ในเรื่องของภัยคุกคามจากไวรัส โปรแกรมประเภท AntiVirus ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยจัดการ แก้ไข ลบล้างและป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นจากภัยต่างๆ เหล่านี้ได้ดี อีกทั้งช่วยให้การทำงานของระบบเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้ามาฉุดให้เครื่องช้าลงหรือการแพร่กระจาย จนทำความเสียหายให้กับไฟล์ข้อมูลภายในเครื่อง
ไวรัสมีแบบใดบ้าง
ซึ่งโอกาสพบกับความเสี่ยงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องของภัยคุกคามประเภทต่างๆ เนื่องจากการเข้าเว็บไซต์บางแห่งมีความเสี่ยงหรือการต่อพ่วงอุปกรณ์ที่มีไวรัสติดมาด้วยและสิ่งที่ต้องทำก็คือ การลบหรือเคลียร์ไวรัสออกจากระบบด้วย AntiVirus ซึ่งแน่นอนว่าการใช้แอนตี้ไวรัสดูจะเป็นทางออกที่ดี แต่ที่น่าสนใจก็คือ บางคนไม่รู้ตัวว่าติดไวรัส เพราะไม่รู้จักพฤติกรรมหรืออาการที่เกิดขึ้น จึงทำให้เกิดการติดและแพร่กระจายออกไป ดังนั้นแล้วลองมาดูกันว่า ไวรัสที่เราพบเจอกันบ่อยๆ ในปัจจุบันหรือที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ มีแบบใดบ้าง
Macro Virus เป็นไวรัสแบบที่ยอดนิยมและพบเจอกันได้บ่อย ซึ่งจะติดมากับไฟล์เอกสารต่างๆ การโจมตีมีตั้งแต่การ Pop up ขึ้นมารบกวน ไปจนถึงการลบข้อมูลบางอย่างภายในระบบให้เห็น
Worm จัดว่าไม่ได้เป็นไวรัสประเภทที่ส่งผลการทำลายหรือร้ายแรงต่อระบบได้โดยตรง แต่จะแสดงอาการด้วยการก่อกวนหรือเข้ามาป่วนผู้ใช้งานมากกว่า
Malware มีการออกแบบ ให้เข้าไปทำลายระบบ หมายถึงว่าเป็นการมุ่งร้ายด้วยซอฟต์แวร์โดยตรง ซึ่งมีการโจมตีอยู่หลายแบบด้วยกัน เรียกว่าเป็นสายพันธุ์ของไวรัสโดยตรง
Phishing จัดเป็นการปลอมแปลงหรือการใช้วิธีในการหลอกลวง ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้อีเมล์แจ้งข่าว สร้างหน้าเว็บเพจปลอม โดยมุ่งหวังในเรื่องของข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการทำธุรกรรมต่างๆ
Spyware จัดเป็นภัยคุกคามที่มีการหวังผลมากพอสมควร โดยเฉพาะการเข้ามาสอดแนมระบบ ล้วงข้อมูลเก็บพฤติกรรม ข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุลหรือจะเป็น Username และ Password รวมถึงในบางครั้งอาจจะเข้ามาสำรวจระบบต่างๆ ภายในเครื่องที่เราใช้
เมื่อติดไวรัสต้องทำอย่างไร
การติดไวรัสในปัจจุบันอาจจะไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากติดไวรัสในปัจจุบัน น่ากลัวกว่าแต่ก่อนหลายเท่า เนื่องจากบางครั้งไวรัสที่เข้ามานั้นไม่ได้แค่โจมตีด้วยการลบไฟล์ เปลี่ยนชื่อหรือซ่อนไฟล์เท่านั้น แต่มีการพัฒนาด้วยการแทรกตัวเข้าไปอยู่ในจุดต่างๆ เพื่อหวังสิ่งอื่นๆ ภายในระบบ บรรดาภัยคุกคามเหล่านี้ จะทำหน้าที่ในการเปิดช่องหรือประตูให้มีการส่งผ่านข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ประวัติการเข้าเว็บไซต์ ข้อมูลส่วนตัว การเชื่อมโยงกับการธุรกรรมออนไลน์ รวมไปถึงอาจเข้าไปในส่วนการทำงานหลักของระบบ ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งในด้านของการใช้งานและการใช้ชีวิต สิ่งที่ต้องทำก็คือ หาทางแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิมหรือกลับสู่สภาพเดิมให้ได้มากที่สุด ส่วนจะทำอย่างไรได้บ้างนั้น ก็ต้องแก้กันไปทีละอย่าง อย่างเช่น อัพเดต AntiVirus แล้วทำการสแกน, ดาวน์โหลด Remove Tool, ย้ายข้อมูลไว้ในที่ปลอดภัย, อัพเกรดแอนตี้ไวรัสหรือ ตรวจสอบอุปกรณ์บันทึกข้อมูลอื่นๆ เป็นต้น
จะทำอย่างไรหากติดตั้งวินโดวส์ใหม่ แต่ยังไม่มี AntiVirus
หลายๆ คนพอได้เครื่องมาใหม่ ก็จัดระบบปฏิบัติการใส่ลงไปทันที พร้อมมีการอัพเดตแบบเต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ ดูหนัง ฟังเพลง พร้อมลงเกมเสร็จสรรพ แต่ลืมไปว่าสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้จัดการกับความปลอดภัยกลับไม่มีให้เห็น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้หลงลืมไปอย่างแอนตี้ไวรัสนั้น ก็ยังมีให้เห็นอยู่บน Windows ให้มาใช้ก่อนในเบื้องต้น ในฟีเจอร์ที่เรียกว่า Windows Defender ที่เป็นฟังก์ชันที่ใช้สำหรับปกป้องการคุกคามในแบบต่างๆ เรียกได้ว่า Windows Defender ก็เป็นเครื่องมือสำหรับคนที่ต้องการใช้งานระบบป้องกันการคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นไวรัส สปายแวร์หรือสิ่งอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเชื่อมต่อหรือใช้งานคอมพ์ทั่วไป ซึ่งสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับระบบนี้ อยู่ที่การอัพเดตเป็นประจำ ก็ช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
