ช่วงนี้เชื่อได้ว่าใครได้เห็นราคา SSD ในท้องตลาด น่าจะเกิดอาการตาลุกวาว เพราะราคาที่หล่นลงมาจนน่าจะคว้ามาประดับเคส โดยเฉพาะในรุ่น Mid-end ที่สนนราคาของ 128GB อยู่ที่ประมาณ?4 พันบาทเท่านั้น
หรือจะกัดฟันเล่นของแรงในรุ่นไฮเอนด์ก็น่าสนใจ ยิ่งเป็นรุ่น 25oGB มีหลายรุ่นที่น่าจับเอามาเป็นตัวบูตระบบได้ดีทีเดียว เช่นเดียวกับ SSD จากค่าย Samsung ที่ช่วงนี้ ดูจะเป็นช่วงที่มีไลน์สินค้า SSD เยอะมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะปล่อยรุ่น SSD 840 สำหรับราคาย่อมเยามาลงตลาดให้ผู้ใช้ได้ชิมลางกันแล้ว ก็ยังตามด้วยรุ่นพี่อย่าง 840 Pro ที่ความแรงต้องเรียกได้ว่าร้อนแรงสุดๆ จนทำให้ใครต่อใครต้องหันมามอง เรียกได้ว่ากลิ่นอายของ SSD ที่ทาง Samsung ทะยอยเปิดตัวออกมายังไม่ทันจาง ก็ไม่รอช้าที่จะปล่อย SSD 840 EVO ที่เป็น SSD ระดับมิดเอนด์สำหรับคนที่ชอบความแรงกระชากใจ ในราคาที่สัมผัสได้ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Controller หรือ NAND Flash ก็ตาม
Samsung SSD 840 EVO มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจ เพื่อให้เป็น SSD ที่สามารถรองรับการทำงานในรูปแบบต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็ว ด้วยชิป NAND Flash ที่กระบวนการผลิต 19nm ในแบบ 3-bit MLC หรือที่เรีกยว่า TLC ผสานการทำงานร่วมกับคอนโทรลเลอร์ MEX จากเดิมที่เป็น MCX และ MDX ในรุ่น 840 และ 840 Pro ซึ่งใช้หน่วยประมวลผล 3-Cores ARM 300MHz
เปลี่ยนมาเป็น ARM Cortex-R4 ความเร็ว 400MHz แทน ให้ความเร็วที่เพิ่มขึ้น 33% และส่งผลให้การเข้าถึงข้อมูลแบบสุ่มและแบบได้เร็วกว่าเดิม ที่สำคัญยังมาพร้อมความเร็วในการเขียนที่สูงขึ้น (TurboWrite)? โดยมีบัฟเฟอร์ LPDDR2 ขนาด 512MB เพื่อเสริมการรับ-ส่งข้อมูลได้ดี มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 120GB, 250GB, 500GB, 750GB และ 1TB นับว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ค่ายที่มีความจุให้เลือกมากขนาดนี้
Specification : Samsung SSD 840 EVO
จากคุณสมบัติจะเห็นได้ว่า ในส่วนของ Read speed จะมีความเร็วเท่ากันหมด ตั้งแต่ในรุ่นความจุ 120GB จนถึง 1TB แต่ในส่วนของ Write speed จะมีเพียงรุ่น 120GB เท่านั้น ที่มีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 410MB/s เท่านั้น แต่ในรุ่นอื่นจะวิ่งไปที่ 520MB/s ด้วยกันทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีลักษณะคล้ายกันกับหลายๆ ค่ายในท้องตลาด ที่หากต้องการความเร็วที่มากขึ้น ก็ต้องเลือกในรุ่นที่มีความจุสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
Design
รูปร่างหน้าตาดูหรูหราเป็นพิเศษ ด้วยการออกแบบที่ค่อนข้างปราณีต ใช้โทนของสีเทาดำ ที่ดูแตกต่างไปจาก SSD 840 และ 840 Pro ที่ใช้โทนสีสว่างตัดกับสีส้มของโลโก้นั่นเอง
บอดี้หลักเป็นอลูมิเนียมมีความเงางาม ที่สำคัญขอบด้านข้างยังมีการลบมุม ให้ดูไม่เป็นเหลี่ยมมุมจนเกินไป ซึ่งจุดนี้ Samsung ดูจะใส่ใจในการผลิตเป็นอย่างดี
ด้านหลังบอกรายละเอียดเป็นรุ่น 840 EVO และความจุ 250GB ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งก็ดูเท่ไปอีกแบบ
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ก็คือมิติที่บางเป็นพิเศษเพียง 7mm และน้ำหนักเบาเพียง 53 กรัมโดยประมาณ
พอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ SATA3 (6GB/s) และพอร์ตสำหรับต่อไฟเลี้ยงมาตรฐาน SATA ตามปกติ ซึ่งในภาพรวมต้องถือว่าเป็น SSD ที่มีคุณสมบัติในการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจทีเดียว อีกทั้งสนนราคาประมาณ 6450 บาท สำหรับ 250GB นี้ ก็อยู่ในช่วงที่กำลังเหมาะทีเดียว แต่เรื่องประสิทธิภาพในการทำงานจะเป็นอย่างไรนั้น ก็คงต้องมาดูกันที่ผลทดสอบ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ
Processor : AMD Phenom II X6 1100T Processor
Mainboard : GIGABYTE 990FXA-UD3
RAM : TEAM 8GB (4GB x 2) DDR3 2133
HDD : WD Green WD20EADS 2TB
VGA : HIS HD7790 1GB DDR5
OS : Windows 8 Pro 64-bit
ผลที่ได้จากการทดสอบ
การตรวจสอบความจุหลังการฟอร์แมต อยู่ที่ประมาณ 232.9GB พร้อมรายละเอียดต่างๆ ในการเชื่อมต่อผ่านทางโปรแกรม HD Tune Pro 5.50
ผลคะแนนที่ได้จาก Performance Test บน Windows นั้น ค่อนข้างสูงทีเดียว โดยอยู่ที่ 8.1
ผลที่ได้จากการทดสอบกับโปรแกรม AS SSD ชี้ให้เห็นถึงความสามารถของ Samsung 840 EVO ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านการอ่านและเขียนข้อมูลแบบสุ่มที่มีความรวดเร็ว
ในส่วนของคะแนนที่ได้จาก AS SSD Benchmark นั้น ก็เกือบแตะที่ 800 คะแนน ซึ่งจัดได้ว่าเป็นคะแนนที่สูงมากทีเดียวสำหรับ SSD ในปัจจุบัน
ประสิทธิภาพในการทดสอบระบบบีบอัดข้อมูลในการทดสอบกับ Compression Benchmark ก็ชี้ให้เห็นถึงการทำงานของ SSD 840 EVO รุ่นนี้
เช่นเดียวกับผลที่ได้จากการทดสอบ Anvil?s Storage ก็ทำได้ดีเช่นกัน ทั้งในส่วนของการ Read ที่ดูจะสูงเป็นพิเศษและผลในส่วนของ Write ก็ทำได้จะแจ้งในส่วนของ Seq 4MB รวมถึงผลคะแนนในภาพรวม ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ
ในส่วนของ IO-Threaded QD ทั้งในการทดสอบ Random Read และ Random Write ที่ให้ผลการทำงานที่มั่นใจได้
ในแง่ของความเร็วในการเปิด-ปิดระบบนั้น เรียกได้ว่า แทบจะไม่อยู่ในระดับที่ SSD พึงกระทำได้อยู่แล้ว โดยการบูตนั้นใช้เวลาไม่ถึง 20 วินาทีและสามารถ Shutdown ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อผนวกกับการใช้งานบน Windows 8 อยู่แล้ว ก็ดูจะสอดรับกันดีและช่วยให้การบูตเครื่องทำได้เร็วมากขึ้น ซึ่งหากต้องการความเร็วในการบูตที่ดีกว่านี้ ก็ต้องอาศัยการปรับแต่งเพิ่มเติมในระบบ เพื่อลดเวลาในการบูตนั่นเอง แต่ก็เชื่อว่าด้วยความเร็วในไม่กี่วินาทีนี้ ก็น่าจะตอบความต้องการของคนใจร้อนได้มากพอสมควรแล้ว
ในภาพรวมต้องถือว่าเป็น SSD อีกรุ่นหนึ่งที่มีความน่าสนใจ จากค่าย Samsung ที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในการใช้งานให้กับผู้ใช้ได้อย่างพอเหมาะ โดยเฉพาะในกลุ่มของเกมเมอร์หรือผู้ที่ต้องการความเร็วทั้งในการเข้าถึงข้อมูลและการเขียนข้อมูล โดยที่ 840 EVO นี้ มีให้อย่างเต็มอิ่ม รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ทั้งระบบ Controller และ Memory เติมเต็มเข้ามา แต่ให้อยู่ในระดับราคาที่ย่อมเยา สำหรับคนที่ไม่อยากก้าวกระโดดไปยังรุ่น 840 Pro ที่สำคัญมีความจุให้เลือกอยู่มากมายเลยทีเดียว หากไม่อยากจะจำกัดในที่แคบๆ ของ 120GB ก็เลือกไปที่ 250GB หรือ 500GB ได้ในซีรีส์นี้ เพื่อให้การติดตั้งทั้งในส่วนของงานและความบันเทิงควบคู่กันไปได้แบบไม่อึดอัดนัก
Samsung SSD 840 EVO รุ่นนี้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับใครที่คิดว่าอยากได้ความเร็วที่เหนือกว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนแบบพื้นฐาน รวมถึงต้องมีศักยภาพเหนือไปจากแค่การเก็บข้อมูลเท่านั้น โดยเฉพาะคนที่ลังเลในการอัพเกรดเปลี่ยนระบบจากฮาร์ดดิสก์ธรรมดาและมองถึงความสำคัญในด้านประสิทธิภาพให้กับงานที่ใช้อยู่ เป็น SSD กึ่งโปรฯ ที่เข้ามาตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากได้ความเร็วเต็มรูปแบบในราคาที่ควักกระเป๋าจ่ายได้ไม่ยากอีกด้วย ดังนั้นถ้าความเร็วคือเรื่องหลักในใจ ความจุไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไป Samsung SSD 840 EVO รุ่นนี้ มีคำตอบที่ดีให้อย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดที่ Samsung.com
ตัวแทนจำหน่าย : Ascenti Resources Co.,Ltd. และ บริษัท สแกนเนอร์ จำกัด