ผ่านไปแล้วเรียบร้อยสำหรับงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple โดยหัวข้องานในครั้งนี้ Apple โปรยไว้ว่า “Come See Our Latest Creation” และก็เป็นไปตามที่คาดกันไว้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ Apple เปิดตัวในครั้งนี้ก็คืออุปกรณ์ในลักษณะของ Tablet นั่นเอง โดย Apple ตั้งชื่อเจ้าสิ่งนี้ว่า iPad (ชื่อนี้เคยมีการลือกันมาก่อนหน้า iSlate อย่างยาวนานและหายไปในช่วงที่ชื่อ iSlate โผล่มา จนมาลือกันอีกครั้งก่อนเปิดตัวไม่นานนัก)
รูปร่างหน้าตาของ iPad นั้นคล้ายกับ iPhone ขนาดใหญ่ โดยมีหน้าจอกว้าง 9.7 นิ้ว พร้อมกับความละเอียดหน้าจอ 1024×768 มาพร้อมกับหน่วยความจำขนาด 16GB , 32GB และ 64GB ตามลำดับ สำหรับหน่วยประมวลผลนั้นใช้ชิปที่ผลิตโดย Apple เองชื่อว่า “Apple A4”? น้ำหนักเบาเพียง 1.5 ปอนด์ (ประมาณ 0.7 กิโลกรัม) มีความหนา 0.5 นิ้ว
สำหรับ ราคานั้นเริ่มต้นที่ 499 , 599 และ 699 เหรียญสหรัฐตามลำดับสำหรับรุ่นที่ไม่มีการเชื่อมต่อ 3G ภายใน ส่วนเครื่องที่มี 3G ก็มีราคา 626 , 729 และ 829 เหรียญสหรัฐตามลำดับ โดยรุ่นที่มีแต่ Wi-Fi อย่างเดียวจะเริ่มวางจำหน่ายภายใน 60 วันข้างหน้า และรุ่นที่มี 3G ด้วยนั้นจะเริ่มขายภายใน 90 วันข้างหน้า
การ เชื่อมต่อภายนอกมาตรฐานนั้น iPad มาพร้อมกับ Wi-Fi ตามมาตรฐาน 802.11 a,b,g,n , Bluetooth 2.1+EDR และการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์ผ่านระบบ 3G นอกจากนั้นยังมี Accelerometer , เข็มทิศดิจิตอล , GPS , ลำโพงและไมโครโฟนภายใน รวมถึงหัวเชื่อมต่อ Dock แบบ 30 pin ส่วนระยะเวลาการใช้งานนั้น Apple ระบุว่าสามารถดูวีดีโอได้นานต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง และถ้าเปิด Stand by ไว้เฉยๆ จะใช้งานได้นานถึง 1 เดือน
สำหรับ iPad นี้จะไม่มีการ Lock เครื่องเหมือน iPhone และจะสามารถใช้กับซิมในระบบ GSM ได้ทันที โดยตัวซิมที่ใช้จะเป็นรูปแบบ micro SIM ที่มีขนาดเล็ก ในสว่นของสหรัฐอเมริกานั้น AT&T มีโปรโมทชันสำหรับการใช้งานออกมารองรับ 2 ราคา ส่วนประเทศอื่นๆรายละเอียดจะออกมาในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
สำหรับ อุปกรณ์เสริมนั้น iPad สามารถใช้อุปกรณ์เสริมได้ โดยอุปกรณ์เสริมที่ประกาศออกมาแล้วในตอนนี้ได้แก่ Dock Keyboard สำหรับใช้งานร่วมกับ iPad ในแนวนอน นอกจากคีย์บอร์ดนี้แล้ว iPad ยังใช้งานร่วมกับ Apple Wireless Keyboard ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth แบบไร้สายได้ด้วย สำหรับกล้องนั้นก็มีอุปกรณ์เสริมสำหรับการเชื่อมต่อกล้องเรียกว่า Apple Camera Connection Kit สำหรับใช้ในการดึงภาพออกจากกล้องดิจิตอล
ระบบปฎิบัติการและซอฟท์แวร์
iPad ใช้ระบบปฎิบัติการแบบเดียวกับ iPhone โดยเป็น iPhone OS 3.2 ดังนั้นโปรแกรมที่ใช้ใน iPhone และ iPod touch นั้นจะสามารถใช้งานใน iPad ได้โดยตรง แต่ขนาดหน้าจอจะเปลี่ยนไปพอสมควร แน่นอนว่าจะต้องมีโปรแกรมเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับ iPad ออกมาภายหลังจากนี้
สำหรับ โปรแกรมพื้นฐานที่มาพร้อมเครื่องนั้น ก็มีโปรแกรม Address book , Calendar, E-Mail , Safari , Google Maps , Notes , Photo , Videos Player , YouTube , iPod และ iTunes โดย iPod นั้นใช้สำหรับการเล่นเพลง หน้าตาก็คล้ายๆกับ iTunes ที่ใช้ใน Mac ส่วน iTunes นั้นใช้ในการเข้าถึง iTunes Store นอกจากนี้แล้วยังมีโปรแกรม iBooks สำหรับเข้าถึงร้านหนังสือออนไลน์ ที่ Apple เปิดขึ้นรองรับการใช้งาน eBooks ใหม่ของ และมีโปรแกรม App Store สำหรับเข้าใช้งาน App Store เช่นเดียวกับ iPhone และ iPod touch
ส่วนโปรแกรม อื่นๆ จากนักพัฒนารายอื่นที่มีการนำมาแสดง ในงานแถลงข่าวก็มีโปรแกรม Brushes ที่ใช้วาดภาพ , เกมส์ N.O.V.A จากค่าย Gameloft และเกมส์ Need for Speed Shift จากค่าย EA
ในส่วนของการใช้งานทาง ด้านสิ่งพิมพ์ที่ลือกันมานานนั้น Apple ก็ได้แสดงโปรแกรมตัวอย่างของ หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่าง New York Times ซึ่งสามารถทำงานได้ดีมากเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่เราจะอ่านเนื้อหาข่าวต่างๆได้ ยังสามารถรับชมวีดีโอของข่าวต่างๆ ได้อีกด้วย และสำหรับการใช้งานเป็น e-Books นั้น Apple ก็จัดเตรียมโปรแกรมชื่อว่า iBooks พร้อมทั้ง iBookstore ที่มีหนังสือจากสำนักพิมพ์ใหญ่หลายสำนักไม่ว่าจะเป็น Penguin, HarperCollins , Simon & Schuster , Macmilan และ Hachette Book Group
โดย iBooks นั้นรองรับการใช้งานหนังสือมาตรฐานในรูปแบบ ePub รองรับการแสดงสารบัญ สามารถอ่านได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
iWork
โปรแกรมเด่นอีกตัวหนึ่งที่ Apple เปิดตัวพร้อมกันในงานนี้ก็คือ iWork ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับใช้งานสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร , งานตารางคำนวณ และงาน Presentation โปรแกรมชุด iWork นั้นประกอบด้วย Keynote , Pages และ Numbers โดยทั้งสามโปรแกรมจะขายแยกออกจากกัน สามารถเลือกซื้อเพียงโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งได้ สนนราคาโปรแกรมละ 9.99 เหรียญสหรัฐ ตัวโปรแกรมได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานใน iPad โดยเฉพาะ
SDK
ใน วันเดียวกันนี้ Apple ก็ปล่อย SDK ชุดใหม่ เป็น iPhone SDK 3.2 ซึ่งจะมาพร้อมกับชุดนักพัฒนาโปรแกรมสำหรับ iPad โดยจะมีคำแนะนำ , โค้ดตัวอย่าง และตัว Simulator ออกมาให้นักพัฒนาได้นำไปพัฒนาโปรแกรมกันเตรียมไว้ด้วย
ใน ส่วนของภาษาไทยนั้นจากข้อมูลในหน้าแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์ของ iPad เอง ยังไม่ระบุว่ารองรับการใช้งานภาษาไทย ดังนั้นคงต้องรอดูข้อมูลกันอีกสักพักสำหรับการแสดงผลภาษาไทย และการพิมพ์ภาษาไทยว่าจะออกมารองรับเมื่อไหร่ ?