ในช่วงที่ผ่านมานั้น Apple พึ่งได้รับสิทธิ์ในสิทธิบัตรที่ยื่นจดไปตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2012 ครับ โดยสิทธิบัตรใหม่ที่ Apple ยื่นจดไปนี้เป็นสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูลแบบใหม่ให้กับ MacBook Laptop ที่ใช้ชื่อว่า?Multi-functional keyboard assemblies ซึ่งเราอาจได้เห็น Apple นำมาใช้กับ MacBook ในอนาคตครับ (โดยภาพประกอบที่ใช้สำหรับกำหนดรายละเอียดในสิทธิบัตรนั้นมี MacBook Air ประกอบอยู่ด้วยครับ) สำหรับสิทธิบัตรนี้ถึงแม้จะบอกว่าเป็นคีย์บอร์ดแต่ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่นั้นไม่ได้มีแต่การปรับปรุงตัวคีย์บอร์ดเท่านั้นครับ โดยในสิทธิบัตินั้นได้ระบุไว้ครับว่า?Multi-functional keystacks นั้นสามารถที่จะนำไปปรับปรุงพัฒนาฟังก์ชันบนคีย์บอร์ดได้หลายช่องทางครับ
หลายท่านคงสงสัยว่าแล้วเจ้า?Multi-functional keyboard assemblies ที่มี?Multi-functional keystacks นั้นมันจะมาทำให้ MacBook Air มีจอสัมผัสได้อย่างไร ก่อนผมขออธิบายแบบง่ายๆ เลยว่าคีย์บอร์ดแบบใหม่นี้นั้นจะมีเซนเซอร์ตรวจสอบการสัมผัสอยู่ที่ตัวคีย์บอร์ดครับ แล้วเมื่อเราสัมผัสไปที่ตัวคีย์บอร์ดแล้วนั้น (สัมผัสเฉยๆ นะครับไม่ได้จิ้มคีย์บอร์ดลงไปครับ พูดง่ายๆ ก็คือตัวคีย์บอร์ดทำหน้าที่เป็นแป้นรับการสัมผัสไปด้วยในตัวครับ) ก็จะมีการตอบสนองต่อการสัมผัสนั้นต่อผู้ใช้งานครับ โดยผู้ใช้งานสามารถที่จะตั้งค่าได้ว่าการสัมผัสนั้นจะนำไปใช้งานกับฟังก์ชันอะไร เช่น คุณอาจจะตั้งให้การลากจากปุ่ม A ไปยัง G เป็นการเปิด โปรแกรม Notepad ขึ้นมาแบบนี้เป็นต้นครับ ด้วยวิธีการนี้เองครับ ทำให้คุณสามารถที่จะตั้งค่าฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างมากเลยครับ
ทีนี้เมื่อถามว่าแล้วมันจะไปเป็นจอสัมผัสอย่างไรหล่ะเพราะจอสัมผัสเราสามารถที่จะสัมผัสไปที่จอได้เลยโดยตรง แต่การใช้งาน?Multi-functional keyboard assemblies นั้นเหมือนกับการตั้งค่าให้คีย์บอร์ดนั้นสามารถสั่งการได้ผ่านการสัมผัสเฉยๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มเท่านั้นเอง ในส่วนนี้สิทธิบัตรของ Apple ตัวนี้ได้อธิบายไว้ครับว่า ตัว?Multi-functional keystacks นั้นจะสามารถที่ปรับตั้งให้ทำงานเสมือนกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกอื่นๆ ได้ เช่นตั้งให้คีย์บอร์ดทำงานเสมือนเป็นจอของ MacBook ครับนั่นก็ทำให้เหมือนกับว่า เราสัมผัสลงไปที่จอ แต่แทนที่จะต้องยกมือไปสัมผัสบนจอ เราก็วางมือบนคีย์บอร์ดตามปกติครับ (ทำให้การใช้งานจะไม่ดูแปลกๆ อีกต่อไป) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวคีย์บอร์ดจะออกมาแบบไหนอยู่ในลักษณะใด ก็ต้่องคอยดูกันต่อไปครับว่า Apple จะเอาสิทธิบัตรนี้มาประยุกต์ใช้อย่างไรครับ
ที่มา : bgr