก็สามารถเรียกดูไฟล์ข้อมูลที่อยู่ใน External HDD ได้แบบไม่ต้องต่อผ่านสาย USB เลย หรือเวลาอยากจะฟังเพลงจากในมือถือ ก็สามารถเล่นเพลงจากเครื่อง แล้วให้เสียงออกยังชุดลำโพงภายในบ้านได้แบบไม่ต้องต่อสายอีกเช่นกัน นับว่าเป็นการทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว
ซึ่งทั้งหมดนี้ พระเอกของงานก็คือเจ้า Wireless Router ของ ASUS ตัวนี้นี่เอง ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าหากันได้อย่างลงตัว และยังสามารถเชื่อมต่อกับ External HDD ผ่านทางพอร์ต USB 3.0 ข้างหลังเครื่องได้อีกด้วย จากเท่าที่ทดลองใช้งานกัน ความลื่นไหลของการสั่งงาน การเล่นไฟล์ต่างๆ จัดว่ายอดเยี่ยมเลย
ซอฟต์แวร์การปรับแต่งภายในของ Wireless Router จาก ASUS ก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย มีฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกกับการใช้งานภายในบ้านได้ดี เช่นฟีเจอร์ช่วยจัดการให้สามารถเล่นเกมออนไลน์ได้ไหลลื่น แม้คนอื่นๆ ในบ้านจะดู YouTube อยู่ เป็นต้น
อีก session ที่ ASUS พาไปเยี่ยมชมครั้งนี้ก็คือส่วนของการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะเรื่องของความทนทาน ตัวอย่างเช่น ความทนทานต่ออุณหภูมิ ความชื้น แรงกระแทกจากการขนส่ง การตก การบิดงอ การเสียบใช้งานพอร์ต การทดสอบบานพับ เป็นต้น ซึ่งการทดสอบแต่ละแบบก็จะมีแลปเฉพาะของแต่ละการทดสอบไปเลย ทางเราก็ได้โอกาสเข้าไปดูตัวเครื่องและอุปกรณ์ทดสอบของจริงมาด้วย น่าเสียดายที่ไม่สามารถเก็บภาพออกมาได้ครับ เพราะเป็นนโยบายการรักษาความลับของบริษัท จากเท่าที่เห็นการทดสอบแต่ละรูปแบบ ก็ช่วยให้สามารถตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของ ASUS ได้อย่างมั่นใจแน่นอน เพราะกว่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายในท้องตลาดได้ จะต้องผ่านการทดสอบมามากจริงๆ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทาง ASUS ก็มีภาพบางส่วนของเครื่องและรูปแบบการทดสอบผลิตภัณฑ์มาให้ได้ชมกันครับ คลิกดูได้จากแกลเลอรี่นี้เลย
ออกมาด้านหน้าตึก ก็จะพบกับผลิตภัณฑ์ของ ASUS ที่เด่นๆ ในอดีตมาวางตั้งโชว์เอาไว้ เช่นตัวของ ASUS U43 ที่ใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุประกอบตัวเครื่อง รวมไปถึงโนัตบุ๊กอย่าง ASUS NX90 ที่จัดว่าเป็น desktop replacement ได้อย่างสบายๆ ก็ได้รับการนำมาตั้งโชว์อยู่ด้วยเช่นกัน
ในโอกาสนี้ ทางทีมงาน NotebookSpec เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณธีรวุฒิ โรจนะมารีวงศ์ ตำแหน่ง Product Management Manager (ส่วนงาน Open Platform BU) ประจำประเทศไทยที่มาร่วมทริปกับเราในครั้งนี้ด้วย ซึ่งก็มีประเด็นน่าสนใจที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆ แฟนเพจได้อ่านอยู่เหมือนกันครับ
โดยทางเราได้สอบถามถึงแนวโน้มตลาดฮาร์ดแวร์ พีซีคอมโพเน้นท์ รวมไปถึงกลุ่มโน๊ตบุ๊คไป ว่าที่ผ่านมาในช่วงครึ่งปีแรกเป็นอย่างไรบ้าง ทางคุณธีรวุฒิก็ให้ข้อมูลว่าตลาดโดยรวมก็ซบเซาลง แต่ยังไม่ส่งผลกับทาง ASUS มาก เนื่องจากช่วงราคาของผลิตภัณฑ์ที่ขายได้ จัดว่ามีช่วงราคาสูงขึ้น (ในส่วนของพีซีคอมโพเน้นท์) เนื่องจากลูกค้าที่ต้องการประกอบคอมซักเครื่อง ก็มักจะเลือกสเปคที่แรง ฮาร์ดแวร์เป็นรุ่นสูงๆ ประสิทธิภาพดีไปเลย ทำให้ถึงแม้ยอดขายจะลดลง แต่ก็ไม่ได้กระทบกับภาพรวมของ ASUS เท่าไร ส่วนลูกค้ากลุ่มงบที่ลดหลั่นลงมา ก็จะเลือกซื้อเป็นตัวของโน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ตกันแทน ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ ASUS ออกมาอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มฮาร์ดแวร์ที่เน้นประสิทธิภาพสูง อย่างเช่นในซีรี่ส์ ROG ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ไป น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดพีซีได้พอสมควรเลยทีเดียว ส่วนในตลาดกลางๆ ก็จะมีฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ที่ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม เมื่อประกอบกับคุณภาพการผลิตของ ASUS แล้ว ก็น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้ไม่แพ้กับในรุ่นสูงเลย รวมๆ แล้วสถานการณ์ของ ASUS ในด้านนี้ก็จัดว่ายังโอเคอยู่ครับ
ส่วนในฝั่งของมือถือ อันนี้ต้องบอกว่าบูมมากๆ กับตัว Zenfone ทั้งสามรุ่นที่เปิดตัวไป แต่ก็มาประสบปัญหาเรื่องสินค้าไม่พอจำหน่าย ตรงจุดนี้สาเหตุหลักก็เนื่องมาจากกำลังการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เนื่องด้วยสเปคกับราคาของ Zenfone ที่คุ้มค่ามากๆ ทำให้เป็นที่ต้องการสูงในตลาด แต่ก็อดใจรอออีกไม่นานครับ รับรองมีขายเพียงพอแน่ๆ และยังจะมีรุ่นใหม่ออกมาในตลาดอีกด้วย อย่างเร็วที่สุดก็พบกันในไตรมาสสามนี้เลย
สำหรับประเด็นเรื่องการทำงานร่วมกันระหว่างคอมพิวเตอร์กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เราก็ได้เห็นไปแล้วในข้างต้นว่าสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS หลายๆ รุ่นก็มีฟีเจอร์ที่สามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตได้ด้วย เช่นตัวของระบบการเก็บข้อมูลลง ASUS WebStorage ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวกลางเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์กับสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตได้ หรือจะในเครื่องเดสก์ท็อปของ ASUS รุ่นใหม่ ก็มาพร้อมกับ NFC และยังเป็นแท่นชาร์จไฟแบบไร้สายให้กับมือถือได้อีกต่างหาก ซึ่งเราน่าจะได้เห็นแนวโน้มการเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์กันมากขึ้นจาก ASUS ในช่วงครึ่งปีหลังแน่นอน
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งจุดเด่นที่อยู่ส่วนหน้าของตึกสำนักงานใหญ่ ASUS ก็คือเจ้าตัวนี้ครับ ถ้าดูไกลๆ ก็จะดูว่ามันธรรมดามากเลย
แต่ถ้ามองเข้ามาใกล้ๆ จะเห็นว่ามันถูกปกคลุมไปด้วยแผง PCB ตัดออกมาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสอยู่รอบตัวเลย
อ้าว หายไปไหนอันนึงละเนี่ย (ฮา)
ทั้งนี้ ทางทีมงาน NotebookSpec ก็ต้องขอขอบคุณทาง ASUS ประเทศไทยและ ASUS สำนักงานใหญ่ด้วย ที่มอบโอกาสให้ทางเราได้เยี่ยมชมตึกสำนักงานใหญ่ถึงไต้หวัน ได้เห็นขั้นตอนการทำงานนับตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การเลือกใช้เทคโนโลยีมาใส่ในตัวผลิตภัณฑ์ ได้เห็นถึงจุดกำเนิดความคิดสร้างสรรค์ที่สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีซึ่งผสมผสานเข้ากับศิลปะอย่างลงตัว ซึ่งถ้าดูจากแนวโน้มต่างๆ แล้ว เราน่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์จาก ASUS ?เจ๋งๆ ออกมาในอนาคตอีกมากอย่างแน่นอนครับ