สำหรับอุปกรณ์ Wireless Router นั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามามีความสำคัญในการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่มากทีเดียว เอาตั้งแต่การใช้งานภายในบ้าน ไปจนถึงการทำงานในสำนักงาน เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการจ่ายสัญญาณ WiFi ไปยังจุดต่างๆ ภายในบริเวณที่ต้องการได้อย่างทั่วถึง แต่การที่จะเลือก Wireless Router ให้ได้ตรงกับความต้องการนั้น ก็ต้องดูกันในหลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมาตรฐาน การเชื่อมต่อและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณ ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกอยู่มากมาย แต่แบบไหนจะเหมาะกับการใช้งาน ก็ต้องพิจารณากันให้รอบด้าน
การเลือกใช้ Wireless Router สิ่งแรกที่ควรจะต้องพิจารณาก็คือ เลือกเฉพาะ Wireless Router เพียงอย่างเดียวหรือเปล่า ในบางกรณีหากมี ADSL Modem อยู่แล้ว ก็อาจจะเลือกแค่ Wireless Router มาใช้ก็ได้หรือต้องการเพิ่มช่องทางในการเชื่อมต่อจาก ADSL Router ที่มีอยู่เดิมก็พอ แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่าอุปกรณ์ที่เป็น ADSL Wireless Router นั้นสนนราคาก็แทบไม่ได้ต่างจาก Wireless Router ทั่วไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้เอง ว่าจะใช้แบบใดดี
เป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นปัจจัยต้นๆ ในการเลือกใช้ Wireless router เพราะเป็นสิ่งที่จะให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันมีมาตรฐานที่ออกมาใช้ร่วมกันในระบบเครือข่ายไร้สายอยู่หลายมาตรฐาน ตั้งแต่ 802.11a/b/g/n ณ เวลานี้ก็ต้องบอกว่าส่วนใหญ่ก็รองรับสัญญาณดังกล่าวด้วยกันทั้งหมด เพียงแต่บางรุ่Draft N หรือบางรุ่นเป็น Wireless N แล้ว หรือบางรุ่นสามารถจ่ายสัญญาณแบบ Dual Band ได้ทั้งความถี่ 2.4GHz และ 5GHz ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับราคาและความเหมาะสมในการใช้งานของคุณเอง
นอกจากเรื่องของพอร์ตในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ซึ่งบางรุ่นจะมีพอร์ตสำหรับต่อพ่วงกับ Ethernet LAN มาให้ 4 ช่องเป็นมาตรฐานแล้ว ก็ยังเพิ่มพอร์ต USB มาให้สำหรับการต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างเช่น พรินเตอร์หรือแฟลชไดรฟ์เพื่อใช้ในการแชร์ข้อมูลได้อีกด้วย? ในเรื่องของลูกเล่น ก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ Wireless Router น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเสาอากาศหรือบางรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีแบบ MIMO ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในเรื่องของการกระจายสัญญาณได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากเสาสัญญาณที่มีให้ตั้งแต่ 2-3 เสานั่นเอง
นั่นหมายถึง Wireless Router ที่ซื้อมานั้น ก็ควรจะมีเทคโนโลยีเข้ากับเครื่องลูกข่ายอื่นๆ ที่นำมาใช้ร่วมกันได้ โดยเฉพาะรูปแบบการเชื่อมต่อ อย่างเช่น ซื้อรุ่นที่เป็นมาตรฐาน N มาใช้ ก็ต้องหมายความว่า Wireless Adaptor หรือระบบปลายทางที่เชื่อมต่อเข้ามา ก็ควรจะสนับสนุนมาตรฐาน N ได้เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เป็นเรื่องที่สำคัญมากทีเดียว เพราะการเซ็ตค่าที่ง่ายก็ยิ่งทำให้อุปกรณ์น่าใช้ยิ่งขึ้น เพราะบางค่ายออกแบบซอฟต์แวร์ให้สามารถเข้าปรับค่าต่างๆ เพื่อทำการ Config ได้ในไม่กี่ขั้นตอน แต่บางรุ่นนั้นอาจจะต้องอาศัยความชำนาญในการตั้งค่าพอสมควร บางทีมีรายละเอียดมากจนเกินไป เมื่อจะเข้าไปตั้งค่าอื่นใดเป็นพิเศษก็ดูจะยุ่งยาก ดังนั้นก็อาจจะต้องให้ความสนใจในเรื่องความยากง่ายนี้ด้วย เอาง่ายๆ ว่าในกรณีที่คุณเป็นคนตั้งค่าอุปกรณ์ให้กับเครื่องของเพื่อนหรือเครื่องที่ใช้ภายในบ้าน เวลาที่คุณไม่อยู่ คนอื่นก็น่าจะตั้งค่าต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน?
เรื่องความปลอดภัยก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่อย่างไรก็ดีอุปกรณ์ที่เป็น Wireless Adaptor ส่วนใหญ่ก็จะรองรับมาตรฐานการเข้ารหัสในลักษณะเดียวกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น WEP, WPA หรือ WPA2 รวมถึงการกำหนดค่า Mac Address ซึ่งหากเป็นผู้ใช้ตามบ้าน การมีระบบ Wired Equivalent Privacy หรือ WEP ในมาตรฐาน 64/128-bit ร่วมกับระบบ MAC Address Filtering ก็ดูจะเพียงพอต่อการป้องกันจากผู้ไม่หวังดีหรือเข้ามาแอบใช้งานอินเทอร์เน็ตในบ้านได้แล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการแบบง่ายๆ ในการที่จะเลือก Wireless Router เพื่อนำมาใช้งาน ซึ่งการเลือกใช้นั้น ก็คงต้องมองให้ละเอียดถี่ถ้วนสักนิด เพราะในปัจจุบันมีอุปกรณ์ดังกล่าวนี้มากมายในท้องตลาด ซึ่งบางรุ่นก็ใช้วิธีนำเอาเทคโนโลยีเฉพาะตัวมาเป็นจุดขายหรือบางรายก็จัดเต็มกับมาตรฐานสัญญาณต่างๆ มาให้ ดังนั้นดูให้เหมาะกับการใช้งานกับอุปกรณ์รอบข้างและการใช้ในชีวิตประจำวันของคุณเป็นหลัก