สำหรับเครื่อง Xbox One ที่ภายในนั้น มาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 500GB จากโรงงานนั้น เราก็พอจะทราบกันดี ว่ามันก็มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับนึง และถ้าหากว่าอยากที่จะแกะเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์แบบใหม่ใส่เข้าไป มันก็ค่อนข้างที่จำได้อย่างบากลำบาก เมื่อเทียบกับเครื่องของคู่แข่งอย่าง PlayStation 4 แล้ว ที่มีการออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้บางคนหรอก เพราะแม้ว่าจะมีการเสริมในเรื่องของสติ๊กเกอร์การรับประกัน ซึ่งอาจทำให้เราๆไม่อยากที่จะไปแกะแงะเล่น แต่กับผู้ใช้ในโลกอินเตอร์เน็ต ก็ต้องมีสักคนที่ไม่สนใจเรื่องที่ว่า และเอามาทดลองให้เราได้เห็นประสิทธิภาพที่เปลี่ยนแปลงไปกัน
จากที่ iFixit ได้ทำการเปิดเครื่องออกมาให้เราได้ดูกันไปแล้ว ฮาร์ดดิสก์ภายในเครื่องที่ใช้นั้น จะเป็นแบบขนาด 2.5 นิ้ว ของ Samsung และเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เฟสแบบ SATA II ซึ่งก็แน่นอนว่ามันสามารถที่ถอดเปลี่ยนได้ Brian Williams ได้ทดลองเปลี่ยนเอา SSD EVO ของ Samsung ขนาด 500GB มาใส่เข้าไปแทน นั่นก็ส่งผลทำให้ตัวเครื่อง สามารถทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมทันที แต่ว่าก็ไม่ได้สูงอะไรมากมายนัก จากวิดีโอทดสอบเปิดเครื่อง สามารถทำได้ที่ 46.1 วินาที เทียบกันกับฮาร์ดดิสก์ตัวเดิมที่ทำได้ที่ 50.5 วินาที นอกเหนือไปจากนั้น ยังมีฮาร์ดดิสก็แบบไฮบริดลูกผสมของ Seagate ขนาด 1TB หรือที่เราเรียกว่า SSHD มาทดสอบเพิ่มเติมด้วย โดยการเรียกโหลดเกม Call of Duty: Ghosts ด้วย SSD นั้นสามารถทำเวลาได้ที่ 27 วินาที ส่วน SSHD ทำได้ที่ 27.7 วินาที และฮาร์ดดิสก์ตัวเดิมจากโรงงานที่ 33.5 วินาที
ถือว่าเป็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจากเดิม แต่ว่ามันก็ไม่ได้มากมายอะไรสักเท่าไหร่เลย เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต้นทุน ที่เราจำเป็นต้องเสียไป แต่ถ้าใครอยากจะทำ เราก็ไม่ว่ากันนะ
ที่มา: engadget