จากที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนหลายๆ ค่ายได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ออกมา ที่สำคัญยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นแบบ 8 คอร์ หรือตามภาษาที่ใช้โฆษณากันก็คือ Octa-Core โดยมีการนำเสนอให้เข้าใจว่ามีทั้งความแรงและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าชิปประมวลผลแบบ?Quad-Core อย่างชัดเจน
?
แต่ล่าสุดภายในงาน?ARM Tech Day ในส่วนของการบรรยายของทางผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชั่นโมบายจากนาย?James Bruce ?ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ชิปประมวลผลที่เป็นแบบ 8 คอร์ที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีนนิยมใช้นั้น ในแง่ของการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์มีความสามารถที่จะใช้งานจริงๆ ได้ยาก แต่สาเหตุที่นิยมใช้แล้สนำมาโฆษณานั้น เป็นเพราะคนจีนชอบเลข 8 กันเยอะ เพราะถือว่าเป็นเลขมงคล อีกทั้งยังเป็นการตลาดเพราะจัดว่ามีจำนวนมากกว่า 4 คอร์ ถึงสองเท่าด้วยกัน
สำหรับทาง ARM แล้ว ได้มีการแนะนำให้ใช้?Cortex-A15 เป็นคอร์หลัก ส่วน?Cortex-A7 เป็นคอร์สำรองไว้ใช้งานกรณีที่โหลดประมวลผลต่ำๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ผลิตรายหลายกลับเลือกที่จะใช้?Cortex-A7 ติดกันทั้ง 8 คอร์ แทนที่จะเป็น?Cortex-A15 และ?Cortex-A7 อย่างละ 4 คอร์ ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าจากค่าไลเซนส์ของ Cortex-A15 นั้นแพงกว่า Cortex-A7 มากนั่นเอง (ต้นทุนต่ำกว่า แต่ได้โฆษณาว่าเป็น 8 คอร์เหมือนกัน) อีกทั้งคนส่วนมากที่ไม่ได้ดูสเปคลึกๆ ของชิปประมวลผลจริงๆ ก็คงจะไม่รู้ว่า?Cortex-A15 และ?Cortex-A7 ?แตกต่างกันอย่างไรอีกด้วย
ฉะนั้นในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนซักเครื่องนั้น สำหรับผู้บริโภคแล้ว คงจำเป็นต้องศึกษาให้ดีกันเสียก่อน เพราะใช้ว่าการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมชิปประมวลผล 8 คอร์แล้ว จะแรงหรือมีประสิทธิภาพดีกว่า 4 คอร์แต่อย่างใด เพราะถ้าใช้?Cortex-A7 จำนวน 8 คอร์ ก็ถือว่าเนียนใช้เพื่อการตลาดอย่างเดียวเลย ซึ่งเสียหายทั้งผู้ซื้อและตัว ARM เอง ที่ได้ค่าไลเซนส์น้อยกว่าที่ควรจะเป็นจากบรรดาผู้ผลิต แน่นอนว่าสวนทางกันเพราะผู้ผลิตรายต่างๆ ที่ต้องการล้วนแต่ลดต้นทุนทั้งนั้น
ที่มา :?theregister