สวัสดีครับทุกท่าน เบื่อไหมครับเวลาที่เกมใหม่ๆ ออกมาแล้วท่านเล่นทีไรก็กระตุก ปรับยังไงก็ไม่ไหว เพราะเกมใหม่เรียกร้องหาแต่คอมสเปคเทพทั้งนั้น ครั้นจะให้ซื้อคอมใหม่ก็ใช่ที วันนี้ผมจะทำให้ทุกท่านใช้คอมเครื่องเก่าขอบทุกคนให้มีคุณค่ามากขึ้นด้วยการหาเกมเก่าแต่ยังเก๋ามาเล่นกันครับ
สำหรับวันนี้ผมขอนำเสนอ
Mirror?s Edge เกมเมื่อปี 2009 จากค่า DICE (จัดจำหน่ายโดย EA) เป็นเกมแนว FPS แบบ freerunning (เป็นกีฬาประเภทวิ่งแล้วกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ผ่านอุปสรรค์ต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้สนใจ ค่อนข้างมีอันตรายแต่ท้าทายเป็นที่สุด) ครับ โดยคุณจะได้สวมบทเป็นสาวหมวย Faith freerunner ที่ทำงานให้กับองก์กรหนึ่งแล้วต้องเข้าไปผัวพันกับการฆาตกรรม และปัญหาอีกมากมาย รับร้องถ้าคุณเป็นคอภาพยนตร์แนว Transporter คุณต้องชอบเกมนี้แน่นอนครับ
Gameplay
อย่างที่ได้บอกไปตอนต้นว่าเกมนี้เป็นเกมแนว Freerunning ดังนั้นรูปแบบการเล่นของเกมนี้ก็จะเป็นการวิ่ง ปีน กระโดด ซะเป็นส่วนใหญ่เลยครับ แถมสาวหมวย Faith ของเรายังเป็นสาวที่เอวบางร่างน้อย ดังนั้น จึงไม่มี Action บู๊ สาดกระสุน แต่อย่างไรครับ สิ่งที่เราจะทำได้มีเพียงการ ต่อ กระโดดเตะ และการปลดอาวุธคู่ต่อสู้มากกว่าครับ
ด้วยความที่เป็น?Freerunning ที่เน้นการกระโดดโลดโผนฉากโดยส่วนใหญ่ของ Mirror?s Edge จึงอยู่บนยอดตึกมากกว่าอยู่ในตัวตึก หรือบนท้องถนน โดยส่วนใหญ่ เกมสามารถทำให้คุณเสียวไปกับการกระโดดแต่ละครั้งได้ ช่วงแรกๆ ที่ผมเล่นสงสัยจะอินไปหน่อย พอน้องหมวยตกตึกผมรู้สึกเสียวท้องขึ้นมาวูบเลยครับ
การบังคับนั้นไม่ยากอะไรครับเป็นไปตามมาตรฐานของเกมแนว FPS ซึ่งโดยส่วนตัวผมเป็นคนเล่นเกม Console มาตลอด ดังนั้นจึงถนัดการบังคับด้วยจอยมากกว่า (ซึ่งตรงนี้ผมว่าแล้วแต่ความถนัดของคุณเลยครับ หากคุณเป็นคนที่เล่นเกมแนว FPS บนคอมมาจนชินแล้วก็สามารถใช้ Mouse กับ Keyboard ได้สบายๆ ครับ) แต่ติดตรงที่ช่วงแรกๆ การควบคุมให้น้องหมวยกระโดษข้ามไปมาระหว่างสิ่งกีดขวางแบบหลายจังหวะอาจจะยากไปไหน เพราะต้องกดปุ่ม ซ้ำกันเร็วๆ ด้วยจังหวะที่พอดี (ผมเองกว่าจะชินก็ใช้เวลาสักพักเลยครับ)
Graphics & Design
สำหรับ Spec ขั้นต่ำที่จะเล่นเกม Mirror?s Edge ได้สนุก คุณจะต้องมีคอมพิวเตอร์สเปคดังต่อไปนี้ครับ
- CPU Intel Core 2 Duo E4400 2Ghz หรือ AMD Athlon 64 X2 Dual Core 4400+
- GPU Nvidia Geforce 8800 GT หรือ AMD Redeon HD 3800 series
- Ram 2 GB
- OS Windows Vista 32 ขึ้นไป
- HDD Space 8 GB
จากสเปคที่ Mirror?s Edge ต้องการนั้น จะเห็นได้ว่าหากคุณซื้อคอมในช่วงตั้งแต่ต้นปี 2012 เป็นต้นมานั้นรับรองได้ว่าสามารถรันเกมนี้ได้อย่างแน่นอนครับ (แน่นอนครับเกมนี้สามารถรันบนระบบ Windows 8.1 ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ เพราะผมใช้อยู่)
พูดถึงความสวยงามของกราฟฟิกแล้วต้องบอกว่า Mirror?s Edge ยังคงดูเป็นเกมที่มีนความทันสมัยอยู่ครับ ถึงแม้จะไม่ได้ดูสวยสง่าแบบเกมในปัจจุบันแต่ก็ยังเพียบพร้อมไปด้วยความสวยงามตระการตาครับ การออกแบบ สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในเกมก็เป็นไปอย่างสวยงาม จะติอยู่อย่างก็คือ ฉากที่เป็นฉากปิด เช่นฉากภายในตึก ดูแล้วเหมือนไม่ค่อยตั้งใจทำเท่าไร เพราะรายละเอียดยังแข็งๆ แต่โดยส่วนมาก เรามักจะใช้เวลาอยู่ในตัวตึกไม่นานนักก็จะออกมาสู่โลกกว้างที่ดูแล้วสวยงามมากกว่า แต่หากใครที่ชอบสีสัน อาจจะเบื่อเกมนี้เร็วได้ครับ เพราะด้วยการที่เกมนี้จะอยู่บนยอดตึกเป็นหลักทำให้โทนสีของเกมนี้จะมาในแนว ขาว ฟ้า ดำ มากกว่า ไม่ค่อยเจอสีสันเท่าไรนัก
เกมนี้มีความสมจริงด้วยการใช้ระบบฟิสิกส์ของ PhysX ครับดังนั้นหากท่านใดใช้การ์ดจอของ Nvidia ก็จะได้พบกับความสมจริงที่เหนือกว่า แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือเกมนี้เวลาที่ฉากไหนมีการยิงกันเกิดขึ้นแล้วมีกระจกแตก เกมจะกระตุกทันทีครับ ไม่ว่าเครื่องของท่านจะเทพมาจากไหน ใช้การ์ดจอค่ายอะไร ตั้งความละเอียดหน้าจอสูงต่ำแค่ไหน เปิด anti-aliasing ไว้หรือไม่ กระตุกหมดครับ(ผมลองมากับหลายเครื่องแล้วทั้งใหม่ทั้งเก่า) แต่พอผ่านจุดนั้นไปก็จะกลับสู่สภาพเดิมครับ
Sound
ส่วนทางด้านเสียงนั้น บอกเลยว่าดนตรีประกอบทำออกมาได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ว่าจะเนิบๆ ไปตลอดทั้งเกม มีบ้างบางจุดที่เพลงประกอบจะเปลี่ยนตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่โดยปกติแล้วเราก็ต้องเจอกับเพลงเนิบๆ สบายๆ ไปเรื่อยๆ เกือบตลอดทั้งเกมเลยครับ(ทำเอาผมหลับคาจอยมาแล้วครับ)
ส่วนทางด้านเสียงแอฟเฟ็คนั้นต้องถือว่าทำออกมาดีครับ เสียงปืน เสียงกระจกแตก เสียงฝีเท้า เสียงไต่กำแพง ฯลฯ ถือได้ว่าทำออกมาได้เนียนมากๆ ครับ
สรุป
Mirror?s Edge เป็น FPS ที่สนุกเกมหนึ่งครับ แต่คุณอาจไม่ชอบ Mirror?s Edge เลยถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเกมสไตล์เดินยิง แต่ถ้าหากอยากสัมผัสกับประสบการณ์ Freeruning (ที่ในชีวิตจริงอาจมีแข้งขาหักได้) และความเสียวเวลาตกจากที่สูง พร้อมทั้งเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม รับรองว่า Mirror?s Edge ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ
ข้อดี
- กราฟฟิกยังคงดูสวยถึงแม้เป็นเกมที่ออกมาตั้งแต่ปี 2010
- เนื้อเรื่องน่าติดตาม มีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง
- นำเอากีฬา Freerunning มาถ่ายถอดประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
- การบังคับบางรูปแบบกดยาก ต้องใช้การฝึกฝนนานกว่าจะชิน
- มีอาการกระตุกเวลาอยู่ในฉากที่มีการยิงปินแล้วกระจกแตก
- เพลงประกอบค่อนข้างน่าเบื่อ ฟังแล้วรู้สึกง่วงนอนมากกว่าจะลุ้น