เมื่อประมาณต้นปี 2013 ที่ผ่านมา Nvidia ได้ปล่อยสุดยอดกราฟฟิกการ์ดระดับเทพออกมานั้นก็คือ GTX Titan ซึ่งทาง Nvidia ได้การันตีเลยว่า ณ ช่วงเวลานั้นไม่มีการ์ดจอตัวไหนที่จะแรงไปกว่านี้อีกแล้ว ในช่วงที่มีข่าวลือเกี่ยวกับการ์ดจอระดับเทพที่ทาง Nvidia จะปล่อยออกมา หลายคนต่างคิดว่าต้องเป็นการ์ดจอในซีรี่ส์ GTX700 แน่ๆ แต่พอเปิดตัวออกมาจริงๆกับกลายเป็นว่ามันไม่ใช่ทั้งการ์ดจอในซีรี่ส์ GTX700 หรือ GTX600 series ?แต่มันคือ ?TITAN? โดยทางผู้ผลิตตั้งใจจะให้มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มันจึงไม่มีรหัสรุ่น เพียงใช้แต่คำว่า Titan อย่างเดียวเลย แต่ก็ยังคงใช้สถาปัตยกรรมแบบ Kepler อยู่
?โดยจุดประสงค์ของเจ้า Titan คือเป็นการ์ดจอแบบ Single-GPU ที่แรงที่สุดสำหรับการเล่นเกม มันเปิดตัวมาพร้อมกับ CUDA Core 2,688 คอร์ ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอยู่ที่ 837MHz แรม 6GB DDR5 แบนวิธ 384bit การ์ด GTX Titan ใช้ชิปรหัส GK110 แบบเดียวกับที่ใช้ใน Nvidia Tesla K20X แกนประมวลผลเพื่อเร่งการประมวลผลใน Sever ของเครื่อง Supercomputer นั้นแปลว่า GTX Titan ก็น่าจะได้รับเชื้อสายจากการ์ดระดับสูงอย่าง Nvidia Tesla มาบ้าง และนี้ก็เป็นสิ่งที่การันตีความแรงของมันด้วยเช่นกัน มันเป็นที่ฮือฮามากในช่วงที่เปิดตัวใหม่ๆ หากใครมีไว้ในครอบครองนั้นแปลว่าคอมเครื่องนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
แต่แล้วฝันร้ายของ Titan ก็มาถึงเมื่อฝ่ายตรงข้ามอย่าง AMD ก็ไม่ยอมที่จะอยู่เฉยส่งการ์ดจอในซีรี่ส์ใหม่ R9 ซีรี่ส์อย่าง R9 290X เข้าประกวด ทั้งเป็นซีรี่ส์ใหม่ ใช้เทคโนโลยีใหม่แน่นอนมันจึงล้มเจ้า Titan ได้อย่างอยู่หมัด และมิหนำซ้ำทาง Nvidia ค่ายเดียวกันเองก็เพิ่งเปิดตัวการ์ดจอตัวโหดอย่าง GTX 780Ti ออกมาเช่นกัน ทั้งในเรื่องของความแรงที่ถูกการ์ดจอใหม่ๆเบียดตกอันดับและราคายังแพงกว่าเค้าอีก ทำให้หลายๆคนหันไปสนใจการ์ดจอตัวใหม่ไฟแรงที่ทั้งแรงและถูกกว่า titan จึงเริ่มเงียบหายไปจากวงการแล้วก็กลายเป็นแค่ตำนาน……(แหม่เวอร์ไปนะ) ?แต่แล้วในวันนี้ GTX Titan ก็กลับมาโดยส่ง GTX Titan ในรุ่น Black Edition เพื่อทวงบรรลังค์คืน!!
ได้ทำการรู้จักกับ GTX Titan กันบ้างแล้ว วันนี้เราพูดถึง GTX Titan Black Edition กันบ้าง เพิ่งจะเปิดตัวไปได้ไม่นานมานี้โดยเปิดตัวตามหลัง GTX750Ti มาติดๆแต่จะพูดว่ามันเป็นการ์ดจอสำหรับเล่นเกมที่แรงที่สุดเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่า Titan Black สามารถกลับมาทวงแชมป์ความแรงได้สำเร็จ โดยสเปกของเจ้า Titan Black ก็ถือได้ว่าอัพเกรดจากเดิมมาก CUDA Core จากเดิม 2,688 เป็น 2,888 คอร์ ?เรียกได้ว่างาน workstation การ์ด Titan black ก็พอมีฝีมือเหมือนกัน ?แรม 6GB DDR5 ความเร็ว 7Gbps ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 889MHz เพิ่มเป็น 980MHz ในโหมด Boost ส่วนประมวลผลแบบ double precision computing unit (FP64 CUDA core) จะถูกใช้งานแบบเต็มที่
มาดูกันในส่วนหน้าขอเจ้า titan black กันบ้าง อันที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้ดู Black สมชื่อซักเท่าไหร่ พูดตามตรงแล้วหน้าตามันก็แทบไม่ต่างการ GTX Titan หรือ GTX780Ti เลย แต่ส่วนที่เปลี่ยนไปก็คือฟินระบายความร้อนและโลโก้ TITAN ที่เปลี่ยนเป็นสีดำ พัดลมเป็นแบบ Blower ตามแบบฉบับการ์ด Ref. ของ Nvidia เป้าอัดเอาลมออกไปทางด้านหลังของตัวการ์ด พอร์ตการเชื่อมต่อแบบมัลติการ์ด รองรับสูงสุด 4-way SLI ปลั๊กไฟเลี้ยงแบบ 6pin PCI-Eและ 8pin PCI-Eอย่างละ 1 หัว Power Supply ขอซัก 700-800 วัตต์กำลังดี ?แผ่น PCB เป็นสีดำล้วน สล็อต PCI-Express ในการติดตั้งขอ 2 สล็อต เป็นอย่างต่ำ รองรับการแสดงผลสูงสุดถึง 4K แสดงผลแบบ Multi Monitor ได้สูงสุด 4 จอ พอร์ตในการเชื่อมต่อออกสูงหน้าจอ DVI-D, DVI-I, HDMI และ Displayport
ราคาของ GTX Titan Black Edition นั้นอยู่ที่ 999 เหรียญหรือประมาณ 32,000 บาท เท่ากันกับ GTX Titan โดยจะเข้ามาแทนที่ titan เลย แน่นอนครับว่ามันไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีซักเท่าไหร่หากคุณกำลังมองหาการ์ดจอดีๆราคาประหยัดสำหรับการประกอบเครื่อง PC งบประมาณระดับกลางซักเครื่อง แต่หากคุณกำลังต้องการที่จะประกอบคอมสำหรับเล่นเกมระดับ High-End ซักเครื่องแล้วกำลังหาการ์ดจอที่ดีซักตัว ผมว่า GTX Titan Black Edition ก็สามารถที่จะตอบแสนงความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว….