จะว่าไปแล้ว Ultrabook ในตอนนี้ก็มีให้เลือกซื้อกันอยู่หลากหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งมีทั้งแบบธรรมดาและหน้าจอทัชสกรีน รวมไปถึงแบบ Hybrid Ultrabook ที่สามารถใช้งานได้ทั้งโหมดปกติและโหมดแท็บเล็ต โดยกระแสตอบรับก็จัดได้ว่ามีคนนิยมชมชอบเป็นอย่างดี อย่างในตอนนี้หนึ่งในผู้นำด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีไอทีของโลกอย่าง HP (Hewlett Packard) ก็ได้พร้อมนำเสนอ HP Split x2 Ultrabook?ที่ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นล่าสุด ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ที่สำคัญยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการตัวใหม่อย่าง Windows 8 ที่จะมาคอยทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของเราในทุกๆ ด้าน
HP Split x2 Ultrabook?เป็น Hybrid Ultrabook ที่มีคุณสมบัติในการถอดแยกส่วนของหน้าจอให้กลายเป็นแท็บเล็ตได้ โดยมีดีไซน์สวยหรูงดงามตามสไตล์โน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ของทาง HP ด้วยวัสดุคุณภาพสูและงานประกอบที่มีความเรียบร้อยอย่างที่สุด เรียกได้ว่าเป็น 2 in 1 Notebook ที่น่าจับตามองจริงๆ โดยสนนราคาอยู่ที่ 35,990 บาท เท่านั้นเอง
VDO Introducing
Specification
ในส่วนของสเปก HP Split x2 Ultrabook?จะเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 13.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้เต็มรูปแบบ โดยเมื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตจะสามารถใช้งานต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊คจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงด้วยกัน เรียกได้เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนานที่สุดรุ่นหนึ่ง
นอกเหนือจากนี้ HP Split x2 Ultrabook?ยังใช้ชิปประมวลผลเป็น ?Intel?Core i5-3339Y ที่เป็นชิปแบบ Dual Core ความเร็ว 1.5GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.0GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel Graphics HD4000 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR3 และหน่วยความจำแบบ SSD ความจุ 128GB พร้อมด้วยฮาร์ดดิสก์ปกติอีก 500GB?
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Split x2 Ultrabook?ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 มาให้ 1 ช่อง และ USB 2.0 อีกหนึ่งช่อง อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 0.8 กิโลกรัม (โหมดแท็บเล็ต)
ชมสเปกเต็มๆ ของ?HP Split x2 Ultrabook <<<
Hardware / Design
วัสดุภายนอกในการประกอบเป็นตัวเครื่องของ?HP Split x2 Ultrabook?ให้ความรู้สึกเมื่อใช้งานแล้ว คล้ายกับ Hybrid Notebook ตัวก่อนหน้าอย่าง HP ENVY x2?ที่มีการใช้เป็นวัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง พร้อมพื้นผิวที่เป็นแบบซอร์พทัชจับแล้วติดมือซึ่งดูแล้วมีความสวยงามแบบเรียบๆ และแข็งแรงไปพร้อมๆ กัน ด้านของสีสันก็จะเป็นแบบทูโทน ก็คือ สีภายนอกจะเป็นสีเทาส่วนสีด้านในจะเป็นสีดำ
ภายในจะเป็นลักษณะคล้ายๆ กับ Ultrabook หลายตัวของค่ายเช่นกัน โดยสัมผัสแล้วรู้สึกได้ว่าเป็นงานประกอบแบบชิ้นเดียวมั่งคง สำหรับตัวคีย์บอร์ดและส่วนของทัชแพดก็เช่นเดียวกัน ซึ่งในส่วนของด้านบนเหนือคีย์บอร์ดจะเป็นตัวเลือกสไลด์ปลดล๊อคเพื่อถอดหน้าจอออก กรณีต้องการใช้งานเป็นแท็บเล็ต
บริเวณฝาหลังจะมีโลโก้ HP แบบมันวาวสวยงาม นอกจากนี้ยังมีกล้องติดตั้งอยู่ขอบด้านบน รวมไปถึงมีปุ่มเปิดเครื่องทางด้านซ้ายและปุ่มปรับระดับเสียงทางด้านขวา ทำให้มีความสะดวกให้การใช้งานจริงเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาแล้ว ฐานของตัวเครื่องจะมีการปรับให้มีความลาดชันเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย โดยรวมแล้ว HP Split x2 Ultrabook?ให้ความรู้สึกเป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะด้วยขนาดของตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัดพกพาได้ง่าย
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ อีกทั้ง บริเวณใต้เครื่องก็จะมีโลโก้ Windows ติดเอาไว้อยู่ เพื่อเป็นการการันตีว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ลิขสิทธิ์
Keyboard / Touchpad
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Split x2 Ultrabook?ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน๊ตบุ๊คทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อว ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีการติดตั้งไฟส่องสว่างคีย์บอร์ด หรือหลายๆ คนอาจจะเรียกว่า Backlit Keyboard มาให้
ทัชแพดยังคงมีลักษณะรูปแบบหน้าตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊คของทาง HP หลายๆ รุ่น ทั้งในเรื่องของสัดส่วนขนาด ที่เป็นวัสดุที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ซึ่งจากการใช้งานจริง พบว่าสามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture จริงๆ ที่มีใน Windows 8
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Split x2 Ultrabook?นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพสูงกว่าแบบ TN ทั่วไป โดยมีขนาดอยู่ที่ 13.3 นิ้ว บนความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล โดยในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกว่าหน้าจอแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คทั่วไป เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมกันนั้นยังรองรับการสัมผัสได้พร้อมๆ กัน ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
ขอบจอด้านในบริเวณตรงกลางได้มีการติดตั้งกล้องเว็บแคมความละเอียด 2 ล้านพิกเซลเอาไว้ เพื่อรองรับการใช้งาน VDO Call หรือถ่ายภาพตนเอง นอกเหนือจากนี้บริเวณนี้ยังมีการติดตั้งไมค์และเซ็นเซอร์วัดความสว่างเอาไว้ รวมไปถึงมุมซ้ายจะเป็นโลโก้ beat audio
สำหรับระบบเสียงและลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบตัวเครื่องด้านซ้ายและด้านขวาแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการนำไปใช้งานจริง ทั้งดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม
Screen Angle
คุณภาพหน้าจอของ HP Split x2 Ultrabook?เครื่องนี้ อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นการติดตั้งพาเนลจอแบบ IPS มาให้ นั้นถือว่าเป็นพาเนลมาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊คหรือ Ultrabook ระดับสูงในปัจจุบัน โดยการเลือกใช้พาเนลหน้าจอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพอย่าง IPS (In-Plane Switching) ที่จัดได้ว่าพาเนลหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีคุณภาพดีที่สุด ที่ให้ทั้งสีสันที่ตรง ความกว้างของช่วงสีสันที่มาก ส่งผลให้สีสันที่แสดงออกมาจากหน้าจอนั้นมีความสมจริงอย่างที่สุด ประกอบกับการที่มีมุมมองที่กว้างมากๆ เกือบ 180 องศาเลยทีเดียว
ด้านของมุมมองจากฝั่งซ้ายและขวาจะเห็นว่ายังสามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนแต่ความสว่างหน้าจอจะลดลงไปบ้างเล็กน้อยแต่ผู้ใช้คนที่สองและสามก็ยังสามารถมองเห็นหน้าจอได้ดีไม่แพ้ผู้ใช้คนแรกที่อยู่ตรงกลางหน้าจอ ถือว่าหน้าจอที่ติดตั้งมาให้ HP Split x2 Ultrabook?เครื่องนี้มีมุมมองที่กว้างใช้ได้ทีเดียว?
รวมถึงแบบมุมก้มมุมเงยหน้าจอของ HP Split x2 Ultrabook?ผลที่ได้ก็คือ สีสันที่เรามองเห็นนั้นให้อาการผิดเพี้ยนไปบ้าง รวมไปถึงในเรื่องของความสว่างลดน้อยถอยลงไปอีก ทำให้เรียกได้ว่าหน้าจอของ Ultrabook ในรุ่นนี้เป็นพาเนล IPS ที่ไม่ใช้เกรดที่สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าน่าประทับใจมากกว่าแบบพาเนล TN มากแล้ว
Connector / Thin And Weight
มาชมบริเวณรอบๆ ของตัวเครื่อง HP Split x2 Ultrabook?กันบ้าง ซึ่งเราก็จะเห็นถึงการเชื่อมต่อ เริ่มจากทางขวาก็จะเป็นพอร์ต USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ตและพอร์ต HDMI ขนาดมาตรฐานไว้เชื่อมต่อกับจอนอกอย่างมอนิเตอร์หรือ LCD TV ส่วนช่องชาร์จไฟจะมีรูปแบบเดียวกับช่องชาร์จไฟของโน๊ตบุ๊ค HP ทั่วไป ซึ่งเมื่อเราทำการเชื่อมต่อกับอแดปเตอร์เพื่อชาร์จไฟ จะมีไฟ LED สีส้มแสดงขึ้นบริเวณหัวพอร์ตของสาย โดยเมื่อชาร์จไฟเต็มแล้วไฟ LED ก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ตามสไตล์สีไฟของ HP
ทางด้านซ้ายก็จะเป็น พอร์ต USB 3.0 สุดท้ายกับช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เพื่อไว้เชื่อมต่อกับลำโพงหรือหูฟังตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคน นอกเหนือจากนี้อย่างที่บอกไปแล้วส่วนของหน้าจอที่เป็นแท็บเล็ตยังมีช่อง Card Reader ที่รองรับ SD Card อีกช่องหนึ่งอีกด้วย เรียกได้ว่าการเชื่อมต่อโดยรวมครบครันจริงๆ ตามมาตรฐานของ Ultrabook ในปัจจุบัน?
แต่ในส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างตัวหน้าจอแท็บเล็ตและแป้นคีย์บอร์ด ตัว?HP Split x2 Ultrabook จะใช้งานเป็นพอร์ตแบบเฉพาะ รวมไปถึงในตัวของแท็บเล็ตเองนั้นยังมีพอร์ตเชื่อมต่ออื่นๆ อย่าง พอร์ตชาร์ไฟ พอร์ตหูฟัง และช่องการ์ดรีดเดอร์แบบ micro SD Card อีกด้วย เรียกได้ว่าทำให้เราสามารถใส่การ์ดความจำภายนอกเพิ่มเติมได้ถึงสองตำแหน่งทีเดียว
โดยเมื่อนำตัวเครื่อง HP Split x2 Ultrabook?มาเทียบกับซองเอกสารขนาดมาตรฐานจะพบว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าตามปกติ ส่วนขนาดที่อแดปเตอร์ชาร์จก็มีขนาดปกติทั่วไปเช่นกัน นอกจากนี้ความบางของเครื่องเรียกได้ว่ามีหนามากกว่ากล่อง DVD ไม่มากมายอะไร ส่งผลให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่มีความสะดวกกว่าโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดมิติตัวเครื่องทั่วไป
ตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1000 กรัม เท่านั้นเอง แต่ก็ถือว่าหนักอยู่บ้างถ้าเทียบกับคู่แข่งด้วยกันซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าด้วยขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ส่วนเรื่องความบางนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีด้วยความที่ไม่หนาหรือบางจนเกินไปทำให้จับถือได้สะดวก ซึ่งถ้ากรณีรวมกับตัวคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊คแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2200 กรัมทีเดียว อีกทั้งเมื่อทดลองชั่งน้ำหนักรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จแล้วพบว่ามีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 2500 กรัม ซึ่งก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ของโน๊ตบุ๊ค 14 ปกติ แต่หนักกว่า Ultrabook รุ่นอื่นๆ พอสมควร
Performance / Software
HP Split x2 Ultrabook?มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบ 64-bit ลิขสิทธิ์ติดเครื่องตามมาตรฐานของ Ultrabook ซึ่งในส่วนนี้จะบอกถึงสเปกเล็กน้อยว่าใช้ชิประมวลผลเป็น Intel Core i5-3339Y และแรมมีขนาด 8GB รวมไปถึงบอกรูปแบบการทัชสกรีนว่ารองรับ 10 จุดพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังโลโก้ HP ตามปกติของคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows ตัวลิขสิทธิ์อีกด้วย
โดยชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-3339Y ซึ่งเป็นซีพียูใช้พลังงานไฟต่ำ (แต่ก็ยังเป็นรองตระกูล U) มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.0 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i5 ตัวปกติไม่ได้ แต่ในแง่ของการประหยัดงานอันนี้ ตระกูล Y กินขาดแน่นอน
เริ่มแรกเรามาดูคะแนนของ Windows 8 กันก่อน ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างกลางๆ ค่อนไปทางสูง ด้วยเครื่องนี้อาจจะไม่ได้เน้นประสิทธิภาพที่แรงมาก เพราะยังขาดในเรื่องของกราฟิกการ์ด แต่สำหรับในส่วนของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ที่ติดตั้งมาแล้วส่งผลให้มีคะแนนโดยรวมดีขึ้นทีเดียว อย่างไรก้ตามสำหรับ HP Split x2 Ultrabook?เครื่องนี้คงเน้นไปในการใช้งานที่หลากหลายมากกว่างานด้านกราฟิกหรือประมวลผลหนักๆ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับ CPU ที่เป็นรหัส Y หรือ U ด้วยกันแล้ว ก็ทำได้ดี แต่ก็ดีกว่าปกตินิดหน่อยจากการที่มี SSD เข้ามาช่วยเสริม
สำหรับการทดสอบความเร็วในการอ่านเขียน SSD ได้ใช้โปรแกรม AS SSD Benchmark ทดสอบ ผลที่ได้ออกมาก็คือมีความเร็วที่สูงมากในการอ่านข้อมูล ซึ่งถึงแม้ว่าความเร็วในการเขียนจะได้เพียง 1 ใน 2 ของความเร็วในการอ่าน ก็ยังจัดได้ว่าน่าพอใจอยู่ แน่นอนว่าความรู้สึกของการใช้งานจริงจะมีความเร็วกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ฮาร์ดดิสก์กว่าหลายเท่าตัว โดยร่วมทำงานกับเทคโนโลยีของทาง HP ส่งผลให้ในการเปิดปิดเครื่องใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและ Sleep/Wake Up จะใช้เวลาเพียง 1-2 วินาทีเท่านั้นเองครับ
ฮาร์ดดิสก์ที่ติดตั้งมาให้มีความจุ 1 TB พร้อมกับความเร็วทำงานที่ 5400 RPM ให้ความเร็วเฉลี่ยที่ 113 MB/Sec ซึ่งก็ถือว่ามีความรวดเร็วน่าประทับใจทีเดียว สำหรับฮาร์ดดิสก์แบบปกติ และความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลนั้น อยู่ที่ 18.3ms เท่านั้น อีกทั้งเมื่อใช้งานร่วมกับ SSD ความเร็วสูงที่มีอยู่แล้ว ยิ่งทำให้เครื่อง ?HP Split x2 Ultrabook มีทั้งความเร็วในการทำงานและความจุที่สูงในการเก็บข้อมูล
ทดลองด้วย Benchmark เกม Street Fighter IV จะเห็นได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งจากสเปกทั้งหมดก็ถือว่าเป็นผลเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐาน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากผลของการใช้งานเป็น SSD แทนฮาร์ดดิสก์ปกติ เรียกได้ว่า?HP Split x2 Ultrabook ก็พอที่จะเล่นเกมกราฟิกเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง
สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ Windows 8 ก็คือ มีการติดตั้ง Windows Store ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมของ แอพพลิเคชั่น โปรแกรม และซอฟต์แวร์ต่างๆ ไว้ในที่เดียว ที่มีการแบ่งหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถซื้อหาแอพพลิเคชั่นที่เราต้องการได้อย่างสะดวกสบาย จากแต่ก่อนที่ต้องเดินไปซื้อถึงร้านเองก็ไม่จำเป็นแล้ว โดยสามารถกดดาวน์โหลดได้จากที่บ้านได้เลย ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและเสียเงินซื้อ
นอกจากนี้ทาง HP ยังได้มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นในการเริ่มต้นใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 8 มาให้อีกด้วย โดยทางทีมงานได้มีการทดลองใช้งานแล้วเรียกได้ว่าเราสามารถศึกษาวิธีการใช้งานต่างๆ ได้ผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ได้ทันทีที่ทั้งง่ายและสะดวกสบาย น่าประทับใจพอสมควรทีเดียว
อีกหนึ่งโปรแกรมที่ทาง HP ได้มีการใส่ใจและติดตั้งมาให้กับในส่วนของโปรแกรม Ultility ไว้จัดการระบบการทำงานของเครื่อง ซึ่งมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่เข้าใจง่าย ที่นับได้ว่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์น้อยรายจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่าง HP
Battery / Heat / Noise
ในการทดสอบเรื่องของการใช้งานแบตเตอรี่ที่มีความจุรวมอยู่ที่ 5300 mAh นั้น โดยสถานะเครื่องเปิดไว้ใช้งานเล่นเน็ต Facebook ในสถานะแบตเตอรี่ 100% ซึ่งทดสอบตามสถานะตามการใข้งานจริงด้วยการปรับความสว่างบนหน้าจออยู่ที่ 50% ผลเวลาที่ได้ออกมาจะอยู่ที่ประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นทดสอบการใช้งานในโหมดแท็บเล็ตก็แสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนานถึง 3 ชั่วโมงด้วยกัน ซึ่งโดยรวมแล้วถือได้สามารถใช้งานได้จริงแบบไม่ต้องสงสัยกันเลย?ตามมาตรฐานของ Ultrabook ที่กำหนดเอาไว้
เรียกได้ว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ HP Split x2 Ultrabook?มีอัตราการใช้พลังงานค่อนข้างน้อยด้วยชิปประมวลผล Intel Core i5 แบบประหยัดพลังงานพิเศษ และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD โดยจากการวัดค่าการใช้งานพลังงานอยู่ที่ประมาณ 20Watt กรณีใช้งานทั่วไปอย่างเล่นอินเตอร์เน็ตหรือพิมพ์งาน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราใช้งานหนักๆ ด้วยการเล่นเกมหรือชมภาพยนตร์แบบ HD ก็จะใช้พลังงานอยูที่ประมาณ 39W เท่านั้น ถือได้ว่าใช้พลังงานต่ำมากๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ระดับเดียวกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย
สำหรับอุณหภูมิภายในเครื่องเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 55 องศาเซลเซียส ภายในห้องปกติอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยโปรแกรม เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 69 องศาเซลเซียสเท่านั้น ?และเสียงพัดลมก็ไม่ได้ดังรบกวนมากนัก
ประกอบกับทำการวัดอุณหภูมิโดยรอบของตัวเครื่องด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิไปยังตำแหน่งต่างๆ ของ?HP Split x2 Ultrabook?พบได้ว่าบริเวณแป้นของคีย์บอร์ดมีอุณหภูมิอยูที่ประมาณ 47 องศาเซลเซียส (คาดว่าเพราะส่วนนี้มีแบตเตอรี่อยู่ เลยทำให้อุณหภูมิสูง) ที่จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีผลในการใช้งานแต่อย่างใด รวมไปถึงเมื่อทดลองวัดไปที่ช่องทางระบายความร้อนด้านหลังของตัวเครื่องอยู่ที่ 50 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง?โดยในส่วนของการใช้งานจริงก็ไม่ถือว่าร้อนจนเกินไป ยังสามารถใช้งานได้ปกติดีอยู่
สรุปก็คือ HP Split x2 Ultrabook?มีการถ่ายเทความร้อนออกจากตัวเครื่องได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจรวมไปถึงความร้อนที่เกิดขึ้นไม่รบกวนในการใช้งานนัก ฉะนั้นในเรื่องของความร้อนที่เกิดกับตัวเครื่องเราก็สามารถใช้งานได้เต็มที่แบบไร้กังวล
Daily Using
ในตอนนี้โน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องสามารถทำอะไรได้มากว่าแต่ก่อนพอสมควร ทั้งในเรื่องของหน้าจอทัชสกรีนที่รองรับกับ Windows 8 ได้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงยังสามารถไฮบริดเป็นเครื่องแท็บเล็ตได้อีกด้วย อย่างในการีวิวนี้ ทางทีมงาน Notebook SPEC ได้ทำการทดลองใช้งานจริง?HP Split x2 Ultrabook ที่นับได้ว่าเป็น Hybrid Notebook รุ่นที่สองต่อจาก HP ENVY 2x ที่สามารถถอดหน้าจอแล้วกลายมาเป็นแท็บเล็ตได้?
โดยในส่วนของขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว เมื่อนำไปใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตหรือพิมท์งาน ก็จัดได้ว่ามีขนาดที่เหมาะสมไม่เล็กหรือใหญ่จนเกิดไปนัก แม้อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเท่ากับหน้าจอ 14 หรือ 15 นิ้ว แต่ก็ใช้งานไม่ลำบากอย่างหน้าจอ 11 นิ้วในโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นที่ใช้ขนาดหน้าจอไซส์นี้ รวมไปถึงส่วนของแป้นคีย์บอร์ดก็ตอบสนองการพิมพ์ได้เป็นอย่างดี ตามาตรฐานของ Ultrabook ระดับสูงของ HP แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่ว่าน่าจะมีไฟส่องสว่างบนคีย์บอร์ดให้หน่อย เพื่อไว้ใช้งานในที่ที่มีแสงน้อยนั่นเอง
ในการที่จะถอดหน้าจอของ?HP Split x2 Ultrabook ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยการกดปุ่มเพื่อปลดล๊อคจากนั้นก็ดึงหน้าจอขึ้นตรงๆ เราก็จะสามารถใช้งานเป็นโหมดแท็บเล็ตได้แล้ว ที่แม้จะมีข้อสังเกตว่าตัวเครื่องมีน้ำหนักมากไปหน่อย ถ้าถึงมือเดียวคงถือไว้ได้ไม่นานนัก แต่ก็มาเติมเต็มด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่เหมือนกับว่าเราใช้งานแบบพีซีอยู่ในมือ ไม่ต้องคอยสลับเครื่องไปๆ มาๆ เพราะข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าไฟล์หนังไฟล์เพลงอยู่ในเครื่องนี้เครื่องเดียวหมดแล้ว สมกับที่ว่าเป็นเครื่อง 2 in 1 Notebook จริงๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คมากความสามารถอย่างกลายเป็นแท็บเล็ตได้ ?ก็สามารถมองหา?HP Split x2 Ultrabook เป็นตัวเลือกแรกๆ ได้เลย
Conclusion / Award
HP Split x2 Ultrabook?เป็น Hybrid Noteebook อีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแยกหน้าจอให้กลายเป็นแท็บเล็ตได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน 2 in 1 Notebook ที่น่าสนใจจริงๆ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 8 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP ENVY x2 ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่มีความแปลกใหม่ หรือจะกล่าวว่าเป็นต้นแบบของโน๊ตบุ๊คในอนาคตก็คงไม่ผิดนัก ที่มาพร้อมกับระบบเสียง beat audio ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป รวมไปถึงการออกแบบดีไซน์ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ HP Split x2 Ultrabook?เป็น Hybrid Noteebook?ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด
ซึ่งใครที่กำลังมองหา Ultrabook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 รวมไปถึงมีคุณสมบัติถอดเป็นแท็บเล็ตขนาด 13.3 นิ้วได้แบบสบายๆ ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากแต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมงด้วยกันเฉพาะที่เป็นแท็บเล็ต แต่ถ้าใช้งานกรณีเป็นโน๊ตบุ๊ค จะสามารถใช้งานได้นานประมาณ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะด้วยความที่ตัวแท่นคีย์บอร์ดนั้นภายในได้ติดตั้งแบตเตอรี่เอาไว้อีกชุดหนึ่ง
สเปกภายในของ Hybrid Noteebook เครื่องนี้ก็จัดได้ว่าเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i5 แบบประหยัดพลังงานพิเศษ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแรม 8GB และฮาร์ดดิสก์แบบคู่คือทั้ง SSD ความจุ 128GB และแบบปกติ 500GB ทำให้เราได้ทั้งความแรงและขนาดพื้นที่ที่มากไปพร้อมๆ กัน?ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยแต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบสองอย่างในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing โดยทาง HP ประเทศไทยพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการตามหน้าร้านห้างไอทีแล้ว ใครสนใจก็สามารถตามไปจับ ไปทดลองเล่นเองกันได้เลย
จุดเด่น :
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ Hybrid Notebook ทำให้สามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้
- เปิดปิดเครื่องและโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วด้วยฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 128GB
- มีความจุสูงเพราะมาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์อีก 500GB
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 13.3 นิ้ว พาเนล IPS ให้ภาพสวยสมจริง มุมมองกว้าง
- ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
- สเปกเครื่องจัดได้ว่าเป็นมาตรฐาน Ultrabook น่าสนใจคือแรม 8GB
- วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน๊ตบุ๊คระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
ข้อสังเกตุ :
- พอร์ต USB ที่ติดตั้งมาให้เป็นเพียงเวอร์ชั่น 2.0
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- ไม่สามารถอัพเกรดในส่วนของแรมและ SSD ได้ ตามปกติของแท็บเล็ต
- น้ำหนักตัวเครื่องค่อนข้างมากกว่า Ultrabook ทั่วไป
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
HP Split x2 Ultrabook?ตัวเครื่องออกแบบได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานการดีไซน์ของ HP รวมทั้งวัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นที่ให้ทั้งความหรูหราและความแข็งแรงทนทานไปพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกเมื่อจับถือแล้วเหมือนกันกับ Ultrabook ระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญยังเป็นเสริมภาพลักษณ์ผู้ใช้ให้ดูดีไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน โดยการถอดหน้าจอง่ายๆ
VDO Introducing
Specification
ในส่วนของสเปก HP Split x2 Ultrabook?จะเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 13.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้เต็มรูปแบบ โดยเมื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตจะสามารถใช้งานต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊คจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงด้วยกัน เรียกได้เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนานที่สุดรุ่นหนึ่ง
นอกเหนือจากนี้ HP Split x2 Ultrabook?ยังใช้ชิปประมวลผลเป็น ?Intel?Core i5-3339Y ที่เป็นชิปแบบ Dual Core ความเร็ว 1.5GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.0GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel Graphics HD4000 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR3 และหน่วยความจำแบบ SSD ความจุ 128GB พร้อมด้วยฮาร์ดดิสก์ปกติอีก 500GB?
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Split x2 Ultrabook?ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 มาให้ 1 ช่อง และ USB 2.0 อีกหนึ่งช่อง อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 0.8 กิโลกรัม (โหมดแท็บเล็ต)
ชมสเปกเต็มๆ ของ?HP Split x2 Ultrabook <<<
Hardware / Design
วัสดุภายนอกในการประกอบเป็นตัวเครื่องของ?HP Split x2 Ultrabook?ให้ความรู้สึกเมื่อใช้งานแล้ว คล้ายกับ Hybrid Notebook ตัวก่อนหน้าอย่าง HP ENVY x2?ที่มีการใช้เป็นวัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง พร้อมพื้นผิวที่เป็นแบบซอร์พทัชจับแล้วติดมือซึ่งดูแล้วมีความสวยงามแบบเรียบๆ และแข็งแรงไปพร้อมๆ กัน ด้านของสีสันก็จะเป็นแบบทูโทน ก็คือ สีภายนอกจะเป็นสีเทาส่วนสีด้านในจะเป็นสีดำ
ภายในจะเป็นลักษณะคล้ายๆ กับ Ultrabook หลายตัวของค่ายเช่นกัน โดยสัมผัสแล้วรู้สึกได้ว่าเป็นงานประกอบแบบชิ้นเดียวมั่งคง สำหรับตัวคีย์บอร์ดและส่วนของทัชแพดก็เช่นเดียวกัน ซึ่งในส่วนของด้านบนเหนือคีย์บอร์ดจะเป็นตัวเลือกสไลด์ปลดล๊อคเพื่อถอดหน้าจอออก กรณีต้องการใช้งานเป็นแท็บเล็ต
บริเวณฝาหลังจะมีโลโก้ HP แบบมันวาวสวยงาม นอกจากนี้ยังมีกล้องติดตั้งอยู่ขอบด้านบน รวมไปถึงมีปุ่มเปิดเครื่องทางด้านซ้ายและปุ่มปรับระดับเสียงทางด้านขวา ทำให้มีความสะดวกให้การใช้งานจริงเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาแล้ว ฐานของตัวเครื่องจะมีการปรับให้มีความลาดชันเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย โดยรวมแล้ว HP Split x2 Ultrabook?ให้ความรู้สึกเป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะด้วยขนาดของตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัดพกพาได้ง่าย
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ อีกทั้ง บริเวณใต้เครื่องก็จะมีโลโก้ Windows ติดเอาไว้อยู่ เพื่อเป็นการการันตีว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ลิขสิทธิ์
Keyboard / Touchpad
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Split x2 Ultrabook?ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน๊ตบุ๊คทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อว ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีการติดตั้งไฟส่องสว่างคีย์บอร์ด หรือหลายๆ คนอาจจะเรียกว่า Backlit Keyboard มาให้
ทัชแพดยังคงมีลักษณะรูปแบบหน้าตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊คของทาง HP หลายๆ รุ่น ทั้งในเรื่องของสัดส่วนขนาด ที่เป็นวัสดุที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ซึ่งจากการใช้งานจริง พบว่าสามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture จริงๆ ที่มีใน Windows 8
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Split x2 Ultrabook?นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพสูงกว่าแบบ TN ทั่วไป โดยมีขนาดอยู่ที่ 13.3 นิ้ว บนความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล โดยในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกว่าหน้าจอแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คทั่วไป เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมกันนั้นยังรองรับการสัมผัสได้พร้อมๆ กัน ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
ขอบจอด้านในบริเวณตรงกลางได้มีการติดตั้งกล้องเว็บแคมความละเอียด 2 ล้านพิกเซลเอาไว้ เพื่อรองรับการใช้งาน VDO Call หรือถ่ายภาพตนเอง นอกเหนือจากนี้บริเวณนี้ยังมีการติดตั้งไมค์และเซ็นเซอร์วัดความสว่างเอาไว้ รวมไปถึงมุมซ้ายจะเป็นโลโก้ beat audio
สำหรับระบบเสียงและลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบตัวเครื่องด้านซ้ายและด้านขวาแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการนำไปใช้งานจริง ทั้งดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม
Screen Angle
คุณภาพหน้าจอของ HP Split x2 Ultrabook?เครื่องนี้ อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นการติดตั้งพาเนลจอแบบ IPS มาให้ นั้นถือว่าเป็นพาเนลมาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊คหรือ Ultrabook ระดับสูงในปัจจุบัน โดยการเลือกใช้พาเนลหน้าจอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพอย่าง IPS (In-Plane Switching) ที่จัดได้ว่าพาเนลหน้าจอมอนิเตอร์ที่มีคุณภาพดีที่สุด ที่ให้ทั้งสีสันที่ตรง ความกว้างของช่วงสีสันที่มาก ส่งผลให้สีสันที่แสดงออกมาจากหน้าจอนั้นมีความสมจริงอย่างที่สุด ประกอบกับการที่มีมุมมองที่กว้างมากๆ เกือบ 180 องศาเลยทีเดียว
ด้านของมุมมองจากฝั่งซ้ายและขวาจะเห็นว่ายังสามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนแต่ความสว่างหน้าจอจะลดลงไปบ้างเล็กน้อยแต่ผู้ใช้คนที่สองและสามก็ยังสามารถมองเห็นหน้าจอได้ดีไม่แพ้ผู้ใช้คนแรกที่อยู่ตรงกลางหน้าจอ ถือว่าหน้าจอที่ติดตั้งมาให้ HP Split x2 Ultrabook?เครื่องนี้มีมุมมองที่กว้างใช้ได้ทีเดียว?
รวมถึงแบบมุมก้มมุมเงยหน้าจอของ HP Split x2 Ultrabook?ผลที่ได้ก็คือ สีสันที่เรามองเห็นนั้นให้อาการผิดเพี้ยนไปบ้าง รวมไปถึงในเรื่องของความสว่างลดน้อยถอยลงไปอีก ทำให้เรียกได้ว่าหน้าจอของ Ultrabook ในรุ่นนี้เป็นพาเนล IPS ที่ไม่ใช้เกรดที่สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าน่าประทับใจมากกว่าแบบพาเนล TN มากแล้ว
Connector / Thin And Weight
มาชมบริเวณรอบๆ ของตัวเครื่อง HP Split x2 Ultrabook?กันบ้าง ซึ่งเราก็จะเห็นถึงการเชื่อมต่อ เริ่มจากทางขวาก็จะเป็นพอร์ต USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ตและพอร์ต HDMI ขนาดมาตรฐานไว้เชื่อมต่อกับจอนอกอย่างมอนิเตอร์หรือ LCD TV ส่วนช่องชาร์จไฟจะมีรูปแบบเดียวกับช่องชาร์จไฟของโน๊ตบุ๊ค HP ทั่วไป ซึ่งเมื่อเราทำการเชื่อมต่อกับอแดปเตอร์เพื่อชาร์จไฟ จะมีไฟ LED สีส้มแสดงขึ้นบริเวณหัวพอร์ตของสาย โดยเมื่อชาร์จไฟเต็มแล้วไฟ LED ก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ตามสไตล์สีไฟของ HP
ทางด้านซ้ายก็จะเป็น พอร์ต USB 3.0 สุดท้ายกับช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เพื่อไว้เชื่อมต่อกับลำโพงหรือหูฟังตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคน นอกเหนือจากนี้อย่างที่บอกไปแล้วส่วนของหน้าจอที่เป็นแท็บเล็ตยังมีช่อง Card Reader ที่รองรับ SD Card อีกช่องหนึ่งอีกด้วย เรียกได้ว่าการเชื่อมต่อโดยรวมครบครันจริงๆ ตามมาตรฐานของ Ultrabook ในปัจจุบัน?
แต่ในส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างตัวหน้าจอแท็บเล็ตและแป้นคีย์บอร์ด ตัว?HP Split x2 Ultrabook จะใช้งานเป็นพอร์ตแบบเฉพาะ รวมไปถึงในตัวของแท็บเล็ตเองนั้นยังมีพอร์ตเชื่อมต่ออื่นๆ อย่าง พอร์ตชาร์ไฟ พอร์ตหูฟัง และช่องการ์ดรีดเดอร์แบบ micro SD Card อีกด้วย เรียกได้ว่าทำให้เราสามารถใส่การ์ดความจำภายนอกเพิ่มเติมได้ถึงสองตำแหน่งทีเดียว
โดยเมื่อนำตัวเครื่อง HP Split x2 Ultrabook?มาเทียบกับซองเอกสารขนาดมาตรฐานจะพบว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าตามปกติ ส่วนขนาดที่อแดปเตอร์ชาร์จก็มีขนาดปกติทั่วไปเช่นกัน นอกจากนี้ความบางของเครื่องเรียกได้ว่ามีหนามากกว่ากล่อง DVD ไม่มากมายอะไร ส่งผลให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่มีความสะดวกกว่าโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดมิติตัวเครื่องทั่วไป
ตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1000 กรัม เท่านั้นเอง แต่ก็ถือว่าหนักอยู่บ้างถ้าเทียบกับคู่แข่งด้วยกันซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าด้วยขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ส่วนเรื่องความบางนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีด้วยความที่ไม่หนาหรือบางจนเกินไปทำให้จับถือได้สะดวก ซึ่งถ้ากรณีรวมกับตัวคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊คแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2200 กรัมทีเดียว อีกทั้งเมื่อทดลองชั่งน้ำหนักรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จแล้วพบว่ามีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 2500 กรัม ซึ่งก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ของโน๊ตบุ๊ค 14 ปกติ แต่หนักกว่า Ultrabook รุ่นอื่นๆ พอสมควร
Performance / Software
HP Split x2 Ultrabook?มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบ 64-bit ลิขสิทธิ์ติดเครื่องตามมาตรฐานของ Ultrabook ซึ่งในส่วนนี้จะบอกถึงสเปกเล็กน้อยว่าใช้ชิประมวลผลเป็น Intel Core i5-3339Y และแรมมีขนาด 8GB รวมไปถึงบอกรูปแบบการทัชสกรีนว่ารองรับ 10 จุดพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังโลโก้ HP ตามปกติของคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows ตัวลิขสิทธิ์อีกด้วย
โดยชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-3339Y ซึ่งเป็นซีพียูใช้พลังงานไฟต่ำ (แต่ก็ยังเป็นรองตระกูล U) มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.0 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i5 ตัวปกติไม่ได้ แต่ในแง่ของการประหยัดงานอันนี้ ตระกูล Y กินขาดแน่นอน
เริ่มแรกเรามาดูคะแนนของ Windows 8 กันก่อน ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างกลางๆ ค่อนไปทางสูง ด้วยเครื่องนี้อาจจะไม่ได้เน้นประสิทธิภาพที่แรงมาก เพราะยังขาดในเรื่องของกราฟิกการ์ด แต่สำหรับในส่วนของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ที่ติดตั้งมาแล้วส่งผลให้มีคะแนนโดยรวมดีขึ้นทีเดียว อย่างไรก้ตามสำหรับ HP Split x2 Ultrabook?เครื่องนี้คงเน้นไปในการใช้งานที่หลากหลายมากกว่างานด้านกราฟิกหรือประมวลผลหนักๆ
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับ CPU ที่เป็นรหัส Y หรือ U ด้วยกันแล้ว ก็ทำได้ดี แต่ก็ดีกว่าปกตินิดหน่อยจากการที่มี SSD เข้ามาช่วยเสริม
สำหรับการทดสอบความเร็วในการอ่านเขียน SSD ได้ใช้โปรแกรม AS SSD Benchmark ทดสอบ ผลที่ได้ออกมาก็คือมีความเร็วที่สูงมากในการอ่านข้อมูล ซึ่งถึงแม้ว่าความเร็วในการเขียนจะได้เพียง 1 ใน 2 ของความเร็วในการอ่าน ก็ยังจัดได้ว่าน่าพอใจอยู่ แน่นอนว่าความรู้สึกของการใช้งานจริงจะมีความเร็วกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ฮาร์ดดิสก์กว่าหลายเท่าตัว โดยร่วมทำงานกับเทคโนโลยีของทาง HP ส่งผลให้ในการเปิดปิดเครื่องใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและ Sleep/Wake Up จะใช้เวลาเพียง 1-2 วินาทีเท่านั้นเองครับ
ฮาร์ดดิสก์ที่ติดตั้งมาให้มีความจุ 1 TB พร้อมกับความเร็วทำงานที่ 5400 RPM ให้ความเร็วเฉลี่ยที่ 113 MB/Sec ซึ่งก็ถือว่ามีความรวดเร็วน่าประทับใจทีเดียว สำหรับฮาร์ดดิสก์แบบปกติ และความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลนั้น อยู่ที่ 18.3ms เท่านั้น อีกทั้งเมื่อใช้งานร่วมกับ SSD ความเร็วสูงที่มีอยู่แล้ว ยิ่งทำให้เครื่อง ?HP Split x2 Ultrabook มีทั้งความเร็วในการทำงานและความจุที่สูงในการเก็บข้อมูล
ทดลองด้วย Benchmark เกม Street Fighter IV จะเห็นได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งจากสเปกทั้งหมดก็ถือว่าเป็นผลเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐาน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากผลของการใช้งานเป็น SSD แทนฮาร์ดดิสก์ปกติ เรียกได้ว่า?HP Split x2 Ultrabook ก็พอที่จะเล่นเกมกราฟิกเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง
สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ Windows 8 ก็คือ มีการติดตั้ง Windows Store ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมของ แอพพลิเคชั่น โปรแกรม และซอฟต์แวร์ต่างๆ ไว้ในที่เดียว ที่มีการแบ่งหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถซื้อหาแอพพลิเคชั่นที่เราต้องการได้อย่างสะดวกสบาย จากแต่ก่อนที่ต้องเดินไปซื้อถึงร้านเองก็ไม่จำเป็นแล้ว โดยสามารถกดดาวน์โหลดได้จากที่บ้านได้เลย ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและเสียเงินซื้อ
นอกจากนี้ทาง HP ยังได้มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นในการเริ่มต้นใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 8 มาให้อีกด้วย โดยทางทีมงานได้มีการทดลองใช้งานแล้วเรียกได้ว่าเราสามารถศึกษาวิธีการใช้งานต่างๆ ได้ผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ได้ทันทีที่ทั้งง่ายและสะดวกสบาย น่าประทับใจพอสมควรทีเดียว
อีกหนึ่งโปรแกรมที่ทาง HP ได้มีการใส่ใจและติดตั้งมาให้กับในส่วนของโปรแกรม Ultility ไว้จัดการระบบการทำงานของเครื่อง ซึ่งมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่เข้าใจง่าย ที่นับได้ว่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์น้อยรายจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่าง HP
Battery / Heat / Noise
ในการทดสอบเรื่องของการใช้งานแบตเตอรี่ที่มีความจุรวมอยู่ที่ 5300 mAh นั้น โดยสถานะเครื่องเปิดไว้ใช้งานเล่นเน็ต Facebook ในสถานะแบตเตอรี่ 100% ซึ่งทดสอบตามสถานะตามการใข้งานจริงด้วยการปรับความสว่างบนหน้าจออยู่ที่ 50% ผลเวลาที่ได้ออกมาจะอยู่ที่ประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นทดสอบการใช้งานในโหมดแท็บเล็ตก็แสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนานถึง 3 ชั่วโมงด้วยกัน ซึ่งโดยรวมแล้วถือได้สามารถใช้งานได้จริงแบบไม่ต้องสงสัยกันเลย?ตามมาตรฐานของ Ultrabook ที่กำหนดเอาไว้
เรียกได้ว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ HP Split x2 Ultrabook?มีอัตราการใช้พลังงานค่อนข้างน้อยด้วยชิปประมวลผล Intel Core i5 แบบประหยัดพลังงานพิเศษ และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD โดยจากการวัดค่าการใช้งานพลังงานอยู่ที่ประมาณ 20Watt กรณีใช้งานทั่วไปอย่างเล่นอินเตอร์เน็ตหรือพิมพ์งาน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราใช้งานหนักๆ ด้วยการเล่นเกมหรือชมภาพยนตร์แบบ HD ก็จะใช้พลังงานอยูที่ประมาณ 39W เท่านั้น ถือได้ว่าใช้พลังงานต่ำมากๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ระดับเดียวกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปอีกด้วย
สำหรับอุณหภูมิภายในเครื่องเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 55 องศาเซลเซียส ภายในห้องปกติอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยโปรแกรม เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 69 องศาเซลเซียสเท่านั้น ?และเสียงพัดลมก็ไม่ได้ดังรบกวนมากนัก
ประกอบกับทำการวัดอุณหภูมิโดยรอบของตัวเครื่องด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิไปยังตำแหน่งต่างๆ ของ?HP Split x2 Ultrabook?พบได้ว่าบริเวณแป้นของคีย์บอร์ดมีอุณหภูมิอยูที่ประมาณ 47 องศาเซลเซียส (คาดว่าเพราะส่วนนี้มีแบตเตอรี่อยู่ เลยทำให้อุณหภูมิสูง) ที่จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีผลในการใช้งานแต่อย่างใด รวมไปถึงเมื่อทดลองวัดไปที่ช่องทางระบายความร้อนด้านหลังของตัวเครื่องอยู่ที่ 50 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง?โดยในส่วนของการใช้งานจริงก็ไม่ถือว่าร้อนจนเกินไป ยังสามารถใช้งานได้ปกติดีอยู่
สรุปก็คือ HP Split x2 Ultrabook?มีการถ่ายเทความร้อนออกจากตัวเครื่องได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจรวมไปถึงความร้อนที่เกิดขึ้นไม่รบกวนในการใช้งานนัก ฉะนั้นในเรื่องของความร้อนที่เกิดกับตัวเครื่องเราก็สามารถใช้งานได้เต็มที่แบบไร้กังวล
Daily Using
ในตอนนี้โน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องสามารถทำอะไรได้มากว่าแต่ก่อนพอสมควร ทั้งในเรื่องของหน้าจอทัชสกรีนที่รองรับกับ Windows 8 ได้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงยังสามารถไฮบริดเป็นเครื่องแท็บเล็ตได้อีกด้วย อย่างในการีวิวนี้ ทางทีมงาน Notebook SPEC ได้ทำการทดลองใช้งานจริง?HP Split x2 Ultrabook ที่นับได้ว่าเป็น Hybrid Notebook รุ่นที่สองต่อจาก HP ENVY 2x ที่สามารถถอดหน้าจอแล้วกลายมาเป็นแท็บเล็ตได้?
โดยในส่วนของขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว เมื่อนำไปใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตหรือพิมท์งาน ก็จัดได้ว่ามีขนาดที่เหมาะสมไม่เล็กหรือใหญ่จนเกิดไปนัก แม้อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเท่ากับหน้าจอ 14 หรือ 15 นิ้ว แต่ก็ใช้งานไม่ลำบากอย่างหน้าจอ 11 นิ้วในโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นที่ใช้ขนาดหน้าจอไซส์นี้ รวมไปถึงส่วนของแป้นคีย์บอร์ดก็ตอบสนองการพิมพ์ได้เป็นอย่างดี ตามาตรฐานของ Ultrabook ระดับสูงของ HP แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่ว่าน่าจะมีไฟส่องสว่างบนคีย์บอร์ดให้หน่อย เพื่อไว้ใช้งานในที่ที่มีแสงน้อยนั่นเอง
ในการที่จะถอดหน้าจอของ?HP Split x2 Ultrabook ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยการกดปุ่มเพื่อปลดล๊อคจากนั้นก็ดึงหน้าจอขึ้นตรงๆ เราก็จะสามารถใช้งานเป็นโหมดแท็บเล็ตได้แล้ว ที่แม้จะมีข้อสังเกตว่าตัวเครื่องมีน้ำหนักมากไปหน่อย ถ้าถึงมือเดียวคงถือไว้ได้ไม่นานนัก แต่ก็มาเติมเต็มด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่เหมือนกับว่าเราใช้งานแบบพีซีอยู่ในมือ ไม่ต้องคอยสลับเครื่องไปๆ มาๆ เพราะข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าไฟล์หนังไฟล์เพลงอยู่ในเครื่องนี้เครื่องเดียวหมดแล้ว สมกับที่ว่าเป็นเครื่อง 2 in 1 Notebook จริงๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คมากความสามารถอย่างกลายเป็นแท็บเล็ตได้ ?ก็สามารถมองหา?HP Split x2 Ultrabook เป็นตัวเลือกแรกๆ ได้เลย
Conclusion / Award
HP Split x2 Ultrabook?เป็น Hybrid Noteebook อีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแยกหน้าจอให้กลายเป็นแท็บเล็ตได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน 2 in 1 Notebook ที่น่าสนใจจริงๆ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 8 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP ENVY x2 ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่มีความแปลกใหม่ หรือจะกล่าวว่าเป็นต้นแบบของโน๊ตบุ๊คในอนาคตก็คงไม่ผิดนัก ที่มาพร้อมกับระบบเสียง beat audio ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป รวมไปถึงการออกแบบดีไซน์ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ HP Split x2 Ultrabook?เป็น Hybrid Noteebook?ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด
ซึ่งใครที่กำลังมองหา Ultrabook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 รวมไปถึงมีคุณสมบัติถอดเป็นแท็บเล็ตขนาด 13.3 นิ้วได้แบบสบายๆ ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากแต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมงด้วยกันเฉพาะที่เป็นแท็บเล็ต แต่ถ้าใช้งานกรณีเป็นโน๊ตบุ๊ค จะสามารถใช้งานได้นานประมาณ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะด้วยความที่ตัวแท่นคีย์บอร์ดนั้นภายในได้ติดตั้งแบตเตอรี่เอาไว้อีกชุดหนึ่ง
สเปกภายในของ Hybrid Noteebook เครื่องนี้ก็จัดได้ว่าเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i5 แบบประหยัดพลังงานพิเศษ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแรม 8GB และฮาร์ดดิสก์แบบคู่คือทั้ง SSD ความจุ 128GB และแบบปกติ 500GB ทำให้เราได้ทั้งความแรงและขนาดพื้นที่ที่มากไปพร้อมๆ กัน?ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยแต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบสองอย่างในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing โดยทาง HP ประเทศไทยพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการตามหน้าร้านห้างไอทีแล้ว ใครสนใจก็สามารถตามไปจับ ไปทดลองเล่นเองกันได้เลย
จุดเด่น :
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ Hybrid Notebook ทำให้สามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้
- เปิดปิดเครื่องและโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วด้วยฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 128GB
- มีความจุสูงเพราะมาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์อีก 500GB
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 13.3 นิ้ว พาเนล IPS ให้ภาพสวยสมจริง มุมมองกว้าง
- ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
- สเปกเครื่องจัดได้ว่าเป็นมาตรฐาน Ultrabook น่าสนใจคือแรม 8GB
- วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน๊ตบุ๊คระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
ข้อสังเกตุ :
- พอร์ต USB ที่ติดตั้งมาให้เป็นเพียงเวอร์ชั่น 2.0
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- ไม่สามารถอัพเกรดในส่วนของแรมและ SSD ได้ ตามปกติของแท็บเล็ต
- น้ำหนักตัวเครื่องค่อนข้างมากกว่า Ultrabook ทั่วไป
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
HP Split x2 Ultrabook?ตัวเครื่องออกแบบได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานการดีไซน์ของ HP รวมทั้งวัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นที่ให้ทั้งความหรูหราและความแข็งแรงทนทานไปพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกเมื่อจับถือแล้วเหมือนกันกับ Ultrabook ระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญยังเป็นเสริมภาพลักษณ์ผู้ใช้ให้ดูดีไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน โดยการถอดหน้าจอง่ายๆ