เมื่อช่วงท้ายปี 2013 ที่ผ่านมา ทีมงาน NBS ได้รับเกียรติจากคุณ ณัฏฐ์? ณัฐนิธิการัชต์ กรรมการผู้จัดการของ Advice ที่เปิดโอกาสให้เราได้สอบถาม-พูดคุยเกี่ยวกับข้อมูลแนวโน้มตลาดของสินค้าไอทีทั้งในตลาดของไทย และของ Advice เอง ว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และในอนาคตจะเป็นอย่างไร นอกจากมียังมีอีกหลายๆ เรื่อง ที่เชื่อได้เลยว่าคอไอทีต้องอยากรู้แน่นอน เช่นมาตราฐานการบริการของ Advice จะเป็นอย่างไร จะปรับให้ทุกที่มีมาตราฐานเดียวเปล่า รวมถึงในปีหน้าจะมีแคมเปญอะไรเจ๋งๆ บ้าง และจะนำสินค้าอะไรมาขายเพิ่ม ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้เชิญชมไปพร้อมๆ กันได้เลยครับ
?
ที่ผ่านมายอดขายเป็นอย่างไรบ้างสินค้าอะไรได้รับความนิยมมากที่สุด?
ปี 2013 ที่ผ่านมา Advice มียอดขายปิดอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท จากการขาย Component ต่างๆ เช่นซีพียู การ์ดจอ อุปกรณ์ Accessories เป็นหลัก , ตามมาด้วยโน๊ตบุ๊ค 30% , สมาร์ทโฟน 7-8 %
ทิศทางแนวโน้มจะเป็นอย่างไรต่อไป ?
ปี 2013 ที่ผ่านมาในช่วงต้นปีก็ปกติอยู่ แต่กลับกันช่วงปลายปี หรือควอเตอร์ที่ 4 ยอดขายเราร่วงหมด เพราะกระแสสมาร์ทโฟน และการเมืองมีผลทำให้บรรยากาศซื้อขายซืมเศร้า ส่วนในปี 2014 ต้องแบ่งเป็น Mobile Devices กับคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ปี 2014 คงซืม และความต้องการหดลงไปกว่าปีนี้ อย่างในปี 2013 ก็เพิ่งที่จะลดไปในช่วงครึ่งปีหลังเท่านั้น ส่วนต้นปีก็ยังปกติ ทำให้ค่าเฉลี่ยของปี 2013 ตกลง และเชื่อว่าปี 2014 ในช่วงต้นปีน่าจะมียอดซื้อ และความต้องการต่ำกว่าปี 2013 แต่พอปลายปี 2014 น่าจะดีกว่าปี 2013 และกราฟของสองปีน่าจะสลับกัน
โดยพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2014 น่าจะเปลี่ยน ผู้บริโภคจะเลือกใช้ของในระดับ Mid-High มากขึ้นในอนาคต เช่นของเด็กประถมจะเปลี่ยนจากการใช้คอมพิวเตอร์เครื่องแรกมาเป็นแท็บเล็ต เพราะมีราคาถูก และมีประสิทธิภาพพอที่จะให้ลูก ๆ ได้เรียนรู้ ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบมากๆ กับวงการคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกันกับโน๊ตบุ๊คที่เริ่มนิยมมากขึ้นเมื่อสัก 2 ปีที่ผ่านมา เพราะมีราคาต่ำลงกว่าคอมพิวเตอร์ จึงทำให้เด็กหลายๆ คนหันมาใช้โน๊ตบุ๊คเพราะมีราคาถูก และพกพาง่าย
และถ้าถามว่าคอมพิวเตอร์จะแย่ลงไปมั้ย ก็ยังไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่โต และผมเชื่อว่าในเวลานี้สมาร์ทโฟนก็เริ่มจะมาในเด็กประถม เพราะว่าสังคมต่างๆ เช่นเพื่อนมีเราก็ต้องมี หรือเด็กๆ ก็เริ่มเล่น Line เป็นแล้ว ซึ่งผู้ปกครองก็จำเป็นต้องสนับสนุนเป็นเรื่องปกติเป็นเรื่องปกติ
ในส่วนของแท็บเล็ตผมว่าจำนวนยอดขายต่อตัวจะเริ่มลด เพราะปีที่แล้วเป็นแค่กระแส ที่คนส่วนใหญ่ต้องการลอง ทำให้แท็บเล็ตจีนราคาถูก 1,000 – 2,000 บาทขายดี แต่พอเวลาผ่านไปแท็บเล็ตจีนก็อาจมีปัญหา จนหลายๆ คนเลิกเล่น และเปลี่ยนมาใช้แท็บเล็ตมียี่ห้อมากขึ้น และที่เป็นจุดเริ่มต้นก็คือ Acer ที่ปล่อยแท็บเล็ตราคาไม่ถึง 5,000 บาทออกมา หลายๆ คนก็เริ่มหันไปเล่นกันมากขึ้น เพราะมีปัญหาน้อยกว่า และมี Service หรือการให้บริการต่างๆ ที่ต่างจากแบรนด์จีน จนสุดท้ายจึงแบ่งออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ 3 แบบคือ แบรนด์จีน แบรนด์ระดับกลาง และ Interbrand
ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตอย่างที่ผมพูดไปแล้วว่ามันจะกลายเป็นสินค้าระดับ Mid-High แม้แต่ตัวแท็บเล็ตก็เป็น เพราะผู้ใช้เริ่มได้เรียนรู้ เชื่อได้เลยว่ายอดขายแท็บเล็ตในปีหน้าต่อจำนวนชิ้นนลดลง แต่ยอดขายจำนวนบาทจะไม่ลดลง โดยในส่วนของ Advice ในปีหน้าจะนำแท็บเล็ตในแบบ Interbrand เข้ามาขายมากขึ้น
ปีหน้าจะเพิ่มยอดขายไปที่เท่าไร จากสินค้าตัวไหน ?
Advice ตั้งเป้าไว้ที่ 16,000 ล้านบาท เพิ่มจากเดิม 4,000 ล้านบาท โดยเรามองเรื่องของ Service , Network และกล้อง ที่จะสร้างรายได้เพิ่มให้เรา รวมไปถึงเน้นไปอีกกลุ่มนึงก็จะเป็นตลาด Mobile Devices โดยจะเน้นไปที่สมาร์ทโฟน ให้ตลาดได้รู้ว่าเราก็มีสมาร์ทโฟนเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นแคมเปญ Advice เบนซ์หล่นทับ รับโชคจากสมาร์ทโฟน ที่เราจงใจออกมาเพื่อให้ตลาดได้รับรู้ว่าเราก็มีสมาร์ทโฟนเหมือนกัน และเราเชื่อว่าตลาดนี้ไปได้อีกไกลมาก ซึ่งปีหน้าคาดว่าเราจะไปแชร์ตลาดสมาร์ทโฟนได้ในระดับนึง ผ่านช่องทางการขายที่ใช้ฐานลูกค้าเก่าของสินค้าไอที ?แต่อย่างไรก็ดีเราคงไม่ไปขายแข่งกับเค้ามากนัก เพราะสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ราคาก็ไม่ได้หนีกันมาก ซึ่งราก็จะเล่นที่ของแถมแทน และมั่นใจว่าเราสู้ได้แน่นอน
ในส่วนของตลาดโน๊ตบุ๊คเองเราก็ยังไม่ทิ้ง โดยจะเน้นไปที่โน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่า โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมต่างกันจากคู่แข่ง รวมถึงตลาด DIY หรือ Component ที่เราจะเจาะกลุ่มต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะร้านคอมในต่างจังหวัดหลายๆ เจ้าเปลี่ยนเป็นร้านมือถือ ทำให้เรามีช่องทาง โดย Component ของ Advice ณ ตอนนี้จะอยู่ที่ 40% ของตลาดแล้ว ในปีหน้าเราคิดว่าก็จะปล่อยให้โตตามธรรมชาติ และตั้งเป้าให้โตประมาณ 50%
Advice มีกี่สาขา ?
สำหรับ Advice เองก็สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ 1. Advice Distibrution ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็น Advice Holding หมดแล้ว ควบรวมเป็น 123 สาขา รวมไปถึง Advice Shop หรือ Advice mini (ขึ้นกับขนาด) เปิดอยู่ตามอำเภอ ที่เรามี 110 สาขาทั่วไทย ในส่วนที่ 2 ก็จะเป็น As One ที่ตอนนี้ก็มีประมาณ 100 สาขา ซึ่งเราเปิด As One เพื่อทดสอบว่าเค้ามีความสามารถทื่จะเป็นเครือข่ายเดียวกับเราได้มั้ย โดยให้มาสัมภาษณ์ถ้าผ่านก็ปรับมาเป็น Advice ซึ่งในตอนนี้เรามีสาขารวมทั้งหมดในประเทศก็ราว 358 สาขา ซึ่งทั้งหมดจะขายปลีก และส่งได้หมดเลย และในปี 2014 เล็งไว้ว่า Advice Holding จะไปเปิดเพิ่มเองอีกราวๆ 20 สาขา และตั้งเฟรนไชน์เพิ่มอีกประมาณ 100 สาขา
Advice สามารถสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งได้อย่างไร ทำไมถึงเลือก Advice ?
สำหรับลูกค้าทั่วไปก็จะมั่นใจได้แน่นอน เพราะ Advice มีการสำรวจ และทำวิจัยเรื่อย ๆ เนื่องจากเรามีเครื่อข่ายอยู่ทั่วประเทศ โดยเราสำรวจปีละ 2 ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเราเน้นเรื่องราคา และบริการที่ดี โดย Advice พยายามปรับปรุงทุกสาขาให้เป็นมาตราฐานเดียวกัน และปรับให้มีความรวดเร็วมากขึ้น โดยสามารถที่จะแท็คข้อมูลสินค้าต่างๆ และมอนิเตอร์ข้อมูลได้ทั้งหมดผ่านศูนย์กลาง รวมทั้งเรายังประเมินข้อมูลต่าง ๆ เป็น KPI ของสาขานั้นๆ และหาต้นเหตุว่าทำไมถึงช้า ซึ่งในตอนนี้เราก็ได้ประชุม Policy ในการเครมใหม่แล้วเมื่อสิ้นปี ซึ่งก็ต้องรอดูข้อสรุป และประกาศกันต่อไป
กับ Dealer ที่เลือกเราก็เพราะราคา กับระบบ ที่ง่ายและทันสมัย ในตอนแรกระบบอาจจะดูยาก แต่ได้ปรับตัวสักระยะก็จะเข้าที่เข้าทาง และใช้ง่ายไปเลย เพราะระบบของเราแค่เข้าระบบออนไลน์ และเช็ตของออนไลน์ได้เลย เป็นระบบที่ดี ไม่ต้องโทรสั่งให้ยุ่งยาก สะดวกสบาย รวดเร็ว ทำให้ Dealer ที่ซื้อไป ประหยัดเวลา ช่วยเซฟต้นทุน และคืนทุนได้รวดเร็ว ซึ่งเราก็พยายามเดิมเกมให้เร็ว บริหารสต๊อกให้ไว้ มองราคาตลาดโลกเป็นหลัก
เคมเปญในปีหน้ามีอะไรบ้าง ?
อย่างปี 2013 เราก็มี Advice เบนซ์หล่นทับ รับโชคจากสมาร์ทโฟน แต่ในปี 2014 เราต่องขออุบไว้ก่อน ยังบอกไม่ได้ แต่เรามีแน่นอน เพราะคำขวัญของเราคือ “Advice มากกว่าที่คุณคิด” และโปรดติดตามตอนต่อไป
Advice VIP Card ประสบความสำเร็จไหม?
ในปี 2013 ยังเป็นการกระจายบัตร Advice VIP Card เสียมากกว่า ในปี 2014 เราคงดีลกับแบรนด์อื่นๆ ให้มีสิทธิพิเศษมากกว่านี้ ที่เป็นมากกว่าการซื้อของใน Advice ซึ่งตอนนี้ลูกค้ายังไม่ได้ผลประโยชน์ และผลตอบแทนสูงสุด ซึ่งผมตั้งใจไว้ว่าอยากให้ลูกค้าได้ผลประโยชน์ของเจ้าบัตร Advice VIP Card มากกว่านี้
ฝากอะไรถึงผู้ใช้โน๊ตบุ๊ค และสมาชิก Notebookspec สักเล็กน้อย
ผมต้องขอบคุณสมาชิก ของ NBS ที่ผมก็เชื่อว่าเป็นลูกค้าของเรา และขอบคุณ NBS ที่ให้ข้อมูลในการเลือกซื้อสินค้าที่ถูกต้อง และเมื่อลูกค้ามีความรู้มากขึ้น ผลที่มันได้ตามมาก็ตกกับ Advice และผู้ค้ารายอื่นที่อาจจะเบาแรง และลดปัญหาของผู้ประกอบการได้เยอะมาก ซึ่งทำให้ Advice กับ ลูกค้าคุยกันง่ายขึ้น