กระแสความนิยมยังมีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีการแข่งขันกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุดทาง Samsung ได้มีการเปิดตัวแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ในรุ่น?Samsung ATIV Tab 3 เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตสำหรับการนำไปใช้งานที่จริงจัง หรือสามารถทำงานได้ไม่แตกต่างจากการใช้งานพีซีทั่วไป ที่สำคัญยังมาพร้อมกับน้ำหนัก 550 กรัม ที่มีความบางเพียง 8.2 มม. (เรียกได้ว่าบางที่สุดในบรรดาแท็บเล็ต Windows 8 ทีเดียว)
ในส่วนของการดีไซน์ออกแบบโดยรวมแล้ว ถือได้ว่ามีความใกล้เคียงกับแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ตระกูล Galaxy พอสมควร ที่เชื่อได้ว่าต้องโดนใจผู้ใช้งานหลายๆ คนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมาพร้อมปากกาสไตลัส S-Pen ตามจุดเด่นตามผลิตภัณฑ์สาย Galaxy Note ?ที่มีคุณสมบัติการตอบสนองการขีดเขียนที่ดีเปรียบเทียบได้เท่ากับการที่เราใช้ปากกาและกระดาษจริงๆ แล้ว (จากคุณสมบัติรับแรงกดได้ 256 ระดับ) ที่ต้องบอกว่าหาแท็บเล็ตรุ่นอื่นเปลี่ยนเทียบนัก
สเปกภายในเป็นชิปประมวลผลยอดนิยมอย่าง Intel Atom Z2760 สถาปัตยกรรม Clover Trail รุ่นล่าสุด โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 2GB และฮาร์ดดิสก์แบบแฟลชความจุ 64GB ที่เพียงพอต่อการใช้งานหลากหลายประเภท ซึ่ง?Samsung ATIV Tab 3 เป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ?10.1 นิ้ว ความละเอียด HD 1366 x 768 พิกเซล นอกจากนี้ยังมาพร้อมการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 7 ชั่วโมงด้วยกัน ส่วนการเชื่อมต่อก็ครบครัน อาทิ?micro USB 2.0, micro HDMI, micro SD Card และที่สำคัญมามีซอฟต์แวร์ติดตั้งมาให้อย่าง?Office 2013 Home & Student,?S Note, S Memo แบบฟรีๆ
สำหรับ Samsung ATIV Tab 3 ยังมีเทคโนโลยี SideSync ซึ่งถ้าคุณเป็นคนนึงที่ใช้เครื่องมือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจาก Samsung อยู่แล้ว ก็จะช่วยให้การเชื่อมต่อใช้งานระหว่างเครื่องแท็บเล็ต Windows 8 และอุปกรณ์พกพา Android ตัวอื่นๆ ของ Samsung เป็นไปได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่มียี่ห้อใดๆ ในตลาดตอนนี้ทำได้ สามารถสลับสับเปลี่ยนการใช้งานระหว่างทั้งสองเครื่องได้ง่าย เพียงแค่เชื่อมต่อเครื่องทั้งสองเข้าด้วยกันผ่านทางช่อง USB เท่านั้น จากนั้นก็สามารถควบคุมผ่านแท็บเล็ต Windows 8 ในการควบคุมเครื่องมือถือได้เลย หรือแต่กระทั่งการลากไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปปล่อยใส่อีกเครื่องหนึ่งก็ยังได้ ทำให้การใช้งานง่ายชึ้นเยอะเลยทีเดียว
สนนราคา?Samsung ATIV Tab 3 ที่มีการเปิดตัวในต่างประเทศไปแล้วอยู่ที่ 699 เหรียญสหรัฐ หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณ 21,000 บาท เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจทีเดียวเพราะถือว่าราคาไม่สูงจนเกินไปนัก อีกทั้งเชื่อได้ว่าเมื่อมาจำหน่ายในไทยแล้วราคาต้องถูกลงกว่านี้แน่นอน เอาเป็นว่าสำหรับคนที่เล็งๆ เอาไว้ก็รอติดตามผ่าน Samsung ประเทศไทยอีกนะครับ