Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook News

ก้าวแรกของ iPhone (2)

App Store และ 3rd Party Application
เรื่องนี้จะว่าไปก็ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องที่มีอยู่โดยตรงใน iPhone แต่เป็นสิ่งนึงที่ทำให้ iPhone แตกต่างจากมือถืออื่นในตลาดขณะนี้ค่อนข้างมาก หลังจากออก iPhone มาพักนึงและมีกระแสเรียกร้องเกี่ยวกับ 3rd Party Application ก็ทำให้ Apple ปรับแผนเรื่อง Application สำหรับ iPhone เดิมทีนั้น Apple กำหนดให้ Application สำหรับ iPhone มีเพียง Web Application เท่านั้น เรียกว่าจะให้ทุกอย่างทำงานผ่าน Mobile Safari เขียน AJAX เพื่อใช้งานเป็น Web App กันอีกที แต่ในที่สุดแล้วเมื่อมี Hacker ส่วนหนึ่งพยายามที่จะเจาะเข้าไประบบเพื่อเขียนโปรแกรมเองกันขึ้นมา แล้วปรากฎว่าเขียนได้ และยังใช้งานได้อีกด้วย ในที่สุด Apple ก็ต้องเปิดตัว SDK และจัดการรวมกลุ่มนักพัฒนาขึ้นมา โดยจัดเป็นโครงการอย่างถูกต้องเป็นเรื่องเป็นราว มีการลงทะเบียนนักพัฒนา มีการจัดอบรม ทำข้อตกลงต่างๆ ณ ตอนนี้ Apple ไม่ได้จัดวางตำแหน่งของ iPhone ไว้เป็นเพียงโทรศัพท์มือถือรุ่นหนึ่งเท่านั้น แต่มันได้กลายเป็น Mobile Platform ๆ หนึ่งขึ้นมาแล้ว

Advertisement

ปัจจุบันมีทั้งโปรแกรม ทั้งเกมส์มากมายใน App Store (แม้ว่าที่เจ๋งๆจริงๆจะมีเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่มากเมื่อเทียบกับทั้งหมด แต่ก็ยังเยอะอยู่ดี) เรื่องการเป็น Mobile Gaming Platform นั้น iPhone ทำได้ล้ำหน้าไปกว่ามือถือค่ายอื่นเยอะมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณสมบัติกราฟฟิก เรื่องของนำเอา Multi-touch และ Accelerometer มาใช้ในการควบคุมในการเล่น ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างเกมส์ ที่มีประสบการณ์การเล่นที่แตกต่างจากเครื่องเกมส์โดยตรง ในตลาดเกมส์พกพาได้ ผมเองก็ซื้อมาเล่นหลายเกมส์แล้ว Rolando , Katamari , SimCity , Bomberman , Brothers In Arm , Field Runners , Flick Fishing , Let?s Golf , MONOPOLY , Real Soccer 2009 , Super Monkey Ball ฯลฯ เยอะมากพิมพ์ไม่หวาดไม่ไหว

ส่วนโปรแกรมใช้งานก็มีการพัฒนาไปหลากหลาย แม้ SDK ที่ Apple ปล่อยออกมาจะมีข้อกำหนดหลายอย่างจำกัดการใช้งานไว้ แต่ในปัจจุบันก็มีการพัฒนาโปรแกรมใช้งานหลากหลายรูปแบบออกมามากมาย

ในขณะเดียวกัน App Store ก็ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้ และผู้เขียนโปรแกรม เมื่อ App Store มีผู้ใช้งาน มีคนโหลดโปรแกรมเพิ่มขึ้น คนเขียนโปรแกรมก็เห็นช่องทางในการทำรายได้จากตลาดตรงนี้ ก็เริ่มมาพัฒนาโปรแกรมสำหรับ iPhone (และ iPod touch) ผ่านทาง App Store กันเพิ่มมากขึ้น และเมื่อมีคนพัฒนาโปรแกรมกันมากขึ้น ก็ทำให้ iPhone มีโปรแกรมให้ผู้ใช้ใช้งานกันเพิ่มขึ้น ดูๆไปก็คล้ายกันกับในตลาด PC ที่มีคนใช้ Windows มาก ทำให้มีคนพัฒนาโปรแกรม พัฒนาเกมส์สำหรับ Windows เยอะ พอเกมส์ และโปรแกรมใน Windows เยอะ หลายคนก็บอกว่าโปรแกรมใน Windows มีเยอะ น่าใช้กว่า Mac (ทั้งๆที่จริงๆโปรแกรมใน Mac ก็มีไม่ใช่น้อยๆ) สิ่งนั้นได้เกิดขึ้นแล้วกับ Platform นี้ของ iPhone

อนาคตของทั้งเกมส์ และโปรแกรม ตามที่ Apple ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับ iPhone OS รุ่น 3.0 ที่จะออกในช่วงกลางปีนี้ มีหลายสิ่งที่ถูกพัฒนาเพิ่มเข้ามา ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถเขียนโปรแกรมที่หลากหลายได้มากขึ้น สามารถเขียนโปรแกรมใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมได้ สามารถเขียนโปรแกรมเพื่อขาย item จากภายในโปรแกรมได้ สามารถเขียนโปรแกรมที่ใช้งาน GPS แบบ Turn-by-Turn ได้ ฯลฯ โครงสร้างธุรกิจในการสร้าง Platform ขึ้นมาแบบนี้ ไม่ใช่ Apple ทำเป็นรายแรก ก่อนหน้านี้ค่าย Qualcomm ซึ่งพัฒนาโทรศัพท์ในระบบ CDMA ก็มีการพัฒนาระบบ BREW Marketplace มาก่อนแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องมาจากหลายปัจจัย ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของตัวเครื่องที่ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอ ตัวเครื่องมือในการพัฒนาใช้งานยาก ค่าใช้จ่ายและขั้นตอนในการพัฒนาไม่สะดวกต่อการเริ่มต้น ในช่วงนั้นไม่มีใครคิดว่าระบบที่มีเป็น Platform ทั้งชุดแบบนี้จะเกิดได้ แต่หลังจากความสำเร็จของ iPhone และ App Store ปรากฎว่าแทบจะทุกค่ายมือถือระดับบน ต่างมีแผนสร้าง App Store ของตัวเองกันทั้งสิ้น ส่วนรายไหนจะประสบความสำเร็จกันบ้างก็ต้องติดตามข่าวคราวกันต่อไป

ความเป็น iPod

เมื่อ Apple นำเอาความเป็น iPod มาต่อยอดให้กับ iPhone สิ่งนั้นจึงกลายเป็นจุดแข็งของ iPhone ไปในทันทีนับตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัว การใช้งานเป็น iPod เพื่อฟังเพลง หรือดูหนัง สำหรับ iPhone นั้นทำได้ดีไม่แพ้ iPod รุ่นอื่นๆก่อนหน้า แม้ว่าโดยตัวอุปกรณ์แล้วการใช้งานจะแตกต่างกัน แต่ด้วยการออกแบบการใช้งาน ก็ยังคงไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ไม่ยากที่จะเรียนรู้การใช้งาน ไม่ว่าจะสำหรับคนที่เคยใช้ iPod มาก่อนหรือไม่ และความเสถียรของการเล่นเพลง เล่นไฟล์ VDO ก็ทำได้ในระดับที่เรียกว่าดีมากเลยทีเดียว ผมลองฟังเพลง (192k) ต่อเนื่องเปิดทิ้งไว้ยาวๆ iPhone สามารถเล่นได้ถึง 29 ชั่วโมงกว่า มากกว่าที่เคลมไว้ 24 ชั่วโมงตามเอกสารคู่มือถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ไอ้การดูหนังเรื่องยาวๆซักเรื่อง ให้จบภายในรอบแบตที่ชาร์จเต็มจึงเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับ iPhone ถ้าถามว่ามันขาดอะไร ก็เห็นจะเป็นเรื่องของ codec ที่ Apple รองรับเพียงแต่ codec ที่เขารองรับเท่านั้น (ซึ่งมันก็แน่อยู่แล้ว) คือมันไม่รองรับไฟล์ WMA , WMV , OGG อะไรพวกนั้น ต้องมีการแปลงกันก่อนเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ใช้ iPod , iPhone เป็นประจำ ปกติก็จะใช้ codec ที่ใช้กับเครื่องของเราได้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ก่อนจาก
จากที่เล่ามาข้างต้น บางท่านอาจจะคิดว่าผมเชียร์ iPhone ถูกต้องครับ ไม่เชียร์แล้วผมจะเขียนถึงทำไม 555 แหม… นิดนึงครับมันก็มีกันบ้าง แม้ว่าจะมีข้อดีหลายอย่างที่ผมมองเห็นใน iPhone แต่ก็ไม่ใช่โทรศัพท์เทพมาจากไหน จากที่ได้สอบถามหลายท่านที่ยังไม่โดนใจ iPhone นัก เขาก็บอกกันว่ายังมีบางจุดที่ iPhone ขาดไปสำหรับการใช้งานบางอย่าง อย่างเช่นการที่มัน ก๊อปปี้ข้อความระหว่างโปรแกรมไม่ได้ (ซึ่งใน iPhone OS รุ่นใหม่จะทำได้แล้ว) การที่มันส่ง MMS ไม่ได้ (ใน iPhone OS รุ่นใหม่จะทำได้เช่นกัน แต่ต้องใช้ผ่าน 3G ที่บ้านเรายังไม่มี) การที่มันรับส่ง Bluetooth กับเครื่องอื่นๆไม่ได้เต็มที่ (ใน iPhone OS รุ่นใหม่จะใช้งาน Bluetooth ได้มากขึ้น) การที่มันมีกล้องความละเอียดไม่เยอะเท่าชาวบ้าน หรือการที่มันถ่าย VDO ไม่ได้ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บางคนไม่เลือก iPhone ไว้ใช้งาน

ส่วนตัวแล้วผมเองมองว่าจุดแข็งที่ iPhone มีที่เครื่องยี่ห้ออื่นไม่มี เป็นจุดแข็งที่มีผลต่อการใช้งานจริงๆมากกว่า รวมถึงบางอย่างผมเชื่อว่ามันน่าจะปรับปรุงได้ด้วยการอัพเกรดซอฟท์แวร์ และเมื่อถึงวันที่ iPhone OS 3.0 ออกมาจริงๆ อะไรหลายอย่างที่ผมรอคอยอยู่ก็จะมาเสียที ถึงวันนั้นข้อที่ iPhone ทำไม่ได้เมื่อเทียบกับมือถืออื่นๆ ก็จะลดลง แต่ในทางกลับกันไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ข้อได้เปรียบต่างๆของ iPhone ที่มีอยู่ในวันนี้ ถึงวันนั้นยี่ห้ออื่นจะตามมาได้ทันมากน้อยแค่ไหน

สำหรับในไทยนั้น iPhone มี True Move นำเข้ามาทำตลาด ข่าวคราวก็คงจะอย่างที่ได้ทราบกันไปแล้ว นอกจากนั้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเหมือนจะได้ยินว่า AIS มีการนำมาทำตลาดเฉพาะกลุ่มอยู่เหมือนกัน (คนในแวดวงเขาแซวกันว่าเป็นเครื่องหิ้วโดย AIS) แต่ไม่ได้เป็นการทำตลาดในวงกว้าง สนนราคา iPhone ของ True Move เมื่อเทียบกับเครื่องหิ้วแล้วผมว่าสูสีกัน เครื่องหิ้วบางร้านอาจจะถูกกว่าอยู่บ้าง แต่ในเรื่องของการรับประกัน ส่วนตัวแล้วผมมองว่าของพวกนี้ซื้อประกันศูนย์น่าจะสบายใจกว่า ซึ่งอานิสงส์นึงจากการที่มีการนำ iPhone เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ก็คืออย่างที่พิมพ์ไปแล้วข้างต้นนั่นแหละครับ ก็คือว่า iPhone รองรับการอ่านภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะรองรับการพิมพ์ภาษาไทย พร้อมทั้งจะมี เมนู รวมถึงข้อความติดต่อกับผู้ใช้เป็นภาษาไทยเต็มตัวแล้วใน iPhone OS รุ่น 3.0 ที่น่าจะออกช่วงกลางปี รออีกไม่นาน…

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก