หลังจากชมบทความแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของซีรี่ส์ ROG เพื่อเกมเมอร์ของ ASUS ไปแล้ว คราวนี้ทางทีมงาน NotebookSpec เราจะมาพาทัวร์บูท ASUS เพื่อดูผลิตภัณฑ์เด่นๆ นอกเหนือจากที่ได้ชมไปแล้วกันบ้างครับ ซึ่งอย่างที่หลายท่านทราบๆ กันว่า ASUS มีผลิตภัณฑ์ของตนเองมากมายหลากหลายกลุ่มมาก เรียกได้ว่าแทบจะครบวงจรของสินค้าไอทีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป,?โน๊ตบุ๊ค, เครื่องออลอินวันพีซี, ชิ้นส่วน component สำหรับประกอบพีซี, มือถือ, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค ฯลฯ ดังนั้นภาพในบทความนี้ก็อาจจะเยอะซักหน่อยแล้วกันนะ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ ASUS นำมาโชว์ครั้งนี้ น่าสนใจกันแทบทั้งนั้นเลย
ถ้าใครสนใจจะรับชมในรูปแบบวิดีโอ ก็คลิกชมด้านล่างนี้ได้เลย
งั้นขอเริ่มด้วยโน๊ตบุ๊คก่อนแล้วกัน
หลังจากได้เห็น ASUS GX500 โน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง 15 นิ้วที่บางสุดไปแล้ว ทีนี้เรามาดูในรุ่นอื่นๆ กันบ้าง เริ่มที่ ASUS G551 ที่ยังคงอยู่ในซีรี่ส์ ROG เช่นกัน หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD (ส่วนรุ่นจอ 4K น่าจะต้องสั่งพิเศษ) ซีพียูมีให้เลือกทั้ง Intel Core i5 และ i7 การ์ดจอสูงสุดเป็น NVIDIA GeForce GTX 860M แรมสูงสุด 16 GB น้ำหนัก 2.7 กิโลกรัม
ดีไซน์ก็จะมาแบบเรียบๆ คล้ายกับ ASUS GX500 เลย ดูหรูหราในแบบเกมมิ่งดี
ตัวถัดมาเป็น ASUS G771 โน๊ตบุ๊คจอ 17 นิ้ว Full HD สเปคก็จะคล้ายๆ กับ G551 แต่ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือขนาดหน้าจอ, การรองรับ SSD แบบ PCIe ในตัว น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 3.2 กิโลกรัม
มาถึงซีรี่ส์เบาๆ อย่างตัวของ Chromebook จาก ASUS กันบ้าง จุดเด่นของ Chromebook ก็จะอยู่ที่ราคาซึ่งไม่สูงมากนัก ระบบปฏิบัติการก็จะใช้เป็น Chrome OS ของ Google เน้นการทำงานออนไลน์แบบ cloud สเปคเครื่องจะไม่สูงมากนัก เพื่อทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นาน และเพื่อความเบาของตัวเครื่อง
รุ่นแรกก็จะเป็น ASUS Chromebook C200 ใช้ชิปประมวลผลตระกูล Celeron (quad-core) จาก Intel แรมสูงสุด 4 GB หน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว น้ำหนักเพียงแค่ 1.15 กิโลกรัม แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 11 ชั่วโมง
รุ่นสูงขึ้นมานิดนึงก็จะเป็น ASUS Chromebook C300 ที่ขยับไปใช้หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว น้ำหนักเพิ่มเป็น 1.36 กิโลกรัม ด้วยจอที่ใหญ่ขึ้น ก็ส่งผลระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ลดลงเล็กน้อย เหลือเป็นได้ราวๆ 10 ชั่วโมง แต่แค่นี้ก็ทำงานทั้งวันได้สบายๆ แล้วล่ะนะ
สีสันสดใสมากๆ
ซีรี่ส์ถัดมาคือ ASUS X Series ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่า ซึ่งหลายๆ ท่านน่าจะคุ้นเคยกันดีในบ้านเรา ในงาน Computex 2014 ครั้งนี้ก็มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ด้วยเช่นกันครับ
ตัวอย่างของ ASUS X Series ที่มีมาโชว์ในงานก็คือ ASUS X555 มีสเปคคร่าวๆ ดังนี้
- ชิปประมวลผลมีให้เลือกทั้ง Intel Core i3, i5 และ i7
- หน้าจอ HD ขนาด 15.6 นิ้ว
- รองรับแรมสูงสุด 8 GB
- มาพร้อม Windows 8.1 หรือ Windows 8.1 Pro
- การ์ดจอมีทั้งแบบในตัว CPU เอง, NVIDIA GeForce GT 820M หรือ GT 840M ให้ได้เลือกซื้อหากัน
- มาพร้อมการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งหลายท่านคงคุ้นเคยกับเทคโนโลยีการระบายความร้อน IceCool กันเป็นอย่างดี
บอดี้ งานประกอบโดยรวมจัดว่าดูดีเลย
พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน
สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกกลุ่มที่กำลังมาแรง นั่นคือกลุ่มของ ASUS Transformer Book ที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ตามความต้องการใช้งานของผู้ใช้
สำหรับเครื่องแรก ก็คือตัวของ ASUS Transformer Book Flip ที่เปิดตัวมาใหม่ในงาน Computex 2014 ครั้งนี้ครับ จุดเด่นของมันก็คือสามารถพลิกหน้าจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้งานเป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว แถมยังกางเพื่อใช้งานในรูปแบบอื่นๆ ได้อีก
สำหรับสเปคของ ASUS Transformer Book Flip ก็มีคร่าวๆ คือ ชิป Intel Core i3/i5/i7 แรมสูงสุด 8 GB หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว มีให้เลือกทั้งความละเอียดระดับ Full HD และ HD น้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม มาพร้อมกับ Windows 8.1
มุมต่างๆ ของเครื่อง หน้าตาดูดีเลยทีเดียว
ส่วนภาพนี้เป็นภาพที่แสดงโหมดการใช้งานต่างๆ ทั้งสี่โหมดของ ASUS Transformer Flip ที่สามารถพลิกจอได้ถึง 360 องศา
รุ่นต่อมาคือไลน์ของ ASUS Zenbook ที่ได้รับการอัพเกรดสเปคภายในหลายจุดเลยทีเดียว
สำหรับสเปคของ ASUS Zenbook ตัวแรกก็ UX303 มีให้เลือกทั้ง Intel Core i3 / i5 / i7 แรมสูงสุด 12 GB หน้าจอ 13.3 นิ้ว ความละเอียดจอมีให้เลือกหลายระดับ สูงสุดก็เป็น 3200 x 1800 (QHD+) เรียกว่าละเอียดสุดๆ ไปเลยทีเดียวกับหน้าจอขนาดนี้ ส่วนการ์ดจอก็ NVIDIA GeForce GTX 840M เห็นว่าสเปคจัดกันซะขนาดนี้ แต่ตัวเครื่องก็มีน้ำหนักเพียง 1.45 กิโลกรัม
ส่วนอีกรุ่นก็ ASUS Zenbook UX301 ก็เริ่มกันที่ชิป Intel Core i5 / i7 หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียดสูงสุดระดับ 2560 x 1440 (WQHD) แรมสูงสุด 8 GB การ์ดจอ Intel Iris HD5100 หรือ HD4400 แล้วแต่ตัว CPU ส่วนน้ำหนักก็เปิดมาแค่ 1.4 กิโลกรัม
รุ่นต่อมาก็คือ ASUS Zenbook NX500 ที่เป็นส่วนผสมระหว่างไลน์ Zenbook และ N Series ของ ASUS เอง สเปคก็เรียกว่าจัดเต็มเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น
- ชิปประมวลผล Intel Core i7
- แรมสูงสุด 16 GB
- หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ QFHD
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 850M
- หน่วยความจำ SSD ล้วนๆ เริ่มต้นที่ 128 GB รองรับ SSD แบบ PCIe อีกด้วย
- น้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม
- Windows 8.1
บอดี้ของ NX500 ก็เรียกว่ายกมาจาก ASUS N Series เลยทีเดียว
แต่จุดเด่นจริงๆ ของ ASUS Zenbook NX500 คือสีจากจอภาพที่ ASUS เลือกใช้เทคโนโลยีจอ Quantum dot display (QDEF) ของ 3M พร้อมทั้งการเคลือบฟิล์มที่ทำให้การแสดงสีของจอภาพที่จัด่าตรงกับความเป็นจริงกว่าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากๆ การันตีว่าสามารถแสดงสีตามโทนสี NTSC ได้ 100% ซึ่งจากที่ทางเราได้ลองมองภาพเปรียบเทียบกันระหว่างจอของ NX500 พบว่าสีสันของจอภาพต่างกันจริงๆ
รุ่นต่อไปก็คือตัวของ ASUS N Series ที่เน้นในเรื่องของความบันเทิงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเรื่องของหน้าจอ เสียง รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ในเรื่องของซอฟต์แวร์ที่มีมาในตัวเครื่อง
ASUS Transformer Book T100 ตัวนี้ ก็มาพร้อมกับการอัพสเปคภายในหลายจุด แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปท์เดิมคือสามารถถอดจอออกมาใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้
ตัวต่อมาคือ ASUSPRO PU451 ที่เน้นในเรื่องของการใช้งานจริง เหมาะสำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ตัวเครื่องได้รับการทดสอบมาเป็นอย่างดีว่าทนต่อแรงกระแทก การตก รวมถึงทนทานต่อการใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ ได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายในไลน์โน๊ตบุ๊คด้วย ASUS Transformer Book V ที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของ ASUS ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นเครื่องเดียวที่สามารถใช้งานได้ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่
- โน๊ตบุ๊ค Windows
- โน๊ตบุ๊ค Android
- แท็บเล็ต Windows
- แท็บเล็ต Android
- มือถือ Android
ซึ่งชิปประมวลผลก็จะแยกกันระหว่างฝั่ง Android กับฝั่ง Windows โดยฝั่ง Android จะใช้เป็น Intel Atom (quad-core) ส่วนฝั่ง Windows จะใช้เป็น Intel Core i ทำให้สามารถใช้งานได้ไหลลื่นทั้งสองฝั่ง น่าเสียดายที่ไม่มีเครื่องจริงให้ลองเล่นครับ
เรียกว่าซื้อเครื่องเดียว ครบเครื่องกันเลย ทั้งมือถือ แท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊ค
มาถึงกลุ่มมือถือกันบ้าง เริ่มที่ ASUS Zenfone ที่กำลังมีกระแสดังมากๆ ในหลายประเทศ รวมถึงในไทยด้วย
ที่น่าสนใจก็คือมีการนำ ZenFone 5 (LTE) มาโชว์ในงานด้วย ซึ่งหน้าตาภายนอกก็จะเหมือนๆ กับ Zenfone 5 รุ่น 3G ปกติ แต่จุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือไม่มีโลโก้ Intel ติดอยู่เหนือลำโพง เนื่องจากได้เปลี่ยนชิปประมวลผลไปใช้เป็น Snapdragon ด้วย ส่วนอีกรุ่นที่น่าสนใจก็คือ Zenfone 4 ที่มาพร้อมจอขนาด 4.5 นิ้ว (รุ่นที่ขายในปัจจุบันใช้หน้าจอ 4 นิ้ว) รวมถึงมีการอัพเกรดกล้องหลังไปเป็นความละเอียด 8 ล้านพิกเซล PixelMaster ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในที่มีแสงน้อยได้ดีขึ้น
ต่อมาก็คือตัวของ ASUS Padfone mini ที่น่าจะเข้าไทยในอีกไม่นานนี้ ตัวเครื่องก็ยังคงคอนเซ็ปท์ของ Padfone เอาไว้อยู่ นั่นคือตัวเครื่องหลักจะเป็นมือถือ ที่สามารถเสียบเข้าไปในจอเพื่อใช้เป็นแท็บเล็ตได้ โดยตัวของมือถือจะมีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ส่วนแท็บเล็ตมาพร้อมจอขนาด 7 นิ้วที่จัดว่าไม่เล็กไม่ใหญ่สำหรับแท็บเล็ตที่เน้นเรื่องของการพกพา
‘
ด้านล่างก็จะใช้พอร์ตพิเศษที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับตัวแท็บเล็ตได้ ทั้งยังมีตัวล็อคเพื่อความแข็งแรง กันการลื่นหลุดออกจากแท็บเล็ต
มาถึงอีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์ของงานนี้คือ ASUS MeMO Pad 8 ที่คราวนี้ได้รับการอัพเกรดชุดใหญ่เลยทีเดียว นั่นคือการเปลี่ยน CPU ไปใช้เป็น Intel Atom ซึ่งรองรับการประมวลผลแบบ 64 บิท นับเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกๆ เลยทีเดียวที่เลือกใช้ชิป 64 บิทจาก Intel ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพ อันนี้คงต้องรอชมกันอีกทีนะครับ แต่จากที่ทาง Intel เคลม รับรองได้ว่าแรงกว่าเดิมแน่นอน
ด้านล่างนี้ก็เป็นเหล่าอุปกรณ์เสริมของผลิตภัณฑ์ ASUS เรียกว่ามีครบทุกไลน์เลยก็ว่าได้
ด้านล่างนี้ก็เป็นส่วนของจอภาพรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
เริ่มด้วยหน้าจอมอนิเตอร์โค้งขนาด 32 นิ้ว
หน้าจอขอบบางเฉียบความละเอียดสูงขนาด 27 นิ้ว แถมยังมาพร้อมระบบเสียง SonicMaster ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันจาก ICEpower และ Bang % Olufsen การันตีว่าทั้งพลังและคุณภาพเสียงมาสมจริงแน่นอน
จอขนาด 28 นิ้วสามมิติแบบไม่ต้องใช้แว่น อันนี้ต้องชมด้วยสายตาตัวเองครับ ถึงจะเห็นว่าเป็นสามมิติจริงๆ
หน้าจอขนาด 28 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K ที่มาพร้อมเทคโนโลยี G-Sync เพื่อลดปัญหาการซิงค์ภาพระหว่างจอกับการ์ดจอ
ทีนี้เรามาชมอุปกรณ์เสริมอื่นๆ จาก ASUS ที่มาโชว์ในงาน Computex 2014 กันบ้าง
เริ่มจาก TurboDrive ที่เป็นเครื่องอ่าน/เขียน Blu-ray รองรับการใช้งานร่วมกับแผ่น BDXL ที่มีความจุสูงสุดถึง 128 GB ในแผ่นเดียว
หน้าตาดูหรูหรา เลอค่ามากๆ มองเป็นเครื่องเล่นแผ่นหนังแบบหรูๆ ได้สบาย
ต่อมาก็เป็นเครื่องโปรเจกเตอร์ขนาดเล็ก พกพาสะดวก รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายมาก ทั้ง HDMI, MHL มีช่องต่อเสียงออกให้ในตัว สามารถพกพาไปใช้นอกสถานที่ได้สบายๆ เพราะมีแบตเตอรี่ในตัว
ฝั่งของอุปกรณ์เน็ตเวิร์คก็มีมาโชว์ด้วยเช่นกัน
เครื่องเดสก์ท็อปก็มีมาโชว์ด้วยครับ กับ ASUS M70 ที่ติดตั้ง NFC มาด้วยในตัว ทำให้สามารถเชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับมือถือ แถมยังใช้เป็นที่ชาร์จไฟไร้สายให้กับมือถือได้ด้วย (มือถือต้องรองรับการชาร์จไฟไร้สายด้วย)
สำหรับผู้รัก หลงไหลในคุณภาพเสียง ก็เตรียมจัดกันไปได้เลยกับ Essence One MKII อุปกรณ์ USB DAC และเป็นแอมป์ในตัว หน้าตาเรียกว่าดูหรูหราเลยล่ะ
ปิดท้ายด้วยกลุ่มเมนบอร์ดนอกเหนือจากกลุ่มของ ROG กันบ้าง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการพาทัวร์รอบๆ บูท ASUS ในงาน Computex 2014 ครั้งนี้ รับรองว่าอีกไม่นานเราคงได้เห็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ในบ้านเราแน่นอน
