การประชุมภายในบริษัทของ Microsoft เกี่ยวกับสินค้าต่างๆ นั้นมีประเด็นน่าสนใจมากมายทีเดียว และทางทีมงาน The Verge เองก็ได้นำข่าวดังกล่าวมาเผยให้ทราบว่าในการประชุมครั้งนี้ที่นำโดยสตีฟ บัลเมอร์ CEO ของ Microsoft นั้นมีเรื่องเกี่ยวกับสินค้าใหม่ของ Microsoft มากมายทีเดียว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะเป็นเรื่องจริงเท็จเท่าไหร่ โดยสรุปประเด็นได้ดังนี้
ชายคนนี้คือสตีฟ บัลเมอร์ผู้กุมบังเหียนของ Microsoft ในปัจจุบันอยู่
-
ประเด็นแรกนั้นคือเรื่องของ Windows Phone ที่ตอนนี้สตีฟใส่ใจเรื่องการนำแอพฯ ยอดนิยมอย่าง Instagram มาลงใน Windows Phone ให้เร็วที่สุด โดยเขาไม่ใส่ใจเรื่องจำนวนของแอพฯ ว่าต้องมีมากเท่าไหร่ เพราะแอพฯ นี้สำคัญกว่ามาก
-
เนื่องด้วยยอดการผลิต Microsoft Surface RT นั้นมีมากเกินไปผิดกับความต้องการของตลาดที่น้อยจนน่าใจหาย ทำให้ Microsoft ต้องอัดฉีดทุนเข้าไปเพื่อทำยอดจำหน่ายเพิ่มให้ได้ ทำให้ Microsoft สูญเงินไปกว่า 900 ล้านดอลล่าร์ (ราว 28,000 ล้านบาท)
-
ตอนนี้ Microsoft กำลังพัฒนา Microsoft Surface RT รุ่นใหม่อยู่ ซึ่งพนักงานในบริษัทเองก็มีเสียงตอบรับเกี่ยวกับเจ้า Surface RT รุ่นใหม่นี้ไปในแนวทางที่ดี แต่ไม่ได้รับการเผยเรื่องสเปกออกมามากนัก แต่มีคนคาดการณ์ว่าจะติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 800 มาให้
-
ยอดจำหน่ายของอุปกรณ์ติดตั้ง Windows 8, Windows 8.1 ในตลาดตอนนี้ถือว่าทำได้ไม่น่าประทับใจ ซึ่งคาดว่าเกิดจากมีสินค้าในตลาดน้อยเกินไป ทาง Microsoft จึงเตรียมอัดฉีดสินค้าพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 8, Windows 8.1 เข้าตลาดให้มากขึ้น
-
Windows 8.1 ที่กำลังจะเปิดตัวนั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่เกิดจากการเก็บข้อมูลความต้องการของผู้ใช้ว่าถ้าจะปรับปรุง Windows 8 ให้ดีขึ้นนั้นควรทำอย่างไร ซึ่งเสียงส่วนใหญ่นั้นเรียกร้องให้ปุ่ม Start กลับมาจึงทำให้ Windows 8.1 จะมีปุ่ม Start กลับมาให้เช่นเดิม
-
Microsoft จะมุ่งการทำตลาดไปในกลุ่มของบริการสำหรับองค์กร (Professional Service) ให้มากเป็นพิเศษภายในปีหน้า และไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้จะสร้างแรงโมเมนตั้มให้หนักยิ่งขึ้น
ถือได้ว่าตอนนี้ทาง Microsoft เองก็ไม่ปล่อยให้ปัญหาค้างคาเอาไว้และปรับทิศทางขององค์กรไปในแนวทางอื่นๆ เพิ่ม ซึ่งหัวข้อการประชุมนี้แม้นักข่าวจะสัมภาษณ์แต่โฆษกของทาง Microsoft ยังไม่ได้ตอบให้ชัดเจนแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอดูว่าเรื่องในการประชุมครั้งนี้จะจริงเท็จเท่าไหร่จากการกระทำของ Microsoft ต่อไป
ที่มา : theverge