แหล่งข่าวรายงานว่า เครื่อง Console รุ่นล่าสุดจาก Sony ในรุ่น PlayStation 4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ที่ผ่านมานั้น ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก เพียงในวันแรกที่เปิดตัวสามารถขายได้ถึง 1ล้านเครื่องกันเลยทีเดียว แต่ทุกท่านเคยสงสัยและตั้งคำถามกันมั้ยครับว่า เจ้า PlayStation 4 มันมีต้นทุนเท่าไรกันนะ? โดยล่าสุดทางบริษัทวิจัยระดับโลกอย่าง IHS ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงต้นทุนจริงๆ ของส่วนประกอบต่างๆ บนเครื่อง PlayStation 4 ซึ่ง สิริรวมแล้วมีต้นทุนในการผลิตอยู่ที่ 381 เหรียญสหรัฐ หรือราว 12,000 บาท กันเลยเดียว
?
PlayStation 4 ใช้ ชิป AMD APU ขนาดใหญ่โตถึงใหญ่ถึง 348 ตารางมิลลิเมตร
?ซึ่งภายในเครื่อง PlayStation 4 นั้นจะมีส่วนประกอบหลักๆ สองส่วนที่มีราคาสูงที่สุดภายในเครื่อง คือเจ้า AMD APU ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสำหรับเครื่อง PlayStation 4 และแรมของการ์ดจอแบบ GDDR5 8GB ซึ่งทั้งสองส่วนมีราคา 100 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 3,170 บาท) และ 88 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 2,800 บาท) ตามลำดับ โดยตัวชิป AMD APU ที่ได้ออกแบบมานั้นเป็นชิปที่ค่อนข้างใหญ่ถึง 348 ตารางมิลลิเมตร โดยตัวซีพียูจะเป็นแบบ 8 หัว และการ์ดจอของระบบจะเป็นการ์ดแยก แต่ถูกรวมชิป ฝังไว้ใน Die หรือ แผ่นวงจรเดียวกัน โดยทาง IHS ได้กล่าวว่า ยิ่งชิปเป็นเฉพาะตัวมากเท่าไรยิ่งก็มีโอกาศเกิดข้อบกพร่องได้มากเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนต่ำ และราคาสูง (ยกตัวอย่างง่ายๆ คือชิปเฉพาะตัว ไม่เหมือนกับชิปที่ผลิตขายกันทั่วไป ซึ่งชิปที่ขายทั่วไปนั้นจะออกมารุ่นหลักๆ มาเพียงรุ่นเดียว เมื่อเกิดข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ก็จัดการตัดหรือปิดข้อบกพร่องนั้น แล้วลดราคาลงมาขาย เช่น AMD FX 8320 กับ AMD FX 8350 ที่ระบบภายในทุกอย่างเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ความเร็ว ซึ่งในส่วนของชิปเฉพาะตัวที่จะต้องมีความเร็วเป้นมาตราฐานเดียวกัน ไม่สามารถซอยรุ่นออกขายได้) และนอกจากนี้ก็ยังมี ค่าใช้จ่ายในอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นฮาร์ดไดร์ฟขนาด 500GB ที่มีราคา 37 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 1,200 บาท), Blu-ray drive ราคา 28 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 900 บาท) และ จอยควบคุมที่มีราคาอยู่ที่ 18 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 570 บาท)
โดยค่าใช้จ่ายที่ยังไม่ได้รวมในค่าเครื่องคือจำนวนเงิน 381 เหรียญสหรัฐ หรือ12,000 บาท ซึ่งก็มีค่าวิจัยเครื่อง , ค่าพัฒนาเครื่อง , ค่าโฆษณา , ค่าส่งสินค้า ซึ่งอย่างไรก็ดียอดขายของเจ้า PlayStation 4 ก็มีแนวโน้มที่จะคืนทุน แถมยังได้กำไรอีกเหลือ ๆ จากการขายเกมต่างๆ อีกด้วย แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจะแตกต่างกันบ้างขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับ Sony บริษัทคู่ค้าอื่นๆ เพราะข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงการวิเคราะห์จากบริษัท IHS เท่านั้น
PlayStation 4 เดินเกมตามแบบ PlayStation 3
แต่อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่า Sony จะทำกำไรได้เพียงนิดหน่อย หรือบางทีอาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกนัก เพราะเป้าหมายหลักของ Sony ก็แค่ต้องการปล่อยให้เจ้าเครื่องเกม PlayStation 4 เครื่องนี้ไปอยู่ในมือนักเล่นเกมให้เยอะที่สุด และไวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยทางบริษัทก็วางแผนที่จะทำกำไรกลับมา โดยการขายเกมต่างๆ ที่หลัง อย่างไรก็ดีนี่ไม่ใช้ครั้งแรกในการเดินกลยุทธแบบนี้ ซึ่งทาง Sony เองก็เคยทำแบบนี้มาแล้วในเครื่อง PlayStation 3 แต่ในครั้งนั้น ตัวเครื่องจะมีราคาขาย 599 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 19,000 บาท) แต่มีราคาทุนอยู่ทื่ 805 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 25,500 บาท) ที่เป็นผลมาจากการเลือกใช้ของใหม่ๆ ล้ำๆ ในตอนนั้นอย่าง หน่วยประมวลผล Cell และเครื่อง Blu-ray drive ซึ่งในท้ายที่สุด Sony ก็สามารถทำกำไรจากการขายเกมอยู่ดี และเมื่อเปรียบเทียบกับเจ้า PlayStation 4 ตัวล่าสุด ก็กลายเป็นขนมหวานเลยที่ Sony จะฟันกำไรจากการขายเกมได้เป็นกอบเป็นกำแน่นอน
ที่มา : arstechnica