แม้ว่าหลายๆ คนจะยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ Apple นั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงแถมยังดูดีมีสไตล์ เมื่อใช้งานแล้วก็ส่งผลให้ผู้ช้งานนั้นดูอีกขึ้นอีก 10 – 20% (อันนี้แซวเล่นนะ ฮา) แน่นอนว่าจึงทำให้หลายคนจึงอยากที่จะจับจองเป็นเจ้าของกัน ซึ่งในบทความนี้เราก็จะมาดูเน้นๆ กันกับ Mac ที่เป็นผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ของทาง Apple โดยที่หลายๆ คนเชื่อว่า Mac นั้นเป็นคอมพิวเตอร์อีกแบรนด์หนึ่งที่ดีที่สุด แต่ในความเป็นจริงแล้วในความที่ดีสุด ใช่ว่าจะเหมะสมกับเราทุกคน ฉะนั้นเราจะมาแจกแจงกันว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่เราไม่ควรเลือกใช้งาน Mac ไม่ว่าจะเป็น MacBook Air, MacBook Pro, Mac mini, iMac หรือ Mac Pro ก็ได้
1. ให้ความสำคัญกับสเปก
อย่างที่ใครๆ คงเห็นกันไปแล้ว ว่าผลิตภัณฑ์ Mac ของ Apple นั้น ไม่ได้เน้นในส่วนของเรื่องสเปกที่แรงเท่าไหร่เลยเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป อาทิเช่น หากเราต้องการใช้งานโน๊ตบุ๊คสเปกประมาณชิปประมวลผล Intel Core i7 รุ่นใหม่ กับกราฟิกการ์ดแบบแยก NVIDIA GT 750M แล้วล่ะก็ ถ้าใครจะซื้อ Mac คงต้องดูเป็น MacBook Pro Retina 15 ตัวท๊อปกันเลยทีเดียว ซึ่งมีราคาสูงถึงระดับ 86,900 บาท (เพิ่มอีก 13,100 บาท ก็แสนหนึ่งแล้ว)
แต่ถ้าเป็นฝั่งของโน๊ตบุ๊คปกติล่ะก็สามารถดูเป็น Lenovo Y410P ก็จะได้สเปกที่ใกล้เคียงแล้วคือ Core i7 +?NVIDIA GT 750M โดยมีราคาไม่แพงเลยเพียง 31,990 บาท หรือถ้าใครต้องการความแรงของชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดที่มากว่านั้นในขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ก็สามารถดูเป็น?MSI GE60 2OE ได้เลย ซึ่งมีราคาเพียง 41,900 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าเมื่อเทียบสเปกต่อราคาแล้ว ในส่วนของโน๊ตบุ๊คปกติทั่วคุ้มค่ากว่าเห็นๆ (เอาเงินที่จะไปซื้อ Mac ไปซื้อเป็นสองเครื่องนี้ได้สบายๆ)
ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะทาง Apple เค้าไม่ได้ขายสเปกตั้งแต่แรก แต่ขายประสบการณ์ใช้งานโดยรวมต่างหาก ทั้งในเรื่องซอฟต์แวร์ คุณภาพหน้าจอ วัสดุ งานประกอบ และดีไซน์ รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่ได้ยาวนาน ฉะนั้นถ้าใครต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นเรื่องของสเปกต่อราคาที่จ่ายล่ะก็ ให้มองข้าม Mac ไปได้เลย
2. ไม่ชอบระบบปิด
ต้องยอมรับนะครับว่าตัวระบบปฏิบัติการของ Mac อย่าง OS X นั้นมีความสวยงามและน่าใช้ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการปรับแต่งที่ปรับอะไรไม่ค่อยได้มากนักเมื่อเทียบกับทางฝั่งของระบบปฏิบัติการ Windows ทำให้หลายๆ คนที่ชอบการโมดิฟายระบบหรือหน้าตาต่างๆ ของระบบปฏิบัติการนั้น บน OS X ไม่สามารถทำได้ เพราะด้วยความเป็นจริงคือ Apple ตั้งใจเอาไว้อยู่แล้วให้ OS X เป็นระบบปฏิบัติการแบบปิดนั่นเอง ส่งผลให้การปรับเปลี่ยนอะไรภายในจึงทำได้แยก นอกเหนือเสียจากเราจะเป็นระดับนักพัฒนา
ฉะนั้นสำหรับคนที่ขี้เบื่อหรือชอบอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ระบบปฏิบัติการ OS X อาจจะไม่เหมาะสมมากนัก แนะนำว่าให้หันไปใช้ระบบปฏิบัติการ Windows อย่างเดิมจะเหมาะสมกว่า ด้วยความที่ว่ามีอิสระในการปรับแต่งพอสมควร ทั้งในเรื่องของระบบภายในและหน้าตากราฟิก ที่ไม่ต้องเป็นระดับนักพัฒนาก็สามารถปรับแต่งเองได้ ที่สำคัญยังมีเครื่องมือช่วยในการปรับแต่งมากมาย นอกเหนือจากนั้นด้วยความที่เป็นระบบปฏิบัติการแบบปิดของ OS X จึงให้มีโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่น้อยกว่าฝั่งของ Windows อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามข้อดีของระบบปฏิบัติการ OS X ที่มากกว่าหน้าตาที่ดูสวยงามน่าใช้แล้ว จากการที่เป็นระบบปิดจึงทำให้เมื่อใช้งานบนเครื่อง Mac นั้นก็มีความสเถียรหรือมีโอกาสที่เครื่องจะแฮงค์น้อยมากๆ ซึ่งนั่นก็มาจากการที่ทาง Apple เองได้พัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาร่วมกัน มาในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้ทั้งสองส่วนนั้นเข้ากันลงตัวเป็นอย่าง แน่นอนว่าจึงทำให้โอกาสที่ทำงานผิดพลาดก็มีน้อยลงไปด้วย รวมไปถึงไวรัสก็มีน้อยกว่าจากการที่ทาง Apple จำกัดสิทธิให้เฉพาะนักพัฒนาเท่านั้นที่จะสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในของระบบได้นั่นเอง
3. ยังเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ
ซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้งานทั้งทีจะจ่ายเงินก็หลายหมื่นบาท แน่นอนว่าก็ต้องเอามาใช้งานให้คุ้มค่านอกเหนือจากการที่นำมาทำงานแล้ว หลายๆ คนก็คงเลือกที่จะใช้งานโน๊ตบุ๊คในส่วนของการเล่นเกม หรือไม่ก็สำหรับบางคนก็อาจจะซื้อโน๊ตบุ๊คเพื่อมาเล่นเกมโดยเฉพาะก็ว่าได้ ซึ่งในตลาดโน๊ตบุ๊คก็ได้มีการนำเสนอในส่วนของ Gaming Notebook เอาไว้อยู่แล้ว ที่ต้องยอมรับว่าโดนใจทั้งในส่วนของสเปกที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพความแรงและดีไซน์ที่โดดเด่นโดยออกแบบมาเพื่อ Gamer โดยเฉพาะ (แต่จะเอาไปใช้งานอื่นๆ ก็ยังได้อยู่นะ)
ซึ่งถ้าใครคิดว่าอยากได้คอมพิวเตอร์เครื่องที่จะซื้อนั้นมาเล่นเกมเป็นหลักล่ะก็ ขอให้มองผ่านในส่วนของเครื่อง Mac ไปได้เลย นั่นก็เป็นเพราะสืบเนื่องจากข้อที่ 1 ด้วยเหตุที่ว่าสเปกต่อราคาของเครื่อง Mac จัดได้ว่าไม่มีความคุ้มค่าเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์รุ่นอื่นๆ อย่างถ้าสมมุติว่าเรามีแผนจะซื้อ Mac ในราคา 50,000 บาท เพื่อนำมาใช้งานในการเล่นเกมเป็นหลัก ที่แน่นอนว่าต้องพึ่งพาประสิทธิภาพชิปประมวลผลและกราฟการ์ดเป็นหลัก งบประมาณที่ได้เราจะซื้อได้เพียง MacBook Pro Retina 13 ที่เป็นเพียง Core i5 + กราฟิกการ์ดออนบอร์ด?Intel Iris graphics 5100 เท่านั้น
โดยถ้าเทียบในงบประมาณที่เท่ากันถ้าเราซื้อโน๊ตบุ๊คปกติเราได้ Gaming Notebook ระดับพรีเมี่ยมอย่าง?MSI GS70 2OD Stealth ซึ่งให้ชิปประมวลผลภายในมาเป็น Core i7 + NVIDIA?GTX 765M เลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ยังได้หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ที่เล่นเกมได้เต็มอารมณ์มากกว่า หรือไม่อย่างงั้นก็ลองลดงบประมาณในการซื้อลงมาซักหน่อย เป็นสี่หมื่นบาทกลางๆ เราก็จะได้ Lenovo Y510P ที่สเปกมาพร้อมกับ Core i7 + NVIDIA?GT 750M สองตัว แน่นอนว่าในการเล่นเกมตัวของ MacBook Retina 13 เทียบชั้นในการเล่นเกมของโน๊ตบุ๊คทั้งสองรุ่นไม่ติดฝุ่นเลย แต่ถ้าวัดในเรื่องของประสบการณ์ใช้งานที่เน้นความเบา พกพา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน และหน้าจอสวยสมจริงแล้วล่ะก็ ต้องบอกว่า?MacBook Retina 13 ก็เหนือชั้นกว่าเช่นกัน
4. งบประมาณมีจำกัด
ใช่ว่าทุกคนจะมีงบประมาณในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ซักเครื่องที่สูงระดับ 40,000 บาทขึ้นไปทุกๆ คน เพราะด้วยความเป็นจริงแล้วค่าเฉลี่ยของคนในยุคปัจจุบันมักจะซื้อโน๊ตบุ๊คกันระดับช่วงราคา 20,000 – 30,000 บาทเสียมากกว่า ที่ทำให้ตรงจุดนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า โน๊ตบุ๊ค Apple อย่าง MacBook Air ต้องมาตอบโจทย์ในการเลือกซื้อเท่าไหร่นัก เพราะด้วยราคาที่เริ่มต้นก็ตกอยู่ที่ 30,000 บาทขึ้นไปแล้ว ทำให้ผู้ที่อยากได้โน๊ตบุ๊คมาใช้งานซักเครื่องที่เป็น MacBook คงต้องอกหักรักคุดกันไป อีกทั้งถึงแม้จะซื้อไปก็ใช้งานได้ไม่ต้องกับความต้องการนัก เพราะด้วยความที่สเปกไม่ได้เอื้ออำนวยให้ใช้งานได้หลากหลายนั่นเอง
อย่างหลายๆ คนต้องการโน๊ตบุ๊คที่ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม ทำงาน หรือพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ซัก 3 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ ในระดับโน๊ตบุ๊คราคา 20,000 – 30,000 บาท ก็มีตัวเลือกในการใช้งานหลากหลายแล้ว อย่างถ้าเน้นคุ้มค่าต่อราคาที่สุด Acer?Aspire V5-473G-74504G50 ก็ตอบโจทย์ด้วยสเปก Core i7 + NVIDIA GT 740M ที่ราคา 20,900 บาท หรือถ้าใครมองหาเป็นโน๊ตบุ๊ค 15 นิ้ว ก็ให้ดูเป็น Samsung?ATIV BOOK 4 NP470R5E-X01TH สเปก Core i5 +?AMD HD 8750M ราคา 26,900 บาทได้ รวมไปถึงถ้าคนไหนอยากได้โน๊ตบุ๊คบางๆ เบาๆ ใช้แบตได้นาน มาพร้อม SSD ขนาด 256GB แล้วล่ะก็ ตัว?HP ENVY Spectre XT 13-2126TU ก็ตอบสนองได้เหมือนกัน จากเครื่อง Ultrabook สเปก Intel Core i5 +?Intel HD 4000 ที่สำคัญยังมาพร้อม SSD ขนาด 256GB เสียด้วย สนนราคาก็เพียง 27,900 บาทเท่านั้น
ทำให้ถ้าใครงบประมาณไม่พอที่จะซื้อ Mac เราก็ยังสามารถเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คได้อีกมากมายหลายรุ่นด้วยกัน ที่แม้ว่าประสบการณ์ใช้งานโดยรวมอาจจะเป็นรอง Mac อยู่บ้าง แต่ถ้าให้พูดตามความจริงก็ใช้งานได้เหมือนๆ กัน ทั้งในเรื่องของการงานและความบันเทิง ฉะนั้นถ้าใครยังไม่พร้อมที่จะซื้อ Mac ในตอนนี้ ก็เป็นโน๊ตบุ๊คปกติก็ได้ ไว้มีโอกาสเมื่อไหร่ ค่อยมาถอย Mac อีกทีก็แล้วกัน
5. ไม่ศรัทธาใน Apple
ใช่ว่าทุกคนจะชื่นชอบและปลามปลื้มในตัวของผลิตภัณฑ์ Apple และในส่วนขอบแบรนด์ Apple เหมือนกันหมด เพราะจะว่าไปแล้ว Apple ก็เป็นตัวแสบของวงการไอทีก็ว่าได้ ซึ่งถ้าใครติดตามมาโดยตลอดจะทราบว่าหลายๆ อย่างที่ Apple ทำ ก็มีทั้งสีขาวสีเทาและสีดำ (ไม่ขอลงรายละเอียด) ที่ถึงแม้ว่าอาจจะไม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Apple โดยตรงก็ตาม แตก็มีผลสำหรับบางคนที่มองภาพโดยรวมของ Apple แน่นอนว่าส่งผลให้ไม่อยากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple อย่าง Mac หรือ iPhone, iPad ตามไปด้วย ที่สำคัญคือ ราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียกับแบรนด์อื่นๆ ฉะนั้นจึงทำให้หลายๆ คนไม่ได้มีความศรัทธาในตัวของ Apple นั่นเอง
แต่ในทางกลับกันเชื่อได้เลยว่าถ้าใครเป็นคนไม่คิดอะไรมาก และชอบในส่วนของผลิตภัณฑ์ Apple อยู่แล้ว (อาจจะไม่ถึงขั้นศรัทธากลายเป็นสาวก) เพราะด้วยความที่ว่าสามารถตอบสนองการทำงานของเราได้ อีกทั้งยังให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีมาโดยตลอด รวมไปถึงคนรอบข้างก็ให้ความเห็นว่า Apple Mac นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี ก็ไม่น่าแปลกใจที่คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เครื่องต่อไป จะเลือกใช้งานเป็น Mac อีกครั้ง?
?
หรือยังไงเพื่อนๆ มีความคิดเห็นอะไรจะเหมือนกันหรือแตกต่างก็สามารถมาแชร์กันได้นะครับ?