ในปัจจุบันกระแสของอุปกรณ์ไอทีที่เอาไว้สวมใส่กำลังมาแรงมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของแว่นอย่าง Google Glass และ Smartwatch หลายๆ รุ่นหลายๆ ยี่ห้อในตลาด ซึ่งในบทความนี้ของเว็บไซต์ NotebookSPEC ก็ขอตามเทรนด์กับเค้าบ้าง กับการนำเสนอรีวิวของ?Cookoo ซึ่งจัดได้ว่าอีกหนึ่ง?Smartwatch ที่มีความน่าสนใจทีเดียว เพราะด้วยราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ในระดับไม่เกิน 4,000 บาท (ราคา 3,990 บาท) ประกอบกับคุณสมบัติที่สามารถใช้งานได้จริง ที่ถึงแม้ว่าอาจจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่ก็เป็นคุณสมบัติที่มีความโดดเด่นทีเดียว โดยผ่านการใช้งานควบคู่กับสมาร์ทโฟนผ่านการเชื่อมต่อ Buletooth ที่ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad หรือ Android บางรุ่น (อาทิ Samsung Galaxy S4, Samsung Galaxy Note 3 และ HTC One)
ซึ่งจะว่าไป Cookoo Smartwatch ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการในเว็บ Kickstarter ที่ขอระดมทุนทำ?Smartwatch?เรือนนี้ขึ้นมา โดยผลตอบรับในตอนนั้นก็มียอดที่ล้นหลามเกินเป้าหมาย ?แน่นอนว่าผู้ที่สมทบทุนตั้งแต่เป็นโครงการในเว็บ Kickstarter ก็เพิ่งได้รับนาฬิกากันไปเป็นที่เรียบร้อย และเมื่อเวาผ่านไปซักพักก็มีการนำเข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นทางการเช่นกัน ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ตามร้าน iStudio เป็นหลัก หรือตามเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่าย ว่าแล้วเราก็ลองไปชมวีดีโอแนะนำของทาง?Cookoo Smartwatch กันก่อนเลย
คุณสมบัติหลักๆ ของ?Cookoo Smartwatch
- เป็นนาฬิกาข้อมือแบบอนาล็อคด้วยระบบขับเคลื่อนมาตรฐานนาฬิกาญี่ปุ่น
- กันน้ำลึก 50 เมตร โดยสามารถใส่ล้างมือ ทำกิจกรรมระหว่างวัน หรือใส่ไปดำน้ำได้
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS และสมาร์ทโฟน Android บางรุ่น ด้วย Bluetooth 4.0
- สามารถแจ้งเตือน Notification ต่างๆ ของสมาร์ทโฟน
- สามารถใช้ Check-in Facebook หรือบันทึกตำแหน่ง GPS ผ่านทางแอพพลิเคชั่นได้
- สามารถเปลี่ยนเพลง, เล่น หรือหยุดเพลงในแอพพลิเคชั่นฟังเพลงของเครื่องได้
- สามารถเป็นรีโมทชัตเตอร์กล้องของสมาร์ทโฟนโดยต้องทำผ่านแอพพลิเคชั่น Cookoo เท่านั้น
สำหรับแพ็คเก็จกล่องบรรจุภัณฑ์ของ?Cookoo Smartwatch ก็มีความโดดเด่นน่าสนใจไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ทีเดียว ด้วยการออกแบบรูปทรงเป็นลักษณะคล้ายกับรังนกที่ใช้วัสดุพลาสติกเกรดดีเนื้อแข็ง เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มให้?Smartwatch?ดูมีมูลค่ามากยิ่งขึ้นทันที?
อีกทั้งยังกันแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง แถมยังปิดมิดชิดมาอย่างแน่นหนา ส่งผลให้มั่นใจได้เลยว่า?Cookoo Smartwatch?ของเราที่ซื้อมาใช้งานนั้น จะอยู่ในสภาพสมบูรณ์อย่างแน่นอน รวมไปถึงบริเวณโดยรอบของตัวกล่อง ยังมีการบรรยายคุณสมบัติต่างๆ ไว้ ที่จะทำให้เราติดสินซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนภายในกล่องมีเพียง Cookoo Smartwatch?และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นเล่มเล็กๆ เท่านั้น ซึ่งกระดาษใบเล็กที่ห้อยติดกับกล่องจะมีการอธิบายวิธีการใช้งานนาฬิกาสุดล้ำเรือนนี้เอาไว้เบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน การใส่ถ่าน และคุณสมบัติหลักๆ ที่ควรทราบ
Cookoo Smartwatch มีการดีไซน์ออกแบบตัวเรือนได้ดูเรียบหรูและทันสมัย ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบความเรียบง่าย โดยมีหน้าปัดหลักๆ คล้ายกับนาฬิกาทั่วไปคือ มีขีดบอกตำแหน่งแทนตัวเลข 12 ตัว พร้อมขอบสเตนเลสสตีลขัดเงา ตัวหน้าจอทำด้วยคริสตัลชนิดแข็งพิเศษ กันรอยขีดข่วน ส่วนบริเวณตรงกลางด้านหลัง จะเป็นลักษณะหน้าจอ LCD ที่ใช้งานในการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ซึ่งเราสามารถเปิดไฟส่องสว่างเวลาที่ใช้งานยามแสงน้อยหรือค่ำคืนได้
ส่วนรอบตัวเรือนจะมีการติดตั้งปุ่มอยู่ 4 ปุ่มด้วยกัน โดยประกอบไปด้วย?
- Light : ปุ่มเปิดไฟ
- Connect : ปุ่มเชื่อมต่อ/เปิดปิดนาฬิกา
- Mode :?ปุ่มเคลียร์การแจ้งเตือน/ตั้งค่าเสียงหรือสั่น
- Command :?ปุ่มคำสั่งเอาไว้สั่งให้ iPhone ทำงานต่างๆ?
นอกจากนี้ยังมีส่วนของเม็ดมะยมไว้ใช้ในการตั้งเวลาของนาฬิกาที่เป็นอนาล็อกอีกด้วย
สายของ?Cookoo Smartwatch จากการสัมผัสนั้นคาดว่าผลิตมาจากยางซิลิโคนผสมพลาสติกโพลิเมอร์ที่ค่อนข้างหนาแต่ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป ซึ่งดูแล้วก็มีความยืดหยุ่นในการใช้งานพอสมควร รวมไปถึงยังเปื้อนจากฝุ่นได้ง่าย (แต่ก็ทำความสะอาดได้ง่ายเช่นกัน) โดยตัวของ?Cookoo Smartwatch จะมีให้เลือกทั้งหมดอยู่ 6 สีด้วยกัน (สีเขียวจะเป็นสีพิเศษที่สั่งซื้อผ่านทาง Kickstarter เท่านั้น)
ด้านหลังของ Cookoo Smartwatch มีการออกแบบสำหรับหมุนเปิดด้วยเหรียญ เพื่อไว้สำหรับเปลี่ยนแบตเตอรีโดยเฉพาะ ซึ่งแบตเตอรี่ที่ใช้งานนั้นจะเป็นถ่านเม็ดกระดุมรุ่น CR2032 ที่จัดได้ว่าเป็นถ่านนาฬิกามาตรฐานขนาดบาง (ที่ปกติแล้วไว้ใช้ในเมนบอร์ดเช่นกัน) แน่นอนว่าเราสามารถหาซื้อได้ตามร้านรับซ่อมนาฬิกาทั่วไป ในราคาไม่กี่สิบบาทครับ ที่สำคัญ?Cookoo Smartwatchใช้งานด้วยถ่าน 2 ก้อน ถ่านก้อนเล็กด้านในสุดของฝาหลังไว้เดินกลไกนาฬิกา ถ่านก้อนใหญ่ (CR2032) ด้านนอกใช้เดินระบบ Bluetooth และการแจ้งเตือนต่างๆ
ที่น่าสนใจก็คือจากถ่านหนึ่งก้อนจากข้อมูลตัว Cookoo Smartwatch?สามารถใช้งานได้ราวๆ 6 เดือนด้วยกันทีเดียว ซึ่งจุดนี้ถือเป็นข้อดีของนาฬิกาข้อมือเรือนนี้เลยก็ว่าได้ ที่เราไม่ต้องกังวลว่า จะต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่ให้ทุกวันอย่างที่?Smartwatch รุ่นอื่นๆ ประสบปัญหาการใช้งานอยู่
สำหรับขนาดของตัวเรือน?Cookoo Smartwatch มีความหนาอยู่ที่ประมาณ 1.6 เซนติเมตร และมีความกว้างประมาณ 4.4 เซนติเมตร ซึ่งดูแล้วก็ถือว่าเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีขนาดใหญ่ เหมาะกับข้อมือผู้ชายมากกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ?
แต่จะว่าไปเรื่องของขนาดตัวเรือนก็อยู่ที่รสนิยมคนสวมใส่ซะมากกว่า ที่ขอแนะนำว่าก่อนซื้อ อยากให้ลองใส่กันซักหน่อย เพื่อไว้ประกอบการตัดสินใจ แต่โดยส่วนตัวที่ทดลองสวมแล้ว ก็ถือว่าโอเคและลงตัวกับผู้เขียนเลยทีเดียว
Cookoo Smartwatch มีคุณสมบัติในการกันน้ำลึกสูงสุดที่ระดับ 50 เมตร ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถสวมนาฬิกาข้อมือสุดล้ำเรือนนี้ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นการใส่ล้างมือ, เล่นกีฬา, ว่ายน้ำ รวมไปถึงใส่ไปดำน้ำก็สามารถทำได้ โดยการทดสอบใช้งานจริงก็ถือว่ามีความน่าประทับใจพอควร แต่มีข้อสังเกตุว่ากรณีที่โดนเหงื่อ บริเวณด้านหลังตัวเรือนก็อาจจะเกิดสนิมได้ (ต้องหมั่นทำความสะอาดนิดนึงด้วยการล้างด้วยน้ำสะอาดหรือเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำ)
Cookoo Smartwatch?รองรับกับระบบปฏิบัติการ iOS 7 เป็นที่เรียบร้อยไปซักพักแล้วนะครับ ซึ่งก็ขอแนะนำว่าใช้เป็น iOS 7 จะดีที่สุด ส่วนถ้าเป็น Android ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่น 4.3 ขึ้นไป โดยส่วนสำคัญที่จะทำให้ทำงานกับสมาร์ทโฟนของเราก็ได้คือแอพพลิเคชั่นของ Cookoo เอง ที่ต้องติดตั้งลงเครื่องจาก App Store หรือ Google Play เสียก่อน ซึ่งมีชื่อแอพพลิเคชั่นว่า Cookoo Life?(ล่าสุดคือเวอร์ชั่น 1.3) จากนั้นก็ให้เราเปิด Bluetooth สมาร์ทโฟนและทำการ Pairing กัน ก็ถือว่าเป็นอันเรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้วครับ
ความสามารถหลักๆ ของ Cookoo Smartwatch?จะสามารถแจ้งเตือน Notification?โดยกระพริบไอคอนที่หน้าปัดพร้อมส่งเสียงปิ๊บและสั่นได้ (ตั้งค่าได้) โดย Cookoo Smartwatch?สามารถแจ้งเตือนรูปแบบต่างๆ เป็นลักษณะส่งเสียงหรือขึ้นไฟ LED ไอคอนบนหน้าปัด ได้ดังต่อไปนี้
- เตือนสายเข้า และสายที่ไม่ได้รับ
- เตือนข้อความและโพสจาก Facebook
- เตือนข้อความ SMS, MMS, อีเมล, Facebook, Twitter, Line
- เตือนสิ่งที่ต้องทำในปฏิทิน
- เตือนแบตเตอรี่ iPhone อ่อน
- เตือนเมื่อ iPhone ออกนอกขอบเขตของ Cookoo (10 เมตร)
นอกเหนือจากที่ยังใช้ Cookoo Smartwatch ในการแจ้งเตือน Notification?ต่างๆ ในสมาร์ทโฟน รวมไปถึงสามารถใช้สั่งสมาร์ทโฟนให้ทำอะไรได้อีกหลายๆ อย่างผ่านปุ่ม Command บนนาฬิกาคือ
- ใช้ Cookoo Smartwatch เป็นรีโมทสั่งถ่ายรูป โดยใช้ผ่านแอพพลิเคชั่น Cookoo Life เท่านั้น
- ควบคุมการเล่นเพลง สั่งหยุดเพลง หรือเปลี่ยนเพลงได้จากนาฬิกา
- สามารถใช้ปักหมุดในแผนที่
- สามารถใช้ Check-in ใน Facebook ได้
โดยการใช้งานส่วนใหญ่จะต้องอาศัยปุ่ม Command บนตัว Cookoo Smartwatch ที่เป็นปุ่มกดที่หลายทำหน้าที่ ซึ่งเป็นได้ทั้งเป็นปุ่มรีโมทชัตเตอร์เวลาถ่ายรูป ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นการกดสั้นยาวค้างไว้ก็จะเป็นตามแต่ละคุณสมบัติ อาทิเช่น
กดค้างเล็กน้อยจะเป็นการปักหมุดสถานที่ และถ้ากดค้างนานขึ้นมาอีกหน่อยจะเป็นการหาสมาร์ทโฟน ซึ่งจะได้ใช้ในกรณีที่วางเครื่องไว้แล้วลืมว่าอยู่ตรงไหนก็ให้กดที่นาฬิกาเพื่อให้ส่งสัญญาณไปที่สมาร์ทโฟนให้มีเสียงดังขึ้นมา หรือกรณีที่เราต้องการค้นหา Smartwatch ด้วยสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยผ่านทางแอพพลิเคชั่น Cookoo Life ในเครื่อง
สำหรับกรณีที่เราเปิดแอพพลิเคชั่น Music เอาไว้ หรือไม่ได้เปิดอะไรอย่างอื่น ปุ่ม Command ก็จะทำหน้าที่รีโมทไร้สายกลายเป็นปุ่ม Play/Pause เวลาเล่นเพลงในแอพฯ Music ไปแทน โดยจุดนี้จะไม่สามารถใช้งานซ้อนกันในขณะที่เราล็อคอิน Facebook เพื่อใช้ปุ่ม Command ได้ เรียกว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างใดระหว่างการใช้งานร่วมกับ Facebook หรือการใช้งานปุ่ม Command เป็นปุ่ม Play/Pause ขณะเล่นเพลง ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะตั้งค่าการกดปุ่ม Commard ใยรูปแบบต่างๆ ได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Cookoo Life
ในแง่ของการใช้งานพลังงานเมื่อเราเชื่อมต่อ Bluetooth ของ Cookoo Smartwatch กับสมาร์ทโฟน จากการทดสอบลองเชื่อมต่อตลอดทั้งวันก็พบว่า สมาร์ทโฟนเองก็ไม่ได้สิ้นเปลืองจากการใช้งานแบตเตอรี่ไปเท่าใดนัก ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากเทคโนโลยีของ?Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0 ที่ใช้อัตราการสูญเสียพลังงานที่น้อยลงกว่าเดิมพอสมควร ประกอบกับซอฟต์แวร์ก็ได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับ?Cookoo Smartwatch เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่ในส่วนของ?Cookoo Smartwatch ทางทีมงานไม่แน่ใจจริงๆ ว่าแบตเตอรี่ของตัวนาฬิกาจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ แต่จากการข้อมูลอื่นๆ ก็ว่ากันว่าอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ซึ่งก็ถือว่านานพอตัวทีเดียว ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับการที่ต้องเปลี่ยนถ่านภายในบ่อยๆ
สรุปการใช้งาน
จากทดสอบใช้งานการจริงตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมาของ Cookoo Smartwatch?ก็ทำให้พอเห็นภาพโดยรวมการทำงานของนาฬิกาสุดล้ำเรือนนี้ไปแล้ว ซึ่งเอากันตามความเป็นจริงก็ไม่ค่อยได้ใช้คุณสมบัติล้ำๆ อะไรมากมายนัก เพราะถือว่ายังมีข้อจำกัดอยู่ แต่กลับใช้เป็นนาฬิกาเพื่อดูเวลาเป็นหลักซักมากกว่า เนื่องด้วยการเตือนต่างๆ บน?Cookoo Smartwatch ก็ไม่ได้บอกถึงรายละเอียดต่างๆ ของ?Notification นั้นๆ ยังไงเสียเราก็ต้องกดไปที่สมาร์ทโฟนเพื่อที่จะเช็คอีกทีหนึ่ง ยิ่งถ้ากรณีที่เรามีสมาร์ทโฟนติดตัวด้วยอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เราก็สามารถที่จะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปจับ?Cookoo Smartwatch อีกทีหนึ่ง?
แต่สำหรับใครที่ชอบหรือสนใจในตัว Gadget อุปกรณ์ไอทีอยู่แล้ว ถ้าจะซื้อ Cookoo Smartwatch?มาใช้งานก็ถือว่าไม่เสียหายอะไร เพราะด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นของใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมไปถึงตัวเรือนของ Cookoo Smartwatch ก็มีความสวยงามหรูหรา ที่จัดได้ว่าเป็นนาฬิกาข้อมือที่ดูดีมีราคาเรือนหนึ่งทีเดียว แถมมีความสามารถมากกว่านาฬิกาทั่วไปที่ใช้แต่ดูเวลาอีกด้วย แม้ว่าความสามารถและคุณสมบัติต่างๆ อาจจะยังไม่สุดก็ตามที (อาทิ แสดงข้อความ หรือใช้มอนิเตอร์ด้านสุขภาพ) ซึ่งคงต้องรอดูใน?Smartwatch รุ่นใหม่ๆ อีกทีหนึ่ง รวมไปถึงตัวแอพพลิเคชั่นเองเชื่อได้ว่าอนาคตน่าจะทำออกมาได้ยืดหยุ่นมากกว่านี้
จุดเด่น
- เป็น?Smartwatch ที่มีราคาไม่สูงเกินไป ทำให้ซื้อมาใช้งานได้ง่าย
- มาพร้อมคุณสมบัติการทำงานที่หลากหลายพอตัว
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.0 ที่ทั้งเร็วและประหยัดพลังงาน
- ตัวเรือนนาฬิกามีความหรูหรา ดูแล้วมีราคา
- มีให้เลือกหลายสีตามใจชอบ
- รองรับสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone 5 ขึ้นไป และ Android (บางรุ่น)
- สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง
- ใช้ถ่านแบบเม็ดกระดุมที่มีขายทั่วไป?
ข้อสังเกต
- ปุ่ม Command ตอนใช้งานแรก ๆ อาจจะจับจังหวะการกดยาก
- การใช้งานต่างๆ ยังมีข้อจำกัดอยู่ อาทิเช่น ต้องทำผ่านแอพพลิเคชั่นของมันเท่านั้น
- เน้นใช้งานการแจ้งเตือนเป็นหลัก ซึ่งถือว่าใช้งานได้ดีระดับหนึ่ง