Connect with us

Hi, what are you looking for?

Other News

จุดเริ่มต้นของจุดจบเทคโนโลยี G-Sync ของ Nvidia ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ท่านที่ติดตามเทคโนโลยีของวงการกราฟิกการ์ดคงจะเคยได้ยินเทคโนโลยี G-Sync ของ Nvidia ที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้ refresh rate ของหน้าจอมอนิเตอร์นั้นเปลี่ยนแปลงไปตาม refresh rate

ท่านที่ติดตามเทคโนโลยีของวงการกราฟิกการ์ดคงจะเคยได้ยินเทคโนโลยี G-Sync ของ Nvidia ที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้?refresh rate ของหน้าจอมอนิเตอร์นั้นเปลี่ยนแปลงไปตาม?refresh rate ที่กราฟฟิกการ์ดตลอดเวลา โดยก่อนที่จะมีเทคโนโลยีนี้จอมอนิเตอร์จะมี?refresh rate คงที่เช่น 50 Hz, 60 Hz เป็นต้น แต่กราฟิกการ์ดนั้นจะสามารถสร้างภาพที่มี refresh rate ได้ไม่เท่ากันตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ท่านเล่นเกม 3 มิติจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า?refresh rate มีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลาเสมอ ซึ่งปัญหานี้นั้นก่อให้เกิดปัญหารอยต่อของภาพเกิดขึ้นบนจอในบางช่วงที่?refresh rate มีการแกว่งอย่างราดเร็วครับ

NV-Gsync-600

Advertisement

เทคโนโลยี G-Sync จะช่วยทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปครับ แต่ทั้งนี้การที่จะใช้เทคโนโลยี G-Sync ได้นั้นท่านจะต้องใช้มอนิเตอร์ที่ติดตั้งแผงวงจร G-Sync พร้อมกับการ์ดจอของ Nvidia รุ่น GeForce?GTX 650 Ti Boost ขึ้นไปถึงจะสามารถใช้ได้ ด้วยเหตุนี้เองเทคโนโลยีนี้จึงไม่ได้รับความนิยมมากครับ (ผู้ผลิตมอนิเตอร์ก็ไม่ผลิตมอนิเตอร์ที่รองรับ G-Sync ด้วยเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น) มาวันนี้ทาง?Video Electronics Standards Association (VESA) ได้ทำการเปิดตัวมาตรฐาน DisplayPort 1.2a ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฝังเทคโนโลยี G-Sync นี้ให้จมดิน กับเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า?Adaptive-Sync ซึ่งมีหลักการทำงานเช่นเดียวกันกับ G-Sync เลยครับ(อาจจะมีข้อแตกต่างในด้านเทคนิคแต่ผลที่ได้นั้นไม่ต่างกันครับ) และที่สำคัญเทคโนโลยี DisplayPort?Adaptive-Sync นี้ก็รองรับกับเทคโนโลยี?refresh rate ที่มีชื่อว่า?FreeSync ของฝั่ง AMD ด้วยครับ

NV-Gsync-02-600

ถามว่าแล้วเทคโนโลยี?DisplayPort?Adaptive-Sync นั้นจะทำให้ G-Sync โดนฝังอย่างไรนั้น เหตุผลมีหนึ่งเดียวเลยครับเนื่องจากว่า VESA กำหนดมาตรฐานของการผลิตอยู่แล้ว และ เทคโนโลยี DisplayPort?Adaptive-Sync นั้นก็ปล่อยให้ผู้ผลิตสามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองแบบฟรีๆ อีกด้วยครับ แน่นอนว่ามาเช่นนี้แล้วผู้ผลิตย่อมนำมาตรฐานนี้ไปใช้ในอนาคตแน่นอนเนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่า license แต่อย่างใด (ในขณะที่ G-Sync ต้องจ่ายทั้งค่า license และ แผงวงจรเพิ่ม) คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่า Nvidia จะเดินเกมต่ออย่างไร หรือสุดท้ายจะปล่อยให้เทคโนโลยีนี้เข้าสู่วงจรจุดจบเช่นเดียวกันกับ 3D Vision ก็เป็นได้ครับ?

ที่มา : vr-zone

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

AMD

AMD Ryzen 9 9950X3D ทดสอบซีพียูเกมมิ่งตัวท็อป สเปคใหม่ เพิ่มแคชใหญ่ขึ้น เร่งความเร็วให้การเล่นเกมและทำงานจริงจัง วันนี้จะพาไปสัมผัสกับ AMD Ryzen 9 9950X3D ซีพียูที่ถูกมองว่าเป็น “ซีพียูที่ดีที่สุดสำหรับเกมเมอร์และครีเอเตอร์” ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับซีพียูตัวใหม่ล่าสุดจากค่าย AMD โดยเป็นซีพียูที่จะมาปฏิวัติวงการเกมมิ่งและงานสร้างสรรค์ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับซีพียู AMD Ryzen...

COMMART

บริษัท เอสเซนตี้ รีซอร์สเซส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เกมมิ่งเกียร์ สินค้าไอทีแบรนด์ชั้นนำระดับโลก Ascenti เสิร์ฟโปรสับ รับต้นปี COMMART UNLOCK พร้อมเสิร์ฟคอมเซ็ตการ์ดจอรุ่นใหม่และโปรโมชั่นพิเศษโดนใจจัดเต็ม ! Ascenti บริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีระดับแนวหน้าของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้า Component DIY / Gaming Gear / Accessories และ...

Special Story

ปกติแล้ว เวลาก่อนจะเลือกซื้อโน้ตบุ๊ก สิ่งที่ควรตรวจสอบเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือสเปคเครื่อง ทั้งในแง่ของ CPU การ์ดจอ แรม หน้าจอ ซึ่งในหลายส่วนก็จะมีการระบุเป็นตัวเลขที่สามารถนำไปใช้ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพได้ เช่น ความเร็วคล็อก จำนวนคอร์ ปริมาณหน่วยความจำ เป็นต้น แต่ในยุคหลัง ๆ มา ภายใน CPU ก็จะมีการติดตั้ง NPU ซึ่งเป็นส่วนประมวลผลด้าน...

PR-News

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก เทคโนโลยีนี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นรากฐานสำคัญของภูมิทัศน์ทางธุรกิจในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการใช้งานและการดำเนินการของระบบ AI นั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานเป็นอย่างมาก ซึ่งมักเป็นส่วนที่คนเข้าใจน้อยที่สุด แต่กลับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในระบบนิเวศของ AI จากรายงานของ Vanguard โครงสร้างพื้นฐานเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยากที่สุดในการดูแลด้านไอที และเป็นปัจจัยหลักที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องยกเลิกโครงการด้าน AI ทั้งนี้ไม่มีแนวทางแก้ไขแบบสำเร็จรูปที่เหมาะกับทุกองค์กร ผู้จัดการฝ่ายไอทีในปัจจุบันต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลในการบริหารจัดการและแก้ไขข้อขัดแย้งต่าง ๆ จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย ในขณะเดียวกัน ความต้องการแอปพลิเคชันสำหรับองค์กรก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระบบประมวลผลธุรกรรมออนไลน์แบบดั้งเดิม ไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ทำงานแบบคลาวด์เนทีฟ (cloud-native) ทั้งหมดล้วนต้องประมวลผลข้อมูลมากขึ้นและต้องการกำลังประมวลผลของโปรเซสเซอร์ที่สูงขึ้นAdvertisement...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก