ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงเวลาปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Mobile Devices อย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้รับความนิยมมากทีเดียว HP หรือ Hewlett Packard เล็งเห็นจุดนั้นจึงได้ส่ง HP Pavilion X2 11-H101TU สินค้า Hybrid Ultrabook สเปคสูง มีคุณสมบัติถอดจอได้ที่สามารถกลายร่างเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ขนาด 11.6 นิ้ว เพื่อตอบสนองกับความต้องการของตลาดโลก

พ่วงด้วยการออกแบบและดีไซน์ที่หรูหราตามสไตล์ Ultrabook ระดับสูงของ HP และวัสดุตัวเครื่องคุณภาพสูงและงานประกอบที่ค่อนข้างเนี๊ยบ เรียกได้ว่า Pavilion 11 X2 เป็น?Hybrid Ultrabook อีกหนึ่งทางเลือกของ?Mobile Devices?ที่น่าสนใจมากจริงๆ โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 35,990 บาทเท่านั้น

Introduce

 

Specification

สเปคของระบบทาง HP เลือกใช้สเปคของ HP Pavilion 11 X2 มาตรฐานเดียวกับ Ultrabook ตัวอื่นๆ ด้วยหน่วยประมวลผลตัวกินไฟต่ำมากอย่าง Intel Core i5-4202Y ความเร็วสูงสุด 2 GHz แบบ 2 คอร์ 4 เธรด มี TDP 11.5W เท่านั้น , พร้อมแรม DDR3L 4GB รุ่นประหยัดไฟ(ไม่สามารถอัพเกรดได้) , ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Graphics 4200 และตัวเก็บข้อมูล SSD 128GB (เชื่อมต่อแบบ M2) ความเร็วสูง

และด้วยความที่ Pavilion 11 X2 เป็น Hybrid Ultrabook ทาง HP จึงเลือกที่จะติดตั้งหน้าจอแสดงผลสัมผัส LED ขนาด 11.6 นิ้ว UWVA ความละเอียด 1,366 x 768 พิกเซล พร้อมด้วยกล้องเว็บแคมด้านหน้าแบบ HP TrueVision Full HD ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลพร้อมไมค์ dual digital microphones และกล้องด้านหลังแบบ Full HD เช่นกัน ใช้ถ่ายรูปและวิดีโอคอลได้สะดวกสบายกว่าที่เคยแน่นอน

พอร์ตเชื่อมต่อก็จะมี USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต , USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต , SD card reader , พอร์ต HDMI สำหรับต่อหน้าจอแสดงผลแยก และยังมีพอร์ตเชื่อมต่อไมค์และลำโพงอีกถึง 2 ชุดทั้งบริเวณฐานเครื่อง และบริเวณตัวเครื่องแท็บเล็ตที่ถอดได้ นอกจากนี้ ?Pavilion 11 X2 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Wireless 802.11b/g/n และ Bluetooth 4.0

รวมไปถึงยังรองรับระบบเสียง Beats Audio และระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 64 ลิขสิทธิ์ โดยมีน้ำหนักตัวรวมทั้งเครื่องอยู่ที่ 1.49 กิโลกรัม และเมื่อแยกเฉพาะตัวเครื่องแท็บเล็ตจะอยู่ที 0.78 กิโลกรัมถือว่าทำได้ไม่เลวเลย

สเปคฉบับเต็ม

Hardware / Design

สีสันของ HP Pavilion 11 X2 เรียกได้ว่าสะดุดตากับผู้ที่พบเห็นสุดๆด้วยการเล่นกับความบางและความโค้งเว้าของตัวเครื่องสุดๆ เรียกได้ว่าทุกส่วนของตัวเครื่องแทบไม่มีเหลี่ยมและมุมเลย รวมไปถึงความบางเพียง 2.23 เซนติเมตรเมื่อวัดรวมกับคีย์บอร์ด และมีความบางเพียง 1.16 เซนติเมตรเมื่อวัดตัวเครื่องแท็บเล็ตเพียงอย่างเดียว จัดว่าทำการบ้านด้านนี้มาได้ดีทีเดียว

เช่นเดียวกับการออกแบบโดยรวมที่โดดเด่นมากด้วยการเล่นสีโทนหลักของเครื่องเป็นสีแดงตัดดำสร้างอิมแพคและความดุดันทำให้ใครๆต้องหันมามอง ฝาบนของตัวเครื่องที่สามารถถอดได้มีโลโก้ HP ติดไว้ตรงกลางดูเด่นเป็นสง่า มีปุ่มเปิดปิดเครื่องอยู่บริเวณมุมซ้ายบน และมีเพิ่มลดเสียงอยู่บริเวณมุมขวาบน พร้อมกล้องหลัง Full HD ให้เพื่อนๆเก็บภาพประทับใจได้ตลอดเวลาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี และยังมีสติกเกอร์ Intel บ่งบอกซีพียูไว้มุมซ้ายล่างชัดเจนดีเยี่ยม เช่นเดียวกับฝาล่างของตัวเครื่องที่ใช้โทนสีแดงพร้อมยางรองเครื่อง 4 มุม พร้อมข้อความและสติกเกอร์ต่างๆ ที่ระบุไว้อย่างชัดเจน

เมื่อเปิดเครื่องออกมาในลักษณะของโน๊ตบุ๊คปกติก็พบกับตัวคีย์บอร์ดที่จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำด้าน พร้อมสกรีนชื่อรุ่น Pavillion x2 ไว้อย่างชัดเจน มองเหนือขึ้นไปจะเห็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size island-style เอกสิทธิเฉพาะ HP เท่านั้น ใช้งานจริงตอบสนองและรับกันนิ้วได้เป็นอย่างดี เว้นช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำและมีประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีในการพิมพ์

เช่นเดียวกันกับทัชแพดที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ และยังสามารถใช้งานแบบ Multi-Touch Gesture ที่มีใน Windows 8 ได้ด้วย ที่สำคัญบริเวณที่เชื่อมต่อกับจอแสดงผลจะสังเกตเห็นตัวล็อคที่ใช้งานได้ง่าย เพียงแค่เลื่อนปลดล๊อคไปทางซ้ายตัวหน้าจอก็จะถอดใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดายและตัวฐานคีย์บอร์ดก็จะเปรียบเสมือนกับเป็น Docking มีแบตในตัวได้อีกทางหนึ่ง

ตัวเครื่องด้านในบริเวณจอแสดงผลที่ถอดออกได้ ก็ติดตั้งแว็บแคมความละเอียด 2 ล้านพิกเซลพร้อมไมค์มาให้ด้วยใช้งาน Video Call ได้แจ่มแน่นอน นอกจากนี้ HP Pavilion 11 X2 ยังเหนือกว่าด้วยระบบเสียง Beats Audio ผลผลิตจากแรพเปอร์ชื่อดังอย่าง Dr.Dre ที่ขับเสียงออกมาได้ดีกว่าถ้าเปรียบเทียบกับโน๊ตบุ๊ค หรือ Ultrabook ในระดับราคาใกล้เคียงกัน รวมไปถึงบริเวณหน้าจอแสดงผลจะมีปุ่ม Windows ที่สามารถกดได้เพื่อกลับไปยังหน้าจอ Metro สะดวกดีทีเดียว

Connector / Thin And Weight

พอร์ตต่างๆของ HP Pavilion 11 X2 บริเวณตัว Keyboard Docking ว่ากันตามตรงก็ถือว่ามีมาให้เพียงพอใช้งานเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงน่าจะมีมาให้มากกว่านี้อีกเล็กน้อยก็จะดีมาก โดยบริเวณด้านขวาของเครื่องจะมีพอร์ตเชื่อมต่ออะแอดเตอร์ไว้สำหรับชาร์จไฟ , พอร์ต USB 2.0 1 พอร์ต และพอร์ต HDMI อีก 1 พอร์ตไว้สำหรับต่อจอแสดงผลเพิ่มเติม ทางด้านซ้ายก็จะมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 1 พอร์ต และช่องเชื่อมต่อไมค์และลำโพงอีก 1 พอร์ตสำหรับต่อไมค์ ลำโพง หรือหูฟังแยกต่างห่าง

ส่วนตัวเครื่องที่เป็นแท็บเล็ตเมื่อปลดล๊อคออกมาก็จะสังเกตเห็นตัวล๊อค คงทนแข็งแรงสองจุดซ้าย-ขวา และตรงกลางจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อที่ใช้โอนถ่ายข้อมูลระหว่างตัว Keyboard Docking กับตัวเครื่องแท็บเล็ต แน่นอนเมื่อถอดจอออกมาเจ้า HP Pavilion 11 X2 ก็จะกลายเป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 ประสิทธิภาพสูงขนาด 11.6 นิ้ว ที่จะมีพอร์ตเชื่อมต่ออย่างช่องเชื่อมต่ออะแอดเตอร์ชาร์จไฟ และช่องเชื่อมต่อหูฟัง-ลำโพง ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทั่วไป

Hybrid

การใช้งานในรูปแบบ Hybrid Ultrabook หรือ 2 in 1 เจ้า HP Pavilion 11 X2 ก็ทำได้ดีตามที่มันควรจะเป็นไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในรูปแบบของโน๊ตบุ๊คหรือ Ultrabook ปกติ ที่ก็ตอบสนองการใช้งานได้เต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ดีด้วยข้อจำกัดของสเปคเครื่องที่ต้องทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาที่สุดแต่ต้องพกพาง่ายที่สุดและทำให้ตัวเครื่องใช้งานบนแบตเตอรี่ได้นานที่สุด จึงบีบให้ HP จำเป็นต้องใช้ระบบภายในเป็นแบบประหยัดไฟ ทำให้ในบางการใช้งานอาจจะใช้เวลาในการประมวลผลมากกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลวงนักสำหรับท่านที่ต้องพกพา Ultrabook ติดตัวไปไหนมาไหนอยู่เป็นประจำ

เช่นเดียวกันกับในรูปแบบของการถอดใช้งานเป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 ของ Pavilion 11 X2 ก็ตอบสนองกับการใช้งานได้เป็นที่หน้าพอใจ ด้วยความที่ HP ได้เสริมฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 11.6 นิ้วที่ใช้งานได้ลื่นไหล กล้องหน้ากล้อง-หลังที่ถ่ายรูปได้คมชัด รวมไปถึงปุ่มเปิด-ปิดและปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่ใช้งานได้ง่าย ถึงแม้จะมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมากและมีฝาหลังที่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย แต่ด้วยสเปคเครื่องที่แรงกว่าแท็บเล็ต Windows 8.1 ปกติตัวอื่นอยู่มากรวมไปถึงฟีเจอร์ที่ครบครัน แถมยังสามารถถอดจอแสดงผลออกได้ง่ายเพียงเลื่อนปุ่มเพียงปุ่มเดียวบวกกับน้ำหนักของตัวแท็บเล็ตเพียง 780 กรัม ถือว่าทดแทนกับข้อสังเกตได้อย่างไม่น่าเกลียด

Performance / Software

เข้าสู่ช่วงของการทดสอบหรือ Benchmark กัน สำหรับเจ้า HP Pavilion 11 X2 เลือกที่จะใช้สเปคประหยัดไฟเป็นพิเศษตามสไตล์โน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Hybrid Ultrabook แน่นอนว่ามันกินไฟน้อย แต่ประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยกว่าสินค้าในกลุ่มเดียวกันเลย ยิ่งได้ตัวเก็บข้อมูลแบบ SSD แบบ M2 มาช่วยงานด้วยแล้วละก็ Ultrabook บางตัวยังสู้ไม่ได้เลยละครับ

??

โปรแกรมเช็คสเปคเครื่องอย่างอย่าง CPU-Z และ GPU-Z ก็แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ HP ระบุเอาไว้

 

CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์กราฟฟิคก็ทำผลงานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของซีพียูประหยัดไฟรหัส Y อย่าง Core i5-4202Y
?

ตัวเก็บข้อมูลของ Pavilion 11 X2 ที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจดีมาก

 

บททดสอบพื้นฐานอย่างการ Zip ไฟล์มาตราฐานอย่าง Winrar ก็ทำการ Zip ไฟล์ Dota 2 ที่มีขนาดราวๆ 8GB ได้ในเวลา 13 นาทีก็ถือว่าน่าพอใจ

 

ตามมาด้วยการทดสอบกับโปรแกรม Lightroom 4 ที่ได้ปรับรูปจำนวน 50 รูปเป็น Aged Photo และทำการ Export โดยใช้ความละเอียด 900×600 พิกเซล ก็ทำเวลาไปเกือบๆ 8 นาทีไวใช้ได้เลยละ

 

มาดูผลทดสอบเกมสำหรับเพื่อนๆที่อยากเล่นฆ่าเวลากันกับเกมแรกอย่าง Street Fighter 4 ปรับภาพที่ 1366×768 All-low ก็ให้ผลคะแนนเฉลี่ยในระดับ Rank E อยู่ในระดับที่พอเล่นได้

 

เกมอย่าง Sniper Elite ปรับภาพที่ 1366X768 All-low เช่นกัน ก็พอเล่นได้อยู่ที่ 11.4FPS แต่ในการเล่นจริงแนะนำให้ปรับลดความละเอียดลงอีกสักนิดจะลื่นขึ้นอีกมาก

?

และตบท้าบด้วยชุดทดสอบของ FuterMark ก็ทำได้ดีตามาตราฐานตามสเปคของ Hybrid Ultrabook

Conclusion / Award

HP Pavilion 11 X2 เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คในตระกูล Hybrid Ultrabook ที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลยละครับ ด้วยฟีเจอร์กระสือที่สามารถแยกถอดจอแยกใช้งานในแบบแท็บเล็ตก็ได้ หรือจะเสียบใช้งานกับ Keyboard Docking เพื่อเป็น Ultrabook ในแบบปกติก็ดี ที่สำคัญยังมาพร้อมน้ำหนักเครื่องที่เบาสุดๆเพียง 1.49 กิโลกรัมเท่านั้น ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับนักธุรกิจ และผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการพกพา และใช้งานเป็นอย่างยิ่ง

เช่นกันกับสเปคของเครื่องที่ HP Pavilion 11 X2 เลือกใช้ในระดับมาตราฐานของ Ultrabook แบบประหยัดไฟเป็นพิเศษ ที่ถึงแม้จะกินไฟน้อยแต่ประสิทธิภาพแทบไม่ได้ด้อยลงไปเลย แถมยังได้ SSD มาเป็นตัวช่วยอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถทำงานเอกสาร งานพรีเซนต์ต่างๆได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว ครั้นจะนำไปใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ต Windows 8.1 หน้าจอ 11.6 นิ้ว เพื่อตอบสนองความบันเทิงก็ทำได้ดีทีเดียว

แต่ข้อสังเกตของ Pavilion 11 X2 ก็มีอยู่บ้างเช่นกัน ด้วยจำนวนพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ที่มีมาให้ในระดับพอใช้งานเท่านั้น พ่วงกับพื้นผิวภายนอกของตัวเครื่องที่เป็นลักษณะเงาซึ่งเมื่อใช้งานไปนานๆอาจจะเป็นคราบมันและรอยนิดมือได้ง่าย อย่างไรก็ดีด้วยสนนราคาของเจ้า Pavilion 11 X2 ที่ 35,990 บาท เทียบกับจุดสังเกตเล็กน้อยๆ ก็นับว่าเป็น Hybrid Ultrabook ทางเลือกอีกตัวเลือกที่น่าลองเลยละครับ

 

ข้อดี

• สีสันสวยงามน่าใช้งาน
• ถอดจอเป็นแท็บเล็ตขนาด 11.6 นิ้วได้
• สเปคเครื่องกินไฟต่ำสุดๆใช้งานได้นาน
• ระบบเสียง Beats Audio ให้เสียงสมจริง
• ตัวเครื่องน้ำหนักเบาพกพาสะดวก
• มีกล้องหน้า-หลังแบบ Full HD
• สเปคเครื่องประหยัดไฟแต่มีประสิทธิภาพสูงในระดับ Ultrabook

จุดสังเกต

• พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเพียงพ่อต่อการใช้งานพื้นฐานเท่านั้น
• ตัวเครื่องเงา เกิดคราบมัน และรอบนิ้วมือได้ง่าย

Introduce

 

Specification

สเปคของระบบทาง HP เลือกใช้สเปคของ HP Pavilion 11 X2 มาตรฐานเดียวกับ Ultrabook ตัวอื่นๆ ด้วยหน่วยประมวลผลตัวกินไฟต่ำมากอย่าง Intel Core i5-4202Y ความเร็วสูงสุด 2 GHz แบบ 2 คอร์ 4 เธรด มี TDP 11.5W เท่านั้น , พร้อมแรม DDR3L 4GB รุ่นประหยัดไฟ(ไม่สามารถอัพเกรดได้) , ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Graphics 4200 และตัวเก็บข้อมูล SSD 128GB (เชื่อมต่อแบบ M2) ความเร็วสูง

และด้วยความที่ Pavilion 11 X2 เป็น Hybrid Ultrabook ทาง HP จึงเลือกที่จะติดตั้งหน้าจอแสดงผลสัมผัส LED ขนาด 11.6 นิ้ว UWVA ความละเอียด 1,366 x 768 พิกเซล พร้อมด้วยกล้องเว็บแคมด้านหน้าแบบ HP TrueVision Full HD ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลพร้อมไมค์ dual digital microphones และกล้องด้านหลังแบบ Full HD เช่นกัน ใช้ถ่ายรูปและวิดีโอคอลได้สะดวกสบายกว่าที่เคยแน่นอน

พอร์ตเชื่อมต่อก็จะมี USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต , USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต , SD card reader , พอร์ต HDMI สำหรับต่อหน้าจอแสดงผลแยก และยังมีพอร์ตเชื่อมต่อไมค์และลำโพงอีกถึง 2 ชุดทั้งบริเวณฐานเครื่อง และบริเวณตัวเครื่องแท็บเล็ตที่ถอดได้ นอกจากนี้ ?Pavilion 11 X2 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Wireless 802.11b/g/n และ Bluetooth 4.0

รวมไปถึงยังรองรับระบบเสียง Beats Audio และระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 64 ลิขสิทธิ์ โดยมีน้ำหนักตัวรวมทั้งเครื่องอยู่ที่ 1.49 กิโลกรัม และเมื่อแยกเฉพาะตัวเครื่องแท็บเล็ตจะอยู่ที 0.78 กิโลกรัมถือว่าทำได้ไม่เลวเลย

สเปคฉบับเต็ม

Hardware / Design

สีสันของ HP Pavilion 11 X2 เรียกได้ว่าสะดุดตากับผู้ที่พบเห็นสุดๆด้วยการเล่นกับความบางและความโค้งเว้าของตัวเครื่องสุดๆ เรียกได้ว่าทุกส่วนของตัวเครื่องแทบไม่มีเหลี่ยมและมุมเลย รวมไปถึงความบางเพียง 2.23 เซนติเมตรเมื่อวัดรวมกับคีย์บอร์ด และมีความบางเพียง 1.16 เซนติเมตรเมื่อวัดตัวเครื่องแท็บเล็ตเพียงอย่างเดียว จัดว่าทำการบ้านด้านนี้มาได้ดีทีเดียว

เช่นเดียวกับการออกแบบโดยรวมที่โดดเด่นมากด้วยการเล่นสีโทนหลักของเครื่องเป็นสีแดงตัดดำสร้างอิมแพคและความดุดันทำให้ใครๆต้องหันมามอง ฝาบนของตัวเครื่องที่สามารถถอดได้มีโลโก้ HP ติดไว้ตรงกลางดูเด่นเป็นสง่า มีปุ่มเปิดปิดเครื่องอยู่บริเวณมุมซ้ายบน และมีเพิ่มลดเสียงอยู่บริเวณมุมขวาบน พร้อมกล้องหลัง Full HD ให้เพื่อนๆเก็บภาพประทับใจได้ตลอดเวลาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี และยังมีสติกเกอร์ Intel บ่งบอกซีพียูไว้มุมซ้ายล่างชัดเจนดีเยี่ยม เช่นเดียวกับฝาล่างของตัวเครื่องที่ใช้โทนสีแดงพร้อมยางรองเครื่อง 4 มุม พร้อมข้อความและสติกเกอร์ต่างๆ ที่ระบุไว้อย่างชัดเจน

เมื่อเปิดเครื่องออกมาในลักษณะของโน๊ตบุ๊คปกติก็พบกับตัวคีย์บอร์ดที่จะใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำด้าน พร้อมสกรีนชื่อรุ่น Pavillion x2 ไว้อย่างชัดเจน มองเหนือขึ้นไปจะเห็นคีย์บอร์ดแบบ Full-size island-style เอกสิทธิเฉพาะ HP เท่านั้น ใช้งานจริงตอบสนองและรับกันนิ้วได้เป็นอย่างดี เว้นช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำและมีประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีในการพิมพ์

เช่นเดียวกันกับทัชแพดที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ และยังสามารถใช้งานแบบ Multi-Touch Gesture ที่มีใน Windows 8 ได้ด้วย ที่สำคัญบริเวณที่เชื่อมต่อกับจอแสดงผลจะสังเกตเห็นตัวล็อคที่ใช้งานได้ง่าย เพียงแค่เลื่อนปลดล๊อคไปทางซ้ายตัวหน้าจอก็จะถอดใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดายและตัวฐานคีย์บอร์ดก็จะเปรียบเสมือนกับเป็น Docking มีแบตในตัวได้อีกทางหนึ่ง

ตัวเครื่องด้านในบริเวณจอแสดงผลที่ถอดออกได้ ก็ติดตั้งแว็บแคมความละเอียด 2 ล้านพิกเซลพร้อมไมค์มาให้ด้วยใช้งาน Video Call ได้แจ่มแน่นอน นอกจากนี้ HP Pavilion 11 X2 ยังเหนือกว่าด้วยระบบเสียง Beats Audio ผลผลิตจากแรพเปอร์ชื่อดังอย่าง Dr.Dre ที่ขับเสียงออกมาได้ดีกว่าถ้าเปรียบเทียบกับโน๊ตบุ๊ค หรือ Ultrabook ในระดับราคาใกล้เคียงกัน รวมไปถึงบริเวณหน้าจอแสดงผลจะมีปุ่ม Windows ที่สามารถกดได้เพื่อกลับไปยังหน้าจอ Metro สะดวกดีทีเดียว

Connector / Thin And Weight

พอร์ตต่างๆของ HP Pavilion 11 X2 บริเวณตัว Keyboard Docking ว่ากันตามตรงก็ถือว่ามีมาให้เพียงพอใช้งานเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงน่าจะมีมาให้มากกว่านี้อีกเล็กน้อยก็จะดีมาก โดยบริเวณด้านขวาของเครื่องจะมีพอร์ตเชื่อมต่ออะแอดเตอร์ไว้สำหรับชาร์จไฟ , พอร์ต USB 2.0 1 พอร์ต และพอร์ต HDMI อีก 1 พอร์ตไว้สำหรับต่อจอแสดงผลเพิ่มเติม ทางด้านซ้ายก็จะมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 1 พอร์ต และช่องเชื่อมต่อไมค์และลำโพงอีก 1 พอร์ตสำหรับต่อไมค์ ลำโพง หรือหูฟังแยกต่างห่าง

ส่วนตัวเครื่องที่เป็นแท็บเล็ตเมื่อปลดล๊อคออกมาก็จะสังเกตเห็นตัวล๊อค คงทนแข็งแรงสองจุดซ้าย-ขวา และตรงกลางจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อที่ใช้โอนถ่ายข้อมูลระหว่างตัว Keyboard Docking กับตัวเครื่องแท็บเล็ต แน่นอนเมื่อถอดจอออกมาเจ้า HP Pavilion 11 X2 ก็จะกลายเป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 ประสิทธิภาพสูงขนาด 11.6 นิ้ว ที่จะมีพอร์ตเชื่อมต่ออย่างช่องเชื่อมต่ออะแอดเตอร์ชาร์จไฟ และช่องเชื่อมต่อหูฟัง-ลำโพง ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทั่วไป

Hybrid

การใช้งานในรูปแบบ Hybrid Ultrabook หรือ 2 in 1 เจ้า HP Pavilion 11 X2 ก็ทำได้ดีตามที่มันควรจะเป็นไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในรูปแบบของโน๊ตบุ๊คหรือ Ultrabook ปกติ ที่ก็ตอบสนองการใช้งานได้เต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ดีด้วยข้อจำกัดของสเปคเครื่องที่ต้องทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาที่สุดแต่ต้องพกพาง่ายที่สุดและทำให้ตัวเครื่องใช้งานบนแบตเตอรี่ได้นานที่สุด จึงบีบให้ HP จำเป็นต้องใช้ระบบภายในเป็นแบบประหยัดไฟ ทำให้ในบางการใช้งานอาจจะใช้เวลาในการประมวลผลมากกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลวงนักสำหรับท่านที่ต้องพกพา Ultrabook ติดตัวไปไหนมาไหนอยู่เป็นประจำ

เช่นเดียวกันกับในรูปแบบของการถอดใช้งานเป็นแท็บเล็ต Windows 8.1 ของ Pavilion 11 X2 ก็ตอบสนองกับการใช้งานได้เป็นที่หน้าพอใจ ด้วยความที่ HP ได้เสริมฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 11.6 นิ้วที่ใช้งานได้ลื่นไหล กล้องหน้ากล้อง-หลังที่ถ่ายรูปได้คมชัด รวมไปถึงปุ่มเปิด-ปิดและปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่ใช้งานได้ง่าย ถึงแม้จะมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมากและมีฝาหลังที่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย แต่ด้วยสเปคเครื่องที่แรงกว่าแท็บเล็ต Windows 8.1 ปกติตัวอื่นอยู่มากรวมไปถึงฟีเจอร์ที่ครบครัน แถมยังสามารถถอดจอแสดงผลออกได้ง่ายเพียงเลื่อนปุ่มเพียงปุ่มเดียวบวกกับน้ำหนักของตัวแท็บเล็ตเพียง 780 กรัม ถือว่าทดแทนกับข้อสังเกตได้อย่างไม่น่าเกลียด

Performance / Software

เข้าสู่ช่วงของการทดสอบหรือ Benchmark กัน สำหรับเจ้า HP Pavilion 11 X2 เลือกที่จะใช้สเปคประหยัดไฟเป็นพิเศษตามสไตล์โน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Hybrid Ultrabook แน่นอนว่ามันกินไฟน้อย แต่ประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยกว่าสินค้าในกลุ่มเดียวกันเลย ยิ่งได้ตัวเก็บข้อมูลแบบ SSD แบบ M2 มาช่วยงานด้วยแล้วละก็ Ultrabook บางตัวยังสู้ไม่ได้เลยละครับ

??

โปรแกรมเช็คสเปคเครื่องอย่างอย่าง CPU-Z และ GPU-Z ก็แสดงสเปคออกมาได้ตรงตามที่ HP ระบุเอาไว้

 

CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์กราฟฟิคก็ทำผลงานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของซีพียูประหยัดไฟรหัส Y อย่าง Core i5-4202Y
?

ตัวเก็บข้อมูลของ Pavilion 11 X2 ที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจดีมาก

 

บททดสอบพื้นฐานอย่างการ Zip ไฟล์มาตราฐานอย่าง Winrar ก็ทำการ Zip ไฟล์ Dota 2 ที่มีขนาดราวๆ 8GB ได้ในเวลา 13 นาทีก็ถือว่าน่าพอใจ

 

ตามมาด้วยการทดสอบกับโปรแกรม Lightroom 4 ที่ได้ปรับรูปจำนวน 50 รูปเป็น Aged Photo และทำการ Export โดยใช้ความละเอียด 900×600 พิกเซล ก็ทำเวลาไปเกือบๆ 8 นาทีไวใช้ได้เลยละ

 

มาดูผลทดสอบเกมสำหรับเพื่อนๆที่อยากเล่นฆ่าเวลากันกับเกมแรกอย่าง Street Fighter 4 ปรับภาพที่ 1366×768 All-low ก็ให้ผลคะแนนเฉลี่ยในระดับ Rank E อยู่ในระดับที่พอเล่นได้

 

เกมอย่าง Sniper Elite ปรับภาพที่ 1366X768 All-low เช่นกัน ก็พอเล่นได้อยู่ที่ 11.4FPS แต่ในการเล่นจริงแนะนำให้ปรับลดความละเอียดลงอีกสักนิดจะลื่นขึ้นอีกมาก

?

และตบท้าบด้วยชุดทดสอบของ FuterMark ก็ทำได้ดีตามาตราฐานตามสเปคของ Hybrid Ultrabook

Conclusion / Award

HP Pavilion 11 X2 เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คในตระกูล Hybrid Ultrabook ที่น่าสนใจตัวหนึ่งเลยละครับ ด้วยฟีเจอร์กระสือที่สามารถแยกถอดจอแยกใช้งานในแบบแท็บเล็ตก็ได้ หรือจะเสียบใช้งานกับ Keyboard Docking เพื่อเป็น Ultrabook ในแบบปกติก็ดี ที่สำคัญยังมาพร้อมน้ำหนักเครื่องที่เบาสุดๆเพียง 1.49 กิโลกรัมเท่านั้น ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับนักธุรกิจ และผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการพกพา และใช้งานเป็นอย่างยิ่ง

เช่นกันกับสเปคของเครื่องที่ HP Pavilion 11 X2 เลือกใช้ในระดับมาตราฐานของ Ultrabook แบบประหยัดไฟเป็นพิเศษ ที่ถึงแม้จะกินไฟน้อยแต่ประสิทธิภาพแทบไม่ได้ด้อยลงไปเลย แถมยังได้ SSD มาเป็นตัวช่วยอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถทำงานเอกสาร งานพรีเซนต์ต่างๆได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว ครั้นจะนำไปใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ต Windows 8.1 หน้าจอ 11.6 นิ้ว เพื่อตอบสนองความบันเทิงก็ทำได้ดีทีเดียว

แต่ข้อสังเกตของ Pavilion 11 X2 ก็มีอยู่บ้างเช่นกัน ด้วยจำนวนพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ที่มีมาให้ในระดับพอใช้งานเท่านั้น พ่วงกับพื้นผิวภายนอกของตัวเครื่องที่เป็นลักษณะเงาซึ่งเมื่อใช้งานไปนานๆอาจจะเป็นคราบมันและรอยนิดมือได้ง่าย อย่างไรก็ดีด้วยสนนราคาของเจ้า Pavilion 11 X2 ที่ 35,990 บาท เทียบกับจุดสังเกตเล็กน้อยๆ ก็นับว่าเป็น Hybrid Ultrabook ทางเลือกอีกตัวเลือกที่น่าลองเลยละครับ

 

ข้อดี

• สีสันสวยงามน่าใช้งาน
• ถอดจอเป็นแท็บเล็ตขนาด 11.6 นิ้วได้
• สเปคเครื่องกินไฟต่ำสุดๆใช้งานได้นาน
• ระบบเสียง Beats Audio ให้เสียงสมจริง
• ตัวเครื่องน้ำหนักเบาพกพาสะดวก
• มีกล้องหน้า-หลังแบบ Full HD
• สเปคเครื่องประหยัดไฟแต่มีประสิทธิภาพสูงในระดับ Ultrabook

จุดสังเกต

• พอร์ตเชื่อมต่อให้มาเพียงพ่อต่อการใช้งานพื้นฐานเท่านั้น
• ตัวเครื่องเงา เกิดคราบมัน และรอบนิ้วมือได้ง่าย