ในปี 2011 ที่ผ่านมานั้น Nvidia ได้เปิดตัวเทคโนโลยี?3D Vision ออกมาเพื่อรองรับกับการเล่นเกมในรูปแบบเห็นภาพเป็น 3 มิติ แต่พอมาในปี 2014 นี้กลับพบว่าการเล่นเกมแบบเห็นภาพแบบ 3 มิตินั้นกลับเงียบสนิท ซึ่งนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะวงการเกมคอมพิวเตอร์เท่านั้นื เครื่อง Console มือถือรองรับภาพ 3 มิติแบบไม่ต้องใช้แว่นอย่าง Nintendo 3DS นั้นก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครใช้ฟีเจอร์ภาพ 3 มิติเลยเช่นกัน(จนต้องออกเวอร์ชัน 2DS แบบลดราคาออกมา) แต่ทั้งนี้ตั้งแต่ในปี 2011?Phil Eisler ผู้จัดการทั่วไปด้าน 3D Vision ได้กล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีการเล่นเกมแบบเห็นภาพ 3 มิตินี้จะต้องใช้เวลาสักพัก ซึ่งอาจจะกินเวลานาน 5 – 10 ปีเลยทีเดียว แต่อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่าพอมาถึงในปีนี้เทคโนโลยี 3D Vision แทบจะไม่มีผู้ผลิตรายใดยกมาเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงจอมอนิเตอร์ก็แทบจะไม่ผลิตออกมารองรับกับเทคโนโลยีนี้แล้ว (การจะใช้ 3D Vision ได้จะต้องมีการ์ดจอของ Nvidia รุ่นที่รองรับ และจอมอนิเตอร์ต้องรองรับด้วย)
สาเหตุที่เทคโนโลยี 3D Vision ไม่เปรี้ยงดังที่ Nvidia คาดหวังไว้ก็เนื่องมาจากมีผู้ผลิตเข้าร่วมน้อยและ AMD เองก็ไม่ได้เข้าร่วม ทำให้ผู้ใช้งานไม่ได้เข้าถึงเทคโนโลยีนี้มีไม่มากนัก หากพูดถึงกระแสในปัจจุบันนั้นบอกได้ว่าการเล่นเกมแบบภาพ 3 มิตินั้นมีผู้พยายามจะผลักดันหลายเจ้าเช่นกัน ตอนนี้ที่จะเห็นได้ชัดสุดก็คือ?Oculus? rift ที่ Facebook แถม?Oculus? rift นั้นก็ไม่ได้ขึ้นกับเทคโนโลยีการ์ดจอของยี่ห้อใดอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้มีโอกาศเข้าถึงมากขึ้น แต่หาถามว่าจะออกมาแล้วเปรี้ยงไหม ก็ต้องดูที่เกมที่รองรับครับว่ามีมากแค่ไหน เนื่องจากปัญหาที่ 3D Vision ประสบมานั้นก็มีเกมเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่มีเกมออกมาสนับสนุนน้อยเกินไป ทั้งนี้จากรูปการไม่ว่าจะฝั่ง Console หรือ คอมพิวเตอร์เองผมว่าก็คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่เทคโนโลยีการเล่นเกมแบบเห็นภาพ 3 มิติจะได้รับความนิยม คุณหล่ะครับคิดว่าตัวเองพร้อมกับการเล่นเกมแบบเห็นภาพ 3 มิติ รึยัง สำหรับตัวผมจากประสบการณ์ตรงที่ได้สัมผัส 3D Vision มานั้นต้องบอกเลยครับว่ายังไม่ไหว เพราะเล่นๆไปแล้วเวียนหัวทันที
ที่มา : vr-zone