หลังจากที่ทาง Microsoft ได้หยุดให้การสนับสนุนการอัพเดทความปลอดภัยแก่ Windows XP อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2014 ที่ผ่านมานั้น จากการสำรวจของหลายๆ สำนักกลับยังพบว่ายังมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ยังคงใช้งาน Windows XP อยู่ซึ่งทำให้ข้อมูลของผู้ใช้เหล่านั้นไม่ปลอดภัยครับเพราะ Windows XP กลายเป็นเป้าหมายของการโจมดีของเหล่า Hacker ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับท่านใดที่ยังคงใช้ Windows XP อยู่วันนี้เรามีวิธีที่จะหลอกระบบ Windows Update ให้กลับมาใช้งานได้โดยการแก้ไข Registry ครับ(การแก้ไข Registry มีความเสี่ยงทำให้ระบบอาจไม่สามารถใช้งานได้อีก ดังนั้นก่อนทำโปรดมั่นใจว่าท่านมีความรู้ในเรื่องนี้มากพอ และทางทีมงานไม่ขอรับผิดต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นต่อ Windows ของท่านครับ)
สำหรับวิธีการแก้ Registry นี้ถูกเปิดเผยโดย Wayne Williams ผ่านทาง Betanews ครับโดยหลักการของการทำงานก็คือการหลอกให้ระบบ Windows Update เข้าใจว่า Windows XP ของคุณเป็น Windows Embedded POSReady 2009 ที่ใช้ Kernel เดียวกัน และได้รับการสนับสนุนการอัพเดทความปลอดภัยยาวไปจนถึงวันที่ 9 เมษายน 2019 ครับ สำหรับวิธีการนั้นก็ง่ายมากครับ เพียงแค่ท่านเปิดโปรแกรม Notepad แล้วใส่ข้อความต่อไปนี้ลงไปในโปรแกรมครับ
Windows Registry Editor Version 5.00? [HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\WPA\PosReady]? “Installed”=dword:00000001 |
จากนั้นให้ทำการบันทึกไฟล์ชื่ออะไรก็ได้แต่ให้ใส่ .reg ต่อท้ายเป็นนามสกุล(ตัวอย่างเช่น update.reg) เมื่อบันทึกเรียบร้อยให้ปิดโปรแกรม Notepad ไปครับแล้วทำการดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ .reg ที่คุณบันทึกไว้เมื่อกี้แล้วตอบตกลง จากนั้นให้ลองรัน Windows Update ดูครับจะพบว่าสามารถที่จะหา Update ได้มากมายเช่นตัวอย่างจากภาพด้านล่างครับ
จากภาพนั้นเป็นเครื่อง Windows XP ที่ทำการแก้ไข Registry ตามวิธีการด้านบนที่ทดสอบโดยเครื่องของทาง Zdnet ซึ่งจะพบว่าระบบ Windows Update จะแสดงอัพเดทสำหรับ?WEPOS (Windows Embedded Point of Service) and Windows POSReady 2009 ครับ(มีอัพเดทหนึ่งอันที่เป็นของ?Windows Server 2003 ซึ่งใช้ Kernel เดียวกันกับ Windows XP เช่นเดียวกันครับ) ทั้งนี้วิธีการนี้ได้รับการทดสอบว่าใช้ได้กับ Windows XP ที่เป็น 32-bit เท่านั้น ท่านใดที่ใข้ Windows XP 64-bit แล้วสนใจที่จะทำวิธีการนี้สามารถเข้าไปศึกษาวิธีได้ ที่นี่ ครับ(เตือนกันอีกครั้งว่าการยุ่งกับ Registry ของระบบมีความเสี่ยงดังนั้นหากไม่มั่นใจกรุณาอย่าทำครับ และทางทีมงานไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นใดๆ จากการทำวิธีการนี้ครับ)
ที่มา : zdnet