ราคา Apple?iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
- ราคา Apple?iPhone 6 จอ 4.7″ : ยังไม่เปิดเผยในไทย แต่คาดว่าเริ่มต้นที่ 23,900 บาท
- ราคา Apple iPhone 6 Plus จอ 5.5″ : ยังไม่เปิดเผยในไทย แต่คาดว่าเริ่มต้นที่ 26,900 บาท
ซื้อ Apple iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้ที่ไหน
สามารถซื้อ?iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ได้ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AIS, DTAC และ Truemove รวมไปถึงหน้าร้าน iStudio ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple และร้านค้าออนไลน์ของ Apple เองอย่าง Apple Store Online หรือถ้าใครรีบซื้อก่อนที่จะวางขายอย่างเป็นทางการก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านหิ้ว โดยในส่วนของ?iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะเข้ามาขายในไทยอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ iPhone รุ่นล่าสุดจำนวน 2 รุ่น ที่มาต่อยอดความสำเร็จจาก iPhone 5S กับ iPhone 6 ที่มีขนาดหน้าจอ 4.7″ และ iPhone 6 Plus ที่มาพร้อมขนาดหน้าจอ 5.5″ โดยตัวเครื่องมีความบางลงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ iPhone 5S สำหรับรายละเอียดสเปคหลักๆ มีดังต่อไปนี้
สเปค Apple iPhone 6
- ชิปประมวลผลหลัก Apple A8 แบบ 64 บิต
- ชิปประมวลผลการเคลื่อนไหว Apple M8
- หน้าจอขนาด 4.7″ ความละเอียด?1334 x 750 พิกเซล Retina HD
- สัดส่วน 16:9 พาเนลคุณภาพสูง IPS มีค่าคอนทราสต์ 1400:1 (ทั่วไป)
- ความหนาแน่นพิกเซลหน้าจออยู่ที่?326 ppi
- ตัวเครื่องมีความบาง 6.9 มิลลิเมตร (กว้าง 67 x ยาว 138.1 มิลลิเมตร)
- น้ำหนัก 129 กรัม
- มี 3 ความจุให้เลือก คือ 16GB / 64GB / 128GB
- มี 3 สีให้เลือก คือ?เงิน / ทอง / เทาสเปซเกรย์
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มาพร้อมการเซ็นเซอร์ใหม่
- ติดตั้งชิป NFC รองรับ Apple Pay กับระบบการจ่ายเงินแทนบัตรเครดิต
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 8
สเปค Apple iPhone 6 Plus
- ชิปประมวลผลหลัก Apple A8 แบบ 64 บิต
- ชิปประมวลผลการเคลื่อนไหว Apple M8
- หน้าจอขนาด 5.5″ ความละเอียด?1920 x 1080 พิกเซล Retina HD
- สัดส่วน 16:9 พาเนลคุณภาพสูง IPS มีค่าคอนทราสต์ 1300:1 (ทั่วไป)
- ความหนาแน่นพิกเซลหน้าจออยู่ที่ 401?ppi
- ตัวเครื่องมีความบาง 7.1 มิลลิเมตร (กว้าง 77.8?x ยาว 158.1 มิลลิเมตร)
- น้ำหนัก 172 กรัม
- มี 3 ความจุให้เลือก คือ 16GB / 64GB / 128GB
- มี 3 สีให้เลือก คือ?เงิน / ทอง / เทาสเปซเกรย์
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มาพร้อมการเซ็นเซอร์ใหม่ มีระบบกันสั่น
- ติดตั้งชิป NFC รองรับ Apple Pay กับระบบการจ่ายเงินแทนบัตรเครดิต
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 8
การออกแบบ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
ในด้านการดีไซน์ iPhone 6 Plus มาพร้อมด้วยการออกแบบทางกายภาพที่ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม เพราะมีปุ่มกดต่างๆ ที่กระเถิบลงมาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น บนขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเช่นกัน ในส่วนของหน้าจอแสดงผลก็เป็นกระจกแบบโค้งไร้ขอบ พร้อมด้วยบอดี้ที่เป็นอะลูมิเนียมชุบผิวที่มีความโดดเด่นและพรีเมียมกว่า และถึงแม้จะใหญ่แต่ด้วยความบางช่วยให้การถือใช้งานได้สะดวกกว่า
การใช้งานแบตเตอรี่?iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
แบตเตอรี่เองทั้งสองตัวนั้นก็มีการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะกับ iPhone 6 Plus สามารถใช้คุยโทรศัพท์ผ่าน 3G ได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ส่วน iPhone 6 จะคุยโทรศัพท์ผ่าน 3G ได้ต่อเนื่องสูงสุด 14 ชั่วโมง
ชิปเซ็นเซอร์ M8 บน?iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
นอกเหนือจากนี้ iPhone 6 ทั่งสองรุ่นก็มาพร้อมด้วยชิป M8 สำหรับประมวลผลเซ็นเซอร์ในด้านของการจับการเคลื่อนไหวหรือที่เรียกว่าโปรเซสเซอร์ร่วมสำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว ออกแบบมารองรับกับการใช้งานและอำนวยความสะดวกในด้านของฟิตเนสและสุขภาพ แถมการใช้ชิปประมวลผลแยกจะทำให้อายุการใช้งานบนแบตเตอรี่มากขึ้น พร้อมยังสามารถจำแนกการตรวจจับระยะทาง การนับจำนวนก้าว ระยะทาง ระดับความสูง ระดับความกดอากาศด้วย Barometer และไจโนสโคปควบคู่กับชิป M8 โดยในขณะนี้แบรนด์ใหญ่อย่าง Nike ก็พร้อมอัพเดท Nike+ ให้รองรับการเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพขอ iPhone 6 ด้วย
เครือข่ายและโทรศัพท์ของ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
iPhone 6 พร้อมรองรับเทคโนโลยี LTE 20 Band ให้การใช้งาน 4G LTE ได้อย่างมีสเถียรภาพและความรวดเร็วมากกว่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในขณะนี้ นอกเหนือจากนี้ยังมาพร้อมด้วย VoLTE หรือ Voice over LTE ให้เพื่อนโทรผ่านเครือข่าย 4G LTE ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องสลับไปใช้ 2G พร้อมให้คุณภาพในการติดต่อสื่อสารที่มากขึ้น เช่นกันกับการเชื่อมต่ออย่าง WiFi ก็มาพร้อมด้วย Wi-Fi is 802.11ac ที่ให้การเชื่อมต่อ WiFi ได้รวดเร็วกว่าปกติถึง 3 เท่า
กล้องหน้าและหลัง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
กล้อง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมด้วยกล้อง iSight Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และแฟลชแบบทูโทน 1.5 micron pixels, รูรับแสง f/2.2 และเซ็นเซอร์แบบใหม่ที่ดีกว่าเดิมอย่าง next generation iSight sensor ชื่อว่าว่า focus pixels สามารถทำ ?phase detection? autofocus หรือการโฟกัสรูปให้มีความรวดเร็วมากกว่างกล้องตัวเดิม ที่พร้อมให้ภาพต่างๆ ได้คมชัดและรวดเร็วกว่าเดิม แถมยังถ่าย Panorama ได้ความละเอียดสูงสุดถึง 43 ล้านพิกเซล และมีระบบตรวจจับใบหน้าที่ดีกว่าเดิมที่รวดเร็วกว่า เช่นกันกับการตรวจจับรอยยิ้มที่ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ตัวกล้อง iPhone 6 มาพร้อมด้วย Digital Image Stabilization ส่วน iPhone 6 Plus มาพร้อม Optical Image Stabilization (OIS) ซึ่งแน่นอนว่า OIS นั้นมีกับกล้องระดับโปรมานานแล้ว และนับว่าเป็นเรื่องดีเช่นกันที่มันจะมีบน iPhone 6 Plus เช่นเดียวกับในเรื่องของวิดีโอที่สามารถถ่ายได้ในระดับ 1080p ที่ 30fps หรือ 60fps และสามารถถ่ายภาพ Slo-Mo ได้แบบสโลวสุดๆที่ 240fps
กล้องหน้าสำหรับเฟสไทม์เองก็มาพร้อมด้วยกล้องหน้า FaceTime HD Camera ที่มี Sensor แบบใหม่พร้อมด้วย f/2.2 aperture และสามารถรับแสงได้มากกกว่าเดิมถึง 81% พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่มาเพื่อฆ่าสมาร์ทโฟนสำหรับ Selfie ทุกตัวด้วย Burst selfies หรือการถ่ายภาพเซลฟี่แบบรัวๆ ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ให้คุณคัดภาพที่ถูกใจได้ตามใจคุณ พร้อมให้ภาพถ่ายออกมาดูดีและสมบูรณ์แบบที่สุด
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 8
แน่นอนอย่างที่ทราบกันว่า iPhone รุ่นใหม่จะมาพร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Apple iOS 8 ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดได้ถูกพูดถึงไปก่อนหน้านี้มาแล้วใน>>บทความนี้<<ทาง Apple จึงข้ามหัวข้อนี้ไป โดย iOS 8 จะพร้อมอัพเกรดให้กับ iPhone 4s ,iPhone 5 ,iPhone 5c ,iPhone 5s , iPod Touch 5th Genneration , iPad 2 , iPad with Retina display , iPad Air , iPad Mini , iPad Mini with Retina Display และพร้อมปล่อย iOS 8 ให้ดาวน์โหลดในวันที่ 17 กันยายน 2014 นี้
Apple Pay รูปแบบใหม่ของการจ่ายเงินบน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Apple ภูมิใจนำเสนอก็คือ Apple Pay ที่น่าสนใจ พร้อมให้คุนใช้จ่ายเงินได้สะดวกกว่าที่เคยผ่านเทคโนโลยี NFC เพียงแค่นำเครื่อง iPhone 6 ไปแตะพร้อมกับใช้ Touch ID สแกนลายนิ้วก็สามารถทำรายการใช้จ่ายกับสินค้าได้ในทันที่ แต่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ด้วยแอป Passbook ที่ช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญๆ พร้อมให้คุณเพิ่มข้อมูลและจัดสรรบัตรเครดิตของคุณได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ถ่ายรูปก็สามารถเพิ่มบัตรเครดิตได้ในทันที
ซึ่งถ้า iPhone ของคุณหาย คุณก็สามารถระงับการใช้งานธุรกรรมบน Apple Pay ของคุณได้ผ่านบริการ Find my iPhone ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรา(Apple)ไม่ได้มีความต้องการที่จะเก็บข้อมูลทางธุรกรรมของคุณเลย แถมแคชเชียร์หรือเคาเตอร์จ่ายเงินยังไม่เห็นรหัสบนบัตรของคุณอีกด้วยซึ่งมันก็ปลอดภัยสุดๆเลยละ เบื้องต้นเราจะเริ่มบริการนี้ในสหรัฐอเมริกากับบัตร American Express , Master Card และ VISA และใช้ Apple Pay ได้กับเชนของร้านต่างๆ กว่า 22,000 ร้านในเบื้องต้น และในอนาคตเราพร้อมอย่างหลักที่จะทำ Apple Pay ให้รองรับในหลายๆประเทศทั่วโลก
iPhone 5S และ iPhone 5C ราคาลดลง
ในส่วนของราคา iPhone 5c 8GB จะปรับเหลือให้ใช้ฟรีและ iPhone 5S จะเหลือ 99 ?ดอลลาร์ซึ่งราคานั้นเป็นราคาติดสัญญาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะเวลา 2 ปี พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 19 เดือนกันยายนนี้ ในสหรัฐอเมริกา และพร้อมเปิดให้พรีออเดอร์ในวันที่ 12 กันยายน ส่วนอีก 115 ประเทศที่เหลือสิ้นปีนี้เตรียมสตางค์รอกันได้เลย ส่วนราคาในประเทศไทยนั้นตัว iPhone 5C และ iPhone 5S แบบไม่ติดสัญญาจะไปอยู่ที่ 14,900 บาท และ 19,900 บาทตามลำดับส่วนราคาในไทยคาดการณ์ว่า iPhone 6 จะมีราคาอยู่ที่ราว 23,900 บาท ส่วน iPhone 6 Plus น่าจะอยู่ที่ราว 26,900 บาท