ถ้าจะนับโครงการอะไรที่แปลกที่สุดที่มาจาก Google แล้วคงหนีไม่พ้น Project Ara มือถือถอดชิ้นส่วนประกอบได้ตามใจผู้ใช้ครับ ทั้งนี้ในงาน?Google’s Advanced Technology and Projects (ATAP) ที่ผ่านมาก็ได้มีการนำเสนอต้นแบบเจ้ามือถือตัวนี้ออกมาด้วย แต่ต้องถือว่าเป็นต้นแบบของต้นแบบจริงๆ เพราะตัวต้นแบบนั้นยังไม่สามารถทำงานใดๆได้นอกจากแสดงถึงรูปลักษณ์และส่วนประกอบต่างๆ ที่จะเป็นไปของมือถือจาก Project Ara เท่านั้น
ตัวต้นแบบของ Project Ara นั้นแสดงรูปลักษณ์ของมือถือที่มีลักษณะเหมือนเลโก้ โดยตัวเครื่องหลักจะมีโครงที่เปรียบเสมือนเป็นโครงกระดูกหลักและช่องสำหรับต่อส่วนประกอบที่ถูกเรียกว่าโมดูล โดยแต่ละโมดูลสามารถถอดเปลี่ยนได้ตามต้องการ โดยหากมองเครื่องจากทางด้านหลังแล้ว(ด้านที่ไม่ใช่หน้าจอ) ตัวเครื่องจะมีลักษณะเหมือน tiles (หน้า Home ของ Windows Phone) ตัวโมดูลนั้นก็จะประกอบไปด้วย CPU, RAM, WiFi, Power jack, Baseband, display และ Battery เป็นโมดูลหลัก และจะมีโมดูลเสริมอย่าง กล้อง, speakers และ หน่วยเก็บความจำภายใน โดยจะมีการเชื่อมต่อผ่านการเชื่อมต่อแบบใหม่ที่เรียกว่า?capacitive interconnects ที่จะมีขนาดเล็กกว่า การเชื่อมต่อแบบ Pin ในรูปแบบเดิมที่ผ่านมา ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนเครื่องของคุณให้มีความสดใหม่ได้ตลอดเวลา โดยในอนาคตนั้นมือถือ Ara จะมาพร้อมกับขนาดที่แตกต่างกัน 3 ขนาดให้ได้เลือกสรร
ตำแหน่งในตลาดของ Ara นั้น Google ตั้งไว้ให้ชนกับ feature phone เนื่องจากความสามารถในการเพิ่มเติมโมดูลได้เองในภายหลัง นั่นทำให้การส่งตัวมือถือ Ara ที่พร้อมใช้งานออกสู่ตลาด (ซึ่งจะมีแต่ หน้าจอ, หน่วยประมวลผล และ WiFi) จะเสียค่าผลิตต่อเครื่องเพียง $50 (ประมาณ 1,625 บาท) เท่านั้น (แต่สำหรับราคาขายในตลาดจริงๆ ยังคงต้องรอตอนที่ Google ออกวาง Ara ออกสู่ตลาดแล้วจริงๆ ก่อนเนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีการคาดการณ์ราคาขายในตลาดแต่อย่างใด) และเมื่อผู้ใช้งานต้องการเพิ่มเติมโมดูลใด ก็สามารถซื้อโมดูลนั้นๆ มาเพิ่มเติมได้ทีละโมดูล (เสมือนการอัพเกรดอุปกรณ์คอมพอวเตอร์) จนกว่าผู้ใช้จะพอใจ?
ทั้งนี้จากเสียงตอบรับในงาน ATAP นั้น พบว่า Ara ยังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นโมดูลที่ยังคงมีความหลากหลายที่น้อยเกินไป น้ำหนักที่ค่อนข้างจะมากกว่าโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นๆ ความหนาที่หนาพอๆกับโทรศัพท์ในยุคปี 2000 ที่สำคัญก็คือเรื่องของอายุการใช้งานเบตเตอรี่ (ที่ถึงแม้ว่าตัวแบตเตอรี่เองก็จะเป็น 1 ในโมดูลที่สามารถถอดเปลี่ยนได้)ที่ยังคงไม่ได้รับการยืนยันว่าจะสามารถใช้งานได้นานเท่าไร ทั้งนี้ทาง Google ก็ได้รวบรวมข้อแนะนำทั้งหมดเพื่อนำไปพัฒนาตัวต้นแบบที่จะมีให้ชมอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ โดยหากมีความคืบหน้ายังไงจะนำมานำเสนอให้กับทุกท่านแน่นอนครับ
ที่มา : engadget