หลายๆครั้งครับที่ในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หลายๆท่านอาจจะใช้ความสามารถที่เรียกว่าการจดบันทึกกันไม่มากก็น้อยใช่ไหมล่ะครับ แต่บางแอพก็ใช้ยากซะเหลือเกิน วันนี้ผมมีแอพการจดบันทึก ที่แอพเค้า พูดเลย ว่าแอพของเค้านั้นอยู่ตรงกลางระว่างความสวยงามและความสมบูรณ์ จนมีผู้ใช้งานมากมาย และได้รับรางวัลแอพดีเด่นแห่งปี Best Of 2013 จาก Apple App Store อีกด้วย แล้วจะเจ๋งจริงหรือไม่ เป็นอย่างไรนั้น ตามมาดูกันเลยครับ
ข้อมูลแอพพลิเคชั่นจดบันทึก Paper
ชื่อแอพพลิเคชั่น Paper by Fiftythree
ขนาด 54 MB
รองรับเฉพาะ iOS ใน iPad เท่านั้น
ราคา ฟรี (แต่อุปกรณ์ต่างๆอาจจะต้องซื้อเพิ่ม)
การใช้งานโดยทั่วไปของแอพพลิเคชั่น Paper By Fiftythree
เมื่อเราเปิดแอพเข้ามาครั้งแรก เราก็จะเจอสมุดเยอะแยะหลายเล่มเลย สมุดนี้จะเป็นการจัดหมดหมู่ของสิ่งที่จะเขียนนั่นเองครับ ซึ่งเราสามารถเพิ่มได้โดยปุ่มบวกตรงแถบล่างนี้ครับ
พอหลังจากเราเพิ่มสมุดแล้ว เราสามารถกดปุ่ม (i) เพื่อตั้งชื่อและเลือกลายของปกสมุดเราได้ตามใจชอบเลยครับ
พอแก้ไขข้อมูลสมุดเสร็จแล้ว เราก็สามารถกดที่ตัวสมุด แล้วก็เลือกหน้าได้เลยครับ การเปลี่ยนหน้าสามารถทำได้โดยไลด์จากขอบจบขวาไปซ้าย หรือขอบจอซ้ายไปขวา (การตั้งค่าปกติในสมุด 1 เล่ม จะมี 10 แผ่น )
หากเราต้องการเพิ่มหน้ากระดาษก็สามารถไปที่หน้าสุดท้ายแล้วพลิกไป โดยจะมีสัญลักษณ์ + แสดงไว้เพื่อบอกว่าเป็นการเพิ่มหน้า จากนั้นแอพก็จะเพิ่มแผ่นกระดาษให้อัตโนมัติ
หากเราจะต้องการใช้อุปกรณ์ใดๆ สามารถใช้ได้จากแถบด็อกก้านล่างจอได้เลยครับ สามารถยุบเก็บไว้ไดด้วยการลากลงไปเพื่อเพิ่มพื้นที่เขียนมากขึ้นครับ
ในการใช้งานจะมีอุปกรณ์ใช้งานหลายประเภท ดังนี้ครับ
1. ยางลบ
2. ปากกาวาด
3. ดินสอสเกตช์ภาพ
4. ตัวสีไว้สำหรับเน้น
5. สำหรับไว้เขียนข้อความ
6. พู่กันไว้ระบายสีน้ำ
7. จานผสมสี
8. สี
หมายเหตุ ! เวอร์ชั่นฟรีจะให้ใช้ได้เฉพาะปากกาวาดแบบที่ 1 ยางลบ และสี เท่านั้น ถ้าอยากใช้ตัวอื่นต้องซื้อเพิ่มเติม?
หมายเหตุ 2 หากใครต้องการเขียนสะดวกง่ายๆ สามารถจับคู่บลูทูธกับสไตลัสของคุณได้ตรงสัญลักษณ์ปากกาซ้ายสุดครับ
การใช้งานก็ไม่มีอะไรมากครับ เลือกสี เขียน และก็ลบ ตามใจสั่งครับ ฮ่าๆ
การกลับไปยังหน้าหลักก็ทำได้ง่ายๆ แค่ยุบนิ้วสองนิ้วบนจอ จนหนังสือพับบรรจบกัน และก็จะกลับมาหน้าหลักโดยอัตโนมัติครับ
สรุปข้อดีข้อเสียของแอพพลิเคชั่นจดบันทึก Paper
ข้อดี
– มีการตรวจนำหนัก การปัด การลากของเส้นที่ดีมากๆ มีความเป็นธรรมชาติ
– การใช้งานง่ายมากๆ ไม่ต้องใช้ปุ่มเลย ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ท่าทางนิ้ว (Gesture) โดยทั้งสิ้น
– สามารถเชื่อมต่อสไตลัสภายนอกได้
ข้อเสีย
– เครื่องมือส่วนใหญ่ต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งราคาจะค่อนข้างแพง เฉลี่ย 1.99$ ต่อชนิดเครื่องมือ
– รองรับเฉพาะ iOS 7 เท่านั้น (เนื่องด้วยนโยบายของแอปเปิ้ล)
– ไม่สามารถจดบันทึกอะไรมากๆได้ โดยเฉพาะถ้าใช้นิ้วเขียน หน้าจะเต็มเร็วมาก ตัวหนังสือใหญ่ จึงมีสไตลัสของแอพนี้ออกมาขาย (เสียเงินอีกละ ฮ่า)