สำหรับใครที่ใช้โน๊ตบุ๊คมาสักระยะคงทราบดีว่า นอกจากเรื่องของสเปกที่เป็นข้อจำกัดแล้ว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ การใช้งานก็จะรู้สึกว่าช้าลงเรื่อยๆ ไม่ว่าเครื่องจะมีเปกที่แรงเพียงใดหรือว่าใช้ซีพียูที่รวดเร็วมากแค่ไหน หากปล่อยให้ระบบทำงานไปแบบที่ไม่เข้าไปหมั่นตรวจเช็คให้ดี ก็ช้าได้เหมือนกัน ดังนั้นเราควรจะต้องหันมาเอาใจใส่ให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงหากต้องการให้ระบบมีความเร็วในการทำงานที่สูงขึ้น ก็ต้องอาศัยการปรับแต่งและการจัดการที่เหมาะสม ทั้งในรูปแบบของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมไปถึงหากที่สุดแล้วยังไม่สามารถตอบสนองในการทำงานได้ดีขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องอัพเกรดฮาร์ดแวร์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานนั่นเอง
หมั่นดูแล ตรวจเช็ค
การดูแลและตรวจเช็คระบบอยู่เป็นประจำ เป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการ Clear Temporary Internet หรือการทำ Disk Cleanup ที่เป็นการลบไฟล์ขยะต่างๆ ออกไป ให้มีพื้นที่ในการทำงานกลับคืนมา รวมถึงการ Scan & Defragment ที่นอกจากจะเป็นการค้นหาและตรวจเช็คไฟล์ข้อมูลตามปกติแล้ว ก็ยังรวมถึงการจัดเรียงไฟล์ให้เป็นระบบหรือจะใช้โปรแกรมช่วยในการ Defragment อย่างรวดเร็วก็มีให้เลือกมากมาย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสม
การวางแผนสำหรับการติดตั้งโปรแกรมและซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้กับระบบก็มีส่วนช่วยให้โน๊ตบุ๊คมีความคล่องตัวและทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโน๊ตบุ๊คที่มีการใช้งานมายาวนาน การอัพเดตไดรเวอร์ใหม่ให้กับระบบก็มีส่วนที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพมายขึ้น รวมถึงการพิจารณาซอฟต์แวร์บางอย่าง หากมีมากับ Windows อยู่แล้ว และเพียงพอต่อการใช้งาน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปติดตั้งโปรแกรมอื่นเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาด้วยว่าโปรแกรมที่จะเพิ่มเข้ามานั้นมีการใช้ทรัพยากรมากน้อยเพียงใด หากต้องดึงกำลังเครื่องมากๆ ก็คงจะไม่เหมาะกับการใช้งานมากเท่าไร ที่สำคัญการติดตั้ง Windows ในเวอร์ชันที่เหมาะสม ย่อมช่วยให้เกิดความคล่องตัวของโน๊ตบุ๊คได้มากกว่า เพราะในหลายครั้งจะสังเกตได้ว่าเราไม่ได้ดึงเอาศักยภาพของ Windows ที่ติดตั้งเข้าไปออกมามากนัก แถมยังเป็นการใช้งานเพียงบางส่วนเท่านั้น
ซอฟต์แวร์ปรับแต่ง Tune up
ในบางครั้งการเลือกใช้หรือเลือกโปรแกรมในการติดตั้ง อาจไม่ได้ตอบโจทย์อย่างเต็มที่ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโน๊ตบุ๊ค ซึ่งบางครั้งกลายเป็นว่าต้องผ่านขั้นตอนมากมายกว่าจะเห็นผลในการทำงาน หากเป็นเช่นนั้นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการจูนอัพหรือปรับแต่งระบบก็จะเข้ามามีส่วนในการทำงาน โดยจะทำหน้าที่ตั้งแต่ การลบไฟล์ขยะ การตั้งค่า ปิดบริการบางส่วน รวมถึงการจัดการปัญหาที่ติดขัดบางประการออกไป ซึ่งก็มีส่วนทำให้ได้ระบบเดิมที่เคยทำงานกลับคืนมา ส่งผลทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
อัพเกรดทางออกของปัญหา
เมื่อกระบวนการทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดระบบ การจูนอัพและการจัดเรียงต่างๆ เหล่านี้ ยังไม่อาจเพิ่มความเร็วในการทำงานของระบบที่มีอยู่ให้ดีขึ้นตามที่ใจต้องการ สิ่งสุดท้ายที่สามารถทำได้ก็คือ การอัพเกรดอุปกรณ์ ซึ่งก็จะทำให้โน๊ตบุ๊คมีความเร็วอย่างเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดแรม ให้มีความจุที่มากกว่าเดิมหรือใช้รุ่นที่บัสสูงขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ รองรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่หรือจะให้ดี ก็อาจจะเลือกเป็นฮาร์ดไดรฟ์รุ่นใหม่อย่าง SSD ที่มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่สูง รวมถึงไม่มีเสียงรบกวน ที่สำคัญยังใช้พลังงานน้อยอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพอย่างชัดเจนให้กับผู้ใช้โน๊ตบุ๊คนั่นเอง