ใกล้การเปิดตัวของ iPad 5 และ iPad mini 2 เข้าไปทุกที เชื่อว่าคงมีคนจำนวนมากทีเดียวที่วางแผนไว้ว่าจะขาย iPad 4 หรือ iPad mini ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้อยู่ปัจจุบันไปซื้อ iPad รุ่นใหม่แทน แต่สำหรับก่อนที่จะขายนั้น ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ใช้เสร็จ ก็ไปวางขายได้เลยนะครับ เพราะถ้าอยากจะได้ราคาดีราคาสูง ก็ต้องมาสร้างราคาให้มันซักหน่อย ว่าแล้วเรามาดูกันดีกว่าครับ ว่ามีวิธีใดบ้างที่จะช่วยเพิ่มราคาค่าตัวให้กับ iPad ตัวเก่าของเรา ก่อนจะขายเป็นเครื่องมือสอง เพื่อส่งต่อให้คนอื่นอีกที การขาย iPad, iPhone อย่างไรให้ได้ราคาดี ประกอบด้วยขั้นตอน 6 ข้อต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดเครื่องให้แลดูใหม่ที่สุด
ไม่ว่าใครต่อใคร เวลาจะซื่้อสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือสอง ก็ย่อมอยากได้เครื่องที่สะอาด ไม่มีริ้วรอยกันทั้งนั้น เพราะนั่นเป็นการแสดงว่าเราดูแลรักษามันเป้นอย่างดี ทำให้ผู้ขายต้องจัดการเครื่องของตนให้ดีๆ เสียก่อน เริ่มจากขั้นแรกก่อนคือทำความสะอาดซอฟต์แวร์ภายในเครื่องก่อนครับ ทางที่ดีก็คือ Restore ให้เหมือนเป็นเครื่องใหม่ซะก่อน ล้างโปรแกรมออกให้หมดจด?ไม่ต้องติดตั้งแอพเผื่อให้กับผู้ใช้นะครับ?เพราะการติดตั้งแอพจะต้องใช้ Apple ID ของเราในการติดตั้งด้วย แล้วทีนี้เวลาผู้ใช้คนใหม่นำไปใช้ เขาก็จะไม่สามารถอัพเดตแอพได้ ทำให้ต้องลบแอพเก่าเพื่อลงแอพใหม่ไว้ใช้งาน สร้างความลำบากให้กับผู้ใช้คนใหม่ซะอีกต่างหาก ทางที่ดีคือ Restore เสร็จแล้วก็ให้ไปเป็นเครื่องเปล่าๆ นี่ล่ะครับ ชัวร์สุด (อย่าลืม Backup ข้อมูลของเราไว้ด้วยล่ะ)
ส่วนของตัวเครื่องภายนอกนั้น ก็ควรจะเช็ดทำความสะอาดดีๆ เครื่องไหนที่ติดฟิล์มป้องกันหน้า-หลังอยู่แล้วก็สบายใจขึ้นมานิดนึง เพราะอย่างน้อยก็มีฟิล์มป้องกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าให้ดีขึ้นมาหน่อยก็หาซื้อฟิล์มใหม่ติดให้ว่าที่ลูกค้าไปเลยก็ได้ครับ เพราะฟิล์มสมัยนี้ก็ไม่แพงมากเท่าไหร่แล้ว โดยเฉพาะเครื่องที่ฟิล์มเป็นรอย ฟิล์มเก่าแล้วอะไรแบบนี้ รบกวนว่าเปลี่ยนฟิล์มหน่อยก็ดี เพราะเครื่องจะได้ดูใหม่ขึ้นมาหน่อย ส่วนขอบด้านข้างนั้น ถ้าพบว่ามีรอยขีดข่วนก็คงจะแก้ไขลำบากแล้วละครับ คงต้องทำใจกันซักหน่อยว่าคงโดนหักราคาตรงนี้แน่ๆ ตัวพอร์ตเชื่อมต่อก็ควรทำความสะอาดให้ดูดี ไม่มีคราบหรือฝุ่นเกาะติดอยู่ครับ อย่างน้อยก็จะทำให้เครื่องดูดีขึ้นมาซักหน่อย
แต่ทางที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันตั้งแต่ตอนที่เราใช้งานเครื่อง?หลักๆ ก็เช่นติดฟิล์มกันรอยถ้าไม่มั่นใจว่าจะไปข่วนอะไรหรือไม่ ใส่เคสป้องกันที่มีคุณภาพดีหน่อย มีการป้องกันตัวเครื่องได้ดี โดยเฉพาะเคส ถ้าจะเลือกแบบหุ้มทั้งเครื่องแล้ว ก็ควรเลือกแบบที่มีขอบงุ้มมาปิดขอบเครื่องด้านหน้าจอด้วย ซึ่งขอบที่งุ้มมาแบบนี้จะช่วยป้องกันจอไม่ให้สัมผัสกับพื้นเต็มๆ ในเวลาที่เครื่องตก หรือจะวางด้านจอนาบลงไปกับพื้นก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจอจะกระทบพื้นโดยตรง เพราะมีขอบป้องกันให้ แต่เคสชนิดนี้อาจจะใส่ลำบากหน่อย และอาจมีปัญหาใส่ไม่ได้ ถ้าฟิล์มติดเครื่องหนาเกินไป
2. เตรียมอุปกรณ์, กล่อง และใบเสร็จให้ครบครัน
ข้อนี้ ใครที่ยังเก็บกล่องและอุปกรณ์ติดกล่องอยู่ครบก็จะได้เปรียบครับ ทั้งพลาสติกห่อ, สายเชื่อมต่อ USB, อแดปเตอร์ชาร์จไฟ รวมไปถึงพวกคู่มือต่างๆ สติ๊กเกอร์ ถ้ามีอยู่ครบก็จะดีมากครับ เพราะอย่างน้อยเวลาโฆษณาขายก็จะบอกได้ว่าอุปกรณ์ครบกล่อง เพิ่มภาษีให้กับ iPhone ของเราให้มีราคาดีขึ้นมาอีกหน่อยได้เลย ยิ่งถ้ามีใบเสร็จก็จะช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเป็นเครื่องของเราจริงๆ ไม่ได้ขโมยมาขายจากไหนแต่อย่างใด (ไม่มีก็ไม่เป็นไร)
3. โพสประกาศขายตามจริง พร้อมถ่ายรูปชัดๆ?
ลูกค้าทุกคนย่อมอยากได้สินค้าที่ตรงตามการโฆษณาหรือประกาศโพสขายกันทั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของคนขายว่าจะโฆษณาอย่างไรบ้าง โดยทางที่ดีการประกาศขาย เราก็ควรประกาศลักษณะเครื่องตามความเป็นจริง ตีราคาตามความเหมาะสมครับ เพราะถ้าเกิดเราบอกลักษณะเครื่องดีเกินกว่าความเป็นจริง เวลาลูกค้านัดดูของ ถ้าเกิดลูกค้าตาดีไปเจอจุดมีตำหนิเข้า รับรองว่าโดนกดราคาแน่นอนครับ เผลอๆ ลูกค้าจะไม่ซื้อเอาซะอีกด้วย (เสียเวลาเปล่าๆ ทั้งสองฝ่าย) ดังนั้นทางที่ดีๆ ประกาศกันตรงๆ ไปเลยครับ เชื่อว่าน่าจะมีลูกค้าที่รับได้กับเรื่องของตำหนิอยู่แล้ว (ถ้าไม่เยอะหรือเครื่องเยินเกินไปนะ)
นอกจากนี้ถ้าให้ดีที่สุดในการถ่ายภาพตัวเครื่องของเราเพื่อประกาศขาย ก็ควรจะถ่ายให้คมชัดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ รวมไปถึงถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างมากๆ ซึ่งถ้าแนะนำให้ถ่ายข้างๆ หน้าต่างในช่วงเวลากลางวัน ภาพที่ออกมาได้ก็จะมีความคมชัด สีสวยงาม ที่สำคัญต้องโฟกัสให้ตรงจุด อย่าถ่ายเบลอถ่ายมัวๆ และเป็นไปได้ควรจะถ่ายทุกมุมครับ เพราะภาพทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจจะติดต่อเพื่อมาซื้อกับเราครับ ด้วยความที่ว่ายิ่งถ่ายได้สวยผู้ซื้อยิ่งตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ (แต่ก็อย่าถ่ายสวยจนเกินจริงไปล่ะ)
4. ควรเลือกนัดสถานที่ขายที่ดี มีอินเตอร์เน็ตให้ลอง
ในกรณีที่เลือกประกาศขายเองตามอินเตอร์เน็ต แล้วนัดเจอเพื่อซื้อขายกันนะครับ โดยการเลือกสถานที่นัดพบกัน ถ้าเป็นไปได้ ก็เลือกสถานที่ที่สะดวกต่อการเดินทางของผู้ซื้อก็จะดีมาก อย่างน้อยก็จะไม่โดนต่อราคาเรื่องการเดินทางไกลหรือเดินทางลำบากด้วย เช่น ถ้าใน กทม. ด้วยกัน ก็ควรจะเป็นตามเส้นรถไฟฟ้า หรือห้างใหญ่ๆ ถ้าจะให้ดีก็ควรมีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งลอง รวมไปถึงถ้ามี WiFi ก็จะดีมาก เพราะจะช่วยให้ลูกค้าได้ลองเครื่องอย่างเต็มที่แทบจะทุกฟังก์ชัน เพราะทุกวันนี้มีหลายๆ ฟังก์ชันที่ต้องอาศัยอินเตอร์เน็ตด้วย แน่นอนว่าลูกค้าก็ต้องอยากทดสอบก่อนซื้อ ดังนั้นถ้าหาสถานที่ที่มีบริการดังกล่าวด้วยก็จะดีมากทีเดียว
5. มีของแถม ก็ช่วยได้อีกนิด
ถ้ามีของแถมนิดๆ หน่อยๆ เช่นฟิล์มกันรอยที่เหลืออยู่ เคส ผ้าเช็คเครื่อง หูฟัง ของเล็กๆ หน่อยๆ พวกนี้จะแถมไปซักหน่อยก็ได้ครับ อย่างน้อยก็ได้แบบว่า เออนะมีของแถมให้นิดนึง ถ้าบังเอิญของแถมตรงใจผู้ซื้อ รับรองว่าคงไม่โดนกดราคาแน่ครับ แถมบางทีสามารถตั้งราคาขายได้ดีกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ของเราด้วย
6. มีช่องทางเป็นหลักเป็นแหล่งให้ลูกค้าติดต่อได้
ข้อนี้เสมือนเป็นบริการหลังการขายก็ว่าได้ครับ โดยต้องมีมาตั้งแต่ตอนประกาศขายเลย เพื่อผู้ซื้อจะได้เชื่อใจว่าทำการซื้อขายกับผู้ที่มีตัวตน มีหลักแหล่งอยู่จริง เช่น อาจจะเป็นการลงเบอร์โทรศัพท์ไว้ ลงอีเมล หรือถ้าทันสมัยหน่อยก็ Whatsapp หรือ Line กันไปเลย เวลานัดซื้อขาย หรือถ้าเครื่องมีปัญหาหลังซื้อทันทีจะได้สามารถติดต่อกลับไปหาผู้ขายได้ จะได้ช่วยหาทางแก้ไขกันไปตามกรณี ส่งให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อ iPad จากเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
7. ขายก่อนที่ iPad, iPhone รุ่นใหม่จะประกาศเปิดตัว
ของเก่าไปของใหม่มานั้นเป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้นก็คงไม่แปลกอะไรที่ iPad 4 ราคาจะตกลงไปกว่าเดิม เมื่อ iPad 5 ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า ผู้ซื้ออาจจะสนใจรอซื้อ iPad รุ่นใหม่มากกว่า iPad รุ่นเก่า ส่งผลให้เราที่ขาย iPad มือสองนั้น ต้องทำการปรับราคาลงไปอีก เพื่อให้ทางผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น จากความที่ว่า iPad รุ่นใหม่นั้นได้ความสดใหม่กว่า ดีไซน์บางกว่า แรงกว่า เป็นต้น เอาว่าเป็นไปได้เราควรจะประกาศขาย iPad เครื่องเดิมให้ได้ก่อน iPad รุ่นใหม่จะประกาศเปิดตัวนะครับ
ก็น่าจะครบถ้วนแล้วนะครับ สำหรับวิธีที่จะช่วยให้ขาย iPad ได้ราคาดี โดยหลักสำคัญที่สุดก็อยู่ที่ข้อแรกเลย คือเรื่องสภาพและการป้องกัน iPad จากริ้วรอยต่างๆ เพราะเป็นส่วนหลักในการตีราคาเลยทีเดียว ถ้าใครคิดว่าเตรียมขาย iPad เครื่องปัจจุบันแน่นอน ก็รีบหาวิธีป้องกันซะตั้งแต่วันนี้เลย เพื่อความมั่นใจว่าในอนาคตจะขายในราคาที่ดีได้ครับ