Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

วิธีสมัคร Apple ID โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต เพื่อโหลด App ฟรี

เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่มือใหม่ iPhone, iPad, iPod Touch หรือ Apple TV รวมไปถึง Mac, MacBook ควรจะทราบเอาไว้และขาดไม่ได้เลย

เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่มือใหม่ iPhone, iPad, iPod Touch หรือ Apple TV รวมไปถึง Mac, MacBook ควรจะทราบเอาไว้และขาดไม่ได้เลย เพราะถ้าหากเราต้องการที่จะดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี หรือโปรแกรมที่ต้องจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ต้องทำการผ่านทาง App Store / iTunes Store ที่ต้องอาศัย Apple ID ทั้งนั้น ในการยืนยันการทำการดาวน์โหลด

ที่สำคัญคือ?หากเราไม่มีหรือไม่อยากใช้บัตรเครดิตก็สามารถสมัครได้ทันที?ไม่หงุดหงิดเสียอารมณ์เอาล่ะครับ มาเข้าสู่ขั้นตอนการสมัครที่ทำกันได้ง่ายๆ เลยดีกว่า?

Advertisement
?
1

Screen Shot 2556 07 31 at 5.01.25 PM

– เปิดโปรแกรม iTunes ขึ้นมา จากนั้นเลือกไปที่ iTunes Store เราก็จะพบกับหน้าตาของ App Store ถ้าสังเกตเห็นกันเราจะเห็นมุมซ้ายบนของโปรแกรมมีคำว่า Sign In อยู่ แต่แน่นอนว่าเราไม่เข้าแบบปกติอยู่แล้ว เพราะว่าเราจะสมัครโดยไม่ใช้บัตรเครดิตเป็นหลัก

?
2

Screen Shot 2556 07 31 at 5.04.58 PM

– ถัดมาให้เราเข้ามาที่แถบเมนู App Store จากนั้นก็เลื่อนหน้าต่างลงมาดู เราก็จะพบกับหมวดจัดอันดับ Free Apps อยู่ ให้เราเลือกไปที่ App ใด App หนึ่ง และคลิกไปที่ Free ทันที

?
3

Screen Shot 2556 07 31 at 5.05.52 PM

– เราก็จะเจอหน้าต่างที่ให้เราทำการล็อกอินเข้าไป ดังรูปด้านบน แต่แน่นอนว่าเรายังไม่มี Apple ID เลยซะหน่อย หรือเคยทำการสมัครมาก่อนด้วยซ้ำ เอาล่ะครับ ไม่ต้องคิดมาคลิกไปที่คำว่า Create New Account ได้ทันที

?
4

Screen Shot 2556 07 31 at 5.06.46 PM

– เราจะเจอหน้าจอต้อนรับในการสมัครบัญชีของ iTunes Store ที่ให้เราหยุดอ่านสรรพคุณซักเล็กน้อย แล้วคลิกไปที่ Continue ได้เลยครับ

?
5

Screen Shot 2556 07 31 at 5.07.52 PM

– หน้าจอถัดมาก็คือข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขและข้อตกลงของทาง Apple ซึ่งเมื่อเราได้ทำการอ่านจนหมดแล้ว (ไม่ต้องอ่านก็ได้นะครับ ^^) ก็ให้เลือกติ๊กถูกไปที่??ฉันได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว??ก็คลิกไปที่ Continue ได้เลย

?
6

Screen Shot 2556 07 31 at 5.09.03 PM

– หน้าจอต่อมาเป็นหน้าจอในการสร้าง Apple ID จริงๆ แล้วล่ะครับ ซึ่งสิ่งที่ Apple ต้องการข้อมูลจากเราก็มีดังนี้

  • Email :?อีเมลล์ที่เราใช้งานอยู่หรือที่เราต้องการไว้ใช้สมัคร
  • Password :?การตั้งรหัสผ่านสำหรับ Apple ID (โดยมีเงื่อนไขรหัสนั้นต้องมีอย่างน้อย 8 ตัว และประกอบ ตัวเลข ตัวอักษรทั้งขนาดเล็ก / ขนาดใหญ่ ปนกันอยู่)
  • Verify Password?:?คือการกรอกรหัสผ่านเดิม ที่เหมือนกับช่องข้างบนลง
  • Question :?คำถามกันลืมรหัสผ่าน (โดยเราจะตั้งคำถามอะไรก็ได้)
  • Answer :?คำตอบที่ไม่จำเป็นต้องตรงคำถามด้าบบน
  • Date of Birth :?วันเ ดือน ปีเกิด ที่เราสามารถเลือกได้ตามใจชอบ อยากแก่ อยากเด็กก็ว่ากันไปงานนี้

จากนั้นให้ติ๊กเลือกเพื่อรับข่าวสารต่างๆ ของ Apple ผ่านทางอีเมลล์ที่เราสมัคร (หรือถ้าไม่ต้องการก็ไม่ต้องติ๊กเลือก) และสุดท้ายสำหรับหน้านี้ก็คือการคลิก Continue เพื่อไปต่อ

?
7

Apple ID7

– และแล้วก็มาถึงส่วนที่สำคัญสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตสมัคร รวมไปถึงไม่มีบัตรเครดิตอยู่แล้ว ส่วนใครใคร่สมัครด้วยบัตรเครดิตก็สามารถดำเนินการได้ทันที เรียกได้ว่า Happy กันทั้ง 2 ฝ่าย โดยสิ่งที่ทาง Apple ต้องการข้อมูลมีดังนี้

  • Payment Method :?เลือกวิธีชำระเงินให้เราเลือก None ไปเลยครับสำหรับคนที่ไม่มีบัตรเครดิตหรืออยากใช้แต่ของฟรี ถ้ามีและต้องการใช้ก็เลือกไปตามบัตรเครดิตนั้นๆ ได้ทันทีครับ
  • Titile :?คำนำหน้า
  • First Name :?ชื่อ
  • Last Name :?นามสกุล
  • Address :?ที่อยู่
  • Town :?เมือง
  • Postcode :?รหัสไปรษณีย์
  • Phone :?เบอร์โทรศัพท์

ข้อมูลทั้งหมดนี้ เราสามารถที่จะกรอกใส่ไปตามสะดวก เพราะแก้ไขในเว็บอีกทีก็ทำได้ ตอนนี้ให้สมัครผ่านไปก่อนหรือใครจะใส่ให้เรียบร้อยตรงกับความจริงก็ไม่ว่ากัน และเมื่อกรอกครบหมดแล้วก็คลิกคำว่า Continue ได้เลยครับ

?
8

Apple ID8

– หน้าต่อมาเราจะพบกับข้อความที่แจ้งให้เราไปทำการเช็คอีเมลเพื่อยืนยันการสมัครครับ โดยเรากดสามารถกด Done ได้ทันที ซึ่งเราก็เสร็จในส่วน iTunes ตรงจุดนี้เลย ไปเปิดเว็บบราวเซอร์เพื่อดูอีเมลจาก Apple กันดีกว่า

?
9

Apple ID9

– และเราจะพบเจอกับอีเมลลฉบับหนึ่งที่ส่งจาก Apple จากนั้นเราก็คลิกไปที่คำว่า Verify Now ได้เลย แล้วเราจะถูกนำเข้าไปสู่ เว็บไซต์ของ Apple ครับ

?
10

Apple ID10

– ซึ่งในหน้าเว็บไซต์นั้นจะมีการให้เรากรอก Apple ID พร้อมกับรหัสผ่าน เพื่อยืนยันอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นเจ้าของอีเมลดังกล่าวจริงๆ และเป็นการยืนยันอีกว่าเป็นเจ้าของ Apple ID นี้จริงๆ

?
11

Apple ID11

– จากนั้นเราก็จะพบกับหน้าสุดท้ายที่แจ้งว่า Apple ID ของเราพร้อมใช้งานแล้ว สามารถไปดาวน์โหลดได้ที่ iTunes Store หรือ App Store ได้ทันที ซึ่งเมื่อเราคลิกไปที่ Return to The Store ระบบจะทำการนำเราเข้ามายังโปรแกรม iTunes พร้อมกับล็อกอินอัตโนมัติให้พร้อมสำหรับการดาวน์โหลด App ได้ตามต้องการครับ

Screen Shot 2556 07 31 at 5.15.42 PM1?

หวังว่าทั้ง 11 ขั้นตอนการสมัคร Apple ID ที่ทาง NotebookSPEC.com ได้แนะนำไป คงเป็นประโยชน์ให้กับมือใหม่ iPhone, iPad, iPod Touch และ Mac ทุกๆ ท่านนะครับ หลังจากนี้ถ้าใครมีปัญหาอะไรหรือติดขัดตรงไหนก็สามารถโพสสอบถามกันได้ทันที และจากนี้ไปเราจะทยอยส่งบทความที่เป็นประโยชน์กับแฟนๆ Apple ให้มากยิ่งขึ้นครับ

IMG 0004

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Tips & Tricks

กำแพงภาษาอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ใครหลายคนไม่อยากเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพราะกลัวจะสื่อสารไม่ได้คุยกับใครไม่รู้เรื่อง แต่ในยุคนี้ก็มีแอพแปลภาษาให้โหลดไปติดตั้งในสมาร์ทโฟนเอาไว้สื่อสารกับชาวต่างชาติได้ง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็สามารถพูดสื่อสารกันได้ตั้งแต่ถามเส้นทางการเดินทางไปจนติดต่อคุยงานกันในยามจำเป็นก็ยังได้ แม้จะไม่ถึงระดับของล่ามที่ฝึกฝนภาษานั้นมาเป็นเวลานานจนเชี่ยวชาญแต่ในนาทีสำคัญมันก็ช่วยแก้ปัญหาให้เราได้แน่นอนแถมส่วนใหญ่เป็นแอพฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือถ้าจ่ายค่าบริการเพิ่มก็ได้ฟีเจอร์มาเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกหลายอย่าง ถ้าพูดถึงแอพฯ เหล่านี้เมื่อไหร่ เป็นใครก็ต้องคิดถึง Google Translate ก่อนเป็นชื่อแรกแน่นอนแ แต่บางประเทศ เช่น จีนแผ่นดินใหญ่ปลายทางยอดนิยมของชาวไทยตอนนี้หรือรัสเซียก็ไม่สามารถใช้ Google ได้ ยกเว้นจะ Roaming สัญญาณเน็ตเข้าไป ก็มีทางออกโดยหันมาใช้แอพฯ เฉพาะของที่นั่นแทน ซึ่งใช้งานได้ดีพอกันและออกแบบมาเพื่อภาษานั้นโดยเฉพาะด้วย ทำให้การแปลภาษาลื่นไหลสื่อสารกับผู้คนได้ต่อเนื่อง แถมแอพฯ เหล่านี้ก็พัฒนาตัวเองให้แปลเอกสารและไฟล์...

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

Tips & Tricks

นอกจากใช้เป็นโปรแกรมแชตด้วยเสียงของเกมเมอร์เวลาเล่นเกมแล้ว ถ้านั่งเล่นเกมคนเดียวแล้วอยากฟังเพลงตอนเพื่อนไม่อยู่ก็มีบอทเพลง Discord เป็นเพื่อนคอยเปิดเพลงให้ฟังได้ฟรี หรือถ้าไม่ได้เล่นเกมแต่อยากเข้ามานั่งฟังเพลงแล้วนั่งอ่านหนังสือก็เรียกบอทเข้ามาเปิดเพลงได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีบอทหลายตัวให้โหลดไปใช้งานได้ฟรีไม่ว่าจะเป็นบอทเปิดเพลงทั่วไปหรือเฉพาะแนวเพลงนั้นก็มีให้เลือกตามชอบ บอทเพลง Discord ใช้งานยากหรือเปล่า? Discord สามารถโหลดมาติดตั้งในคอมพิวเตอร์หรือล็อคอินใช้งานผ่านเบราเซอร์ก็ได้ นอกจากใช้งานในคอมพิวเตอร์แล้ว Discord ก็มีแอปฯ ให้โหลดมาติดตั้งในสมาร์ทโฟนได้ มีผู้พัฒนาบอทเพลงใน Discord หลากหลายเจ้า เน้นสไตล์เพลงให้เลือกหลากหลายแบบ การเริ่มสั่งบอท Discord ในแชนแนล ให้เริ่มจากเครื่องหมายทับ (Forward...

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก