เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ หลายคนคงสงสัยว่า MacBook ทำไมถึงแพง ทั้งๆ ที่สเปคของมันเมื่อเทียบกับ Ultrabook แบรนด์ดังๆ ทั่วไปๆ ก็ดูเหมือนว่า Ultrabook จะคุ้มกว่าซะอีก แต่เชื่อได้เลยว่าถ้าท่านอ่านบทความนี้ ความคิดของท่านก็น่าจะเปลี่ยนไป หรืออย่างๆ น้อยๆ ก็พอจะเข้าใจได้มากขึ้น ว่าจริงๆ แล้วเราไม่อาจจะดูแต่สเปกแล้วมาตัดสินใจกันได้ว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม
MacBook พัฒนาต่อเนื่องมากจาก iBook และ PowerBook
ก่อนอื่นเรามาย้อนดูกันสักนิดถึงที่มาของเจ้า MacBook กันซึ่งในตอนแรกนั้นแรก Apple ตั้งใจที่จะพัฒนา Notebook ของตัวเองที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Macintosh โดยแบ่งตามระดับของผู้ใช้งาน ซึ่ง MacBook และ MacBook Air แบ่งอยู่ในกลุ่ม Ulrabook ที่รองรับกับผู้ใช้งานเครื่อง Mac เป็นครั้งแรก รวมไปถึงผู้ใช้ที่ไม่ชอบพกเครื่องคอมพิวเตอร์ใหญ่ๆ ที่มีน้ำหนักมาก ในขณะที่ MacBook Pro ก็จะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาในอีกระดับนึง ที่มาพร้อมสเปคระดับสูง และมีฟีเจอร์ในการทำงานที่ครบถ้วน ด้วยจอภาพขนาด 13 นิ้ว ขึ้นไปเพื่อการทำงานระดับมืออาชีพ ซึ่งต่อยอดมาจากโน้ตบุ้ค Apple ในรุ่นก่อนหน้าอย่าง iBook และ PowerBook ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อนนี้
MacBook แพงกว่า Notebook จริงหรือ ?
โดย MacBook มีอยู่หลักๆ 3 รุ่นก็คือ MacBook / MacBook Air / MacBook Pro อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า ถ้านำมาเทียบกับสเปคของเครื่อง MacBook กับ Notebook นั้น ต้องยอมรับว่า Notebook หลากหลายแบรนด์ จะดูเหนือกว่าในด้านของสเปกต่อราคาที่คุ้มค่า จากเทคโนโลยีที่ถูกลงและการแข่งขันที่สูงขึ้น โดย MacBook Air จะมีราคาเริ่มต้นที่ 42,900 บาท และ MacBook จะมีราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท แต่ฝั่ง Notebook สามารถตั้งราคาได้ที่ 2x,xxx – 3x,xxx บาทเท่านั้น
ซึ่งแน่นอนถ้ายกมาเทียบกับ MacBook และ Notebook ในระดับราคาที่ใกล้กันก็จะเห็นว่า Notebook มีสเปกที่สูงกว่าอยู่ อีกทั้งมีการ์ดจอแยกหรือฟีเจอร์อื่นๆ รวมไปถึงในราคาที่ถูกกว่าก็ได้สเปกพอๆ กับ MacBook แล้ว เรียกได้ว่าในปัจจุบันตอนนี้ถ้าคนที่จะซื้อ Notebook ซักเครื่องที่เน้นสเปกและความคุ้มค่า โดยไม่ได้มีความอยากใช้ macOS หน้าจอ Retina หรือดีไซน์ของ MacBook ตัวเลือกที่จะซื้อ Notebook ที่มีอยู่หลากหลายรุ่นหลากหลายแบรนด์ดูท่าว่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า
แต่ถ้ามองในมุมที่ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อ MacBook ล่ะก็ สามารถแบ่งเป็นข้อๆ ได้ตามนี้
1. ลักษณ์ภายนอกของเครื่อง MacBook ที่ดูสวยงาม หรูหรา ที่เป็นจุดเด่นที่เมื่อเราเอาไปใช้งานนอกสถานที่ ผู้คนรอบข้างก็ต่างให้ความสนใจ ใช้วัสดุในการผลิตอย่างอะลูมิเนียมอัลลอยด์แบบเดิมที่ให้ความสวยงามและผิวสัมผัสที่ดี รวมทั้งยังใช้เทคโนโลยีการผลิตรูปแบบ Unibody เหมือนเดิมอยู่ ซึ่งก็ถือได้ว่า Unibody เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งในเรื่องของการออกแบบให้มีความบางแต่ยังคงมีความแข็งแรงอยู่
ด้วยความที่ว่าต้องลงทุนสูงด้วยค่าเครื่องจักรตัดโลหะด้วยคอมพิวเตอร์ CNC ประกอบกับปริมาณในการผลิตต่อวัน ไม่สามารถผลิตได้จำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบรัดกุม ซึ่งทาง Apple เองก็สามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตมีต้นทุนที่ไม่สูงมากแต่สามารถจำหน่ายได้ราคา
รวมไปถึงการออกแบบภายในเครื่อง MacBook ที่เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และลงทุนด้านงานวิจัยค่อนข้างมาก รวมไปถึงในเรื่องของการจัดวางเลย์เอาท์ฮาร์ดแวร์ภายในเครื่อง MacBook ที่แทบจะเป็นอะไรที่ผู้ผลิตรายอื่นๆ นำไปทำตามได้ยาก ส่งผลให้การที่เราใช้ MacBook ก็มั่นใจให้เรื่องความพรีเมียมที่หา Notebook ทั่วไปมาเทียบได้ยาก
2. ระบบปฏิบัติการ macOS ของ MacBook มีเสถียรภาพสูง ผู้ใช้งานระดับมือาชีพมักนำ MacBook มาใช้กันอย่างแพร่หลายเช่น ช่างภาพนิ่งช่างวีดีโอ และนักตัดต่อวีดีโอ ที่ก็จะนำ MacBook ไปใช้ในงานตัดต่อวีดีโอ หรือกราฟฟิคต่างๆ หนือ CG ที่เรามักได้เห็นจากเบื้องหลังภาพยนตร์หลายๆ เรื่องอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงในส่วนของนักดนตรีที่มักจะนำ MacBook ไปใช้กับการทำเพลง หรือโพรเซสเพลงต่างๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีสถาปนิกที่นำไปใช้ในการออกแบบโครงสร้างบ้านหรืออาคาร 3 มิติ ซึ่งนั่นก็ล้วนแล้วแต่ใช้งานผ่านเครื่อง Mac แทบทั้งสิ้น จากการที่ระบบปฏิบัติการ macOS ไม่ค่อยมีอาการงอแงบ่อยเท่า Windows (ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย) รวมไปถึงการใช้งานที่เรียบง่ายไม่ต้องเรียบรู้อะไรเยอะ ใช้อย่างเดียวกับโปรแกรมนั้นที่เกี่ยวข้องก็พอ ทำให้ผู้ใช้งานค่อนข้างพอใจนั่นเอง
3. เครื่อง MacBook มีความเข้ากันของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ได้โดยสมบูรณ์ ด้วยการที่ Apple เป็นผู้ออกแบบ และพัฒนาทั้งในส่วนของตัวเครื่อง ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ macOS ของ MacBook ด้วยตนเอง ดังนั้นในเรื่องของการเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ต่างๆ จึงไม่มีอุปสรรค์ และใช้งานได้การทำงานได้อย่างลงตัว ทำให้ MacBook ได้รับการยอมรับจากเหล่ามืออาชีพ ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ไปในทิศทางเดียวกัน
รวมไปถึงการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Apple ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, AirPods หรืออื่นๆ ก็สามารถทำได้ง่ายกว่า Notebook ปกติ จากการที่ Apple ได้คิดว่าเรื่องของ Ecosystem ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ การส่งไฟล์แชร์ไฟล์ ทำให้ระหว่าง macOS และ iOS ทำงานกันได้แบบไร้รอยต่อทีเดียว
4. MacBook เรียนรู้และใช้งานได้ง่าย มาพร้อมซอฟแวร์มากมาย โดยระบบปฏิบัติการ macOS นั้นถือได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญของเครื่อง MacBook ออกแบบมาให้มีไอคอนน้อยที่สุด ในส่วนของการใช้งานจึงดูไม่วุ่นวาย และมีความเป็นระเบียบ พร้อมกันนั้น MacBook ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์ช่วยเหลือการทำงานต่างๆ เช่น iLife (iTunes, Photos, iMovie) ที่เป็นชุดโปรแกรมตกแต่งภาพ ตัดต่อเสียง/วีดีโอ รวมไปถึงโปรแกรมทางอินเทอร์เน็ต อย่าง Safari, Mail และ iChat ที่มีคุณภาพการใช้งานที่สูง แทบไม่จำเป็นต้องไปหาโปรแกรมอื่นๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมเหมือนในเครื่อง Ultrabook ฝั่ง Windows เลย
5. MacBook มีแบตอึดมาก และให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี ซึ่งจะได้ว่าเครื่อง MacBook ในบางรุ่นสามารถใช้งานต่อเนื่องบนแบตเตอรี่ได้มากถึง 13 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว รวมไปถึงหน้าจอ Retina Display ที่เป็นจอภาพคุณภาพสูง ให้ความละเอียดที่มากกว่า Notebook ทั่วไปทำให้เรียบเนียนตากว่า Full HD ขอบเขตสีก็เกิน 100% sRGB ซึ่งในส่วนนี้ต้องยอมรับว่า Apple จัดเต็มอย่างที่หา Notebook คู่แข่งได้ยาก อีกทั้ง MacBook เองก็มีความทนทานเป็นอย่างมาก จากการที่ Apple ใส่ใจเรื่องของคุณภาพทุกชิ้นส่วน ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า Notebook ทั่วไปนั่นเอง
6. MacBook เป็นผลิตภัณฑ์ของ Apple ยังไงล่ะ อย่างที่รู้กันว่าของสินค้าของ Apple เมื่อเทียบกับแบรนด์ต่างๆ แล้ว ไม่เคยจะมีราคาถูกกว่าเลย ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนรู้ดี และยอมจ่ายเพื่อให้ได้ใช้มัน ไม่ว่าจะเป็น iPhone ที่แพงกว่า Android หรือหูงฟังไร้สาย AirPods หรือแม้แต่อุปกรณ์เสริมเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องยอมรับว่า คุณภาพของผลิตภัณฑ์ Apple ดีกว่าจริงๆ แต่ก็ไม่น่าจะมีราคาส่วนต่างขนาดนี้ (ฮา) แต่ทำยังไงได้เป็นเรื่องของธุรกิจ รวมไปถึงตัวมูลค่าของแบรนด์ Apple เอง ซึ่งคนที่ซื้อมาอาจจะมีเงินแล้วซื้อมาใช้ หรือซื้อมาเพื่อยกระดับตัวเองคล้ายกับสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า แต่ไม่ว่าอย่างไร Apple ก็ได้เงินอยู่ดี ส่งผลให้กำไรต่อชิ้นของ Apple สูงกว่าสินค้าแบรนด์อื่นๆ ด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะมองภาพออกหรือยังครับว่าทำไม MacBook ถึงแพง แต่อย่างไรดีถ้าเรามองแบบไม่มีอคติ และวิเคราะห์กันด้วยฟีเจอร์ต่างๆ รวมไปถึงการใส่ใจในการออกแบบทั้งภายในและภายนอกก็จะเห็นได้ว่าเครื่อง MacBook นั้นกลับกลายเป็นเครื่องที่ถูกเสียด้วยซ้ำ และถ้าเป็นคนที่ชอบใช้งานแบบพกพาไปไหนมาไหน บวกกับชอบใช้อุปกรณ์ที่มีเสถียรภาพสูง สวยงาม โดดเด่น และซื้อครั้งเดียวจบไม่จำเป็นต้องลงระบบปฏิบัติการ และซอฟแวร์พื้นฐานเพิ่มแล้วละก็ MacBook ก็เป็นตัวเลือกที่ดีตัวนึง
รวมไปถึงผู้ใช้ที่ประกอบอาชีพที่จำเป็นต้องใช้โน๊ตบุ๊คที่มีความเชื่อถือได้สูงอย่างเช่นสถาปนิก วิศวะกร รวมไปนักออกแบบสร้างสรรค์งานกราฟิก งานภาพยนตร์ งานแอนิเมชัน และ วิชวลเอฟเฟค เป็นต้น ที่เรียกได้ว่ารับงานมาหนึ่งงานก็ได้ค่าจ้างมากกว่าค่าเครื่องเสียอีก แต่อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่ถือมาเท่ๆ ใช้งานเอกสาร หรือส่งเมล์ ในมุมบางคนก็ว่าอาจจะดูไม่คุ้ม แต่อย่างไรก็ดี ก็แล้วแต่วิจารณญาณของตัวผู้ใช้งานเอง ว่าจะเลือกแบบไหน จริงๆ ถ้าสามารถซื้อได้โดยไม่เดือดร้อน จะจ่ายถูกจ่ายแพงก็ไม่มีผิดถูกครับ
ยกตัวอย่างกับรุ่นน้องของแอดมินโป้ง มีงบซื้อ Notebook ที่ 50,000 บาท ใช้งานเล่นเน็ตทั่วไป ดูหนังฟังเพลง ทำเอกสารบ้าง เราก็แนะนำเป็น Ultrabook ไปงบประมาณ 30,000 บาท แต่สุดท้ายแล้วรุ่นน้องไปดูไปจับด้วยตนเอง ก็ไปถูกใจ MacBook ราคา 47,900 บาท สีชมพู ก็จัดการซื้อไป ด้วยความที่ว่าใช้ iPhone อยู่แล้วส่งไฟล์ง่ายดี ดีไซน์ก็สวยถูกใจสาวๆ ในมุมของใครหลายคนอาจจะดูว่าไม่คุ้มถ้าดูแต่สเปก แต่ในมุมของคนซื้อเค้าพึงพอใจแล้ว ส่วนสเปกก็เพียงกับความต้องการของเขาแล้ว อันนี้ก็ไปว่ากันไม่ได้นั่นเอง :D