Connect with us

Hi, what are you looking for?

Accessories review

Kingston HyperX Predator Review [แฟลชไดรฟ์ไซส์ 512GB]

แฟลชไดรฟ์เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ สำหรับคนที่ต้องการบันทึกข้อมูลเก็บเอาไว้เพราะทั้งพกพาสะดวกและมีน้ำหนักไม่มากนัก โดยในตอนนี้เองก็มีหลากหลายความจุตั้งแต่ 4 GB จนถึง 64 GB แต่ถ้าความจุ 64 GB ยังไม่จุใจล่ะก็ Kingston เองก็มีแฟลชไดรฟ์รุ่น Kingston HyperX Predator แฟลชไดรฟ์ความจุสูงถึง 512 GB และ 1TB สำหรับผู้ที่มีไฟล์สำคัญจำนวนมากและต้องการความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงอีกด้วย โดยตอนนี้มีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วกับราคาราวสองหมื่นบาทและหาซื้อได้จากผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำ ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน Notebookspec จะมารีวิวแฟลชไดรฟ์?Kingston HyperX Predator ให้ได้ชมกัน

Design

Kingston Hyper X Predator Review 001 Kingston Hyper X Predator Review 002

เนื่องด้วยเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ Hi-End จากผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Kingston แล้ว บรรจุภัณฑ์ของ Kingston HyperX Predator จึงเป็นกล่องเหล็กสกรีนชื่อรุ่นเอาไว้ด้านหน้ากล่อง พร้อมระบุมาตรฐานการเชื่อมต่อ USB 3.0 กับความจุเอาไว้อีกด้วย ภายในจะบุโฟมตัดเข้ารูปเป็นช่องสำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆ ได้แบบพอดีๆ ส่วนภายในกล่องนั้นนอกจากแฟลชไดรฟ์แล้วจะมีสายเคเบิ้ล USB 3.0 พร้อมกับพวงกุญแจอีกหนึ่งชุดเพื่อคล้องเข้ากับแฟลชไดรฟ์

Advertisement

Kingston Hyper X Predator Review 005

Kingston Hyper X Predator Review 007 Kingston Hyper X Predator Review 008

แฟลชไดรฟ์จะมีขนาดใหญ่กว่าแฟลชไดรฟ์ขนาดปกติเนื่องด้วยความจุขนาด 512 GB ทำให้ต้องมีชิ้นส่วนสำหรับบันทึกข้อมูลมากกว่าแฟลชไดรฟ์ทั่วไปพอควร (คาดว่าเป็นชิป 128GB มาเรียงกัน 4 ชิป) วัสดุภายนอกจะเป็นอะลูมิเนียมสีเงินพร้อมกับพลาสติก เมื่อมองด้านข้างจะเห็นว่ามีเส้นร่องอยู่ เวลาต้องการใช้บันทึกข้อมูลก็จัดการสไลด์ให้หัวเชื่อมต่อยื่นออกมา ส่วนท้ายของแฟลชไดรฟ์จะมีห่วงสำหรับห้อยกับพวงกุญแจที่มาในชุดจำหน่ายพร้อมสลักชื่อ ?Kingston? เอาไว้

Kingston Hyper X Predator Review 003 Kingston Hyper X Predator Review 004

พวงกุญแจที่มีมาให้ในชุดจำหน่ายนั้นจะทำมาจากอะลูมิเนียมเช่นเดียวกับแฟลชไดรฟ์ โดยจะมีส่วนที่เป็นหูร้อยกับตัวแฟลชไดรฟ์เป็นห่วงสำหรับห้อยพวงกุญแจและอีกด้านจะเป็นหูตะขอสปริงสำหรับห้อยกับหูร้อยเข็มขัดของกางเกงหรือกระเป๋าได้ด้วยโดยสปริงจะค่อนข้างแข็งเล็กน้อยไม่ให้หลุดง่าย เวลาเกี่ยวกับสิ่งของนั้นเราสามารถดึงส่วนของหูตะขอออกมาแล้วหมุนเล็กน้อยให้คานเอาไว้กับชิ้นส่วนโลหะวงรีก่อนนำไปคล้องกับข้าวของอื่นๆ ได้

Kingston Hyper X Predator Review 006 Kingston Hyper X Predator Review 009

พอร์ต USB 3.0 สีน้ำเงินสำหรับรับส่งข้อมูลของแฟลชไดรฟ์ชิ้นนี้ปกติปลายจะอยู่ระดับเดียวกับส่วนอะลูมิเนียม เวลาใช้งานนั้นต้องสไลด์ออกมาเพื่อถ่ายโอนข้อมูลและเลื่อนเก็บเข้าไปได้

Kingston Hyper X Predator Review 014

เวลาถ่ายโอนข้อมูลแล้ว ไฟแสดงสถานะการทำงานสีน้ำเงินที่ติดตั้งเอาไว้ข้างๆ พอมีการถ่ายโอนข้อมูลแล้ว ไฟสีน้ำเงินจะกระพริบเพื่อบอกให้ทราบว่าขณะนี้กำลังถ่ายโอนข้อมูลระหว่างแฟลชไดรฟ์กับตัวเครื่องอยู่

Kingston Hyper X Predator Review 016

Kingston Hyper X Predator Review 017 Kingston Hyper X Predator Review 018
Kingston Hyper X Predator Review 012 Kingston Hyper X Predator Review 013

สำหรับการเชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คนั้น ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดปกติก็สามารถเชื่อมต่อได้โดยไม่มีปัญหาเพราะความหนาของ Kingston HyperX Predator นั้นจะหนาเท่ากับขนาดของตัวเครื่องพอดี แต่ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ออกแบบให้ตัวเครื่องบางเช่น Ultrabook หรืออาจจะเป็น MacBook Pro with Retina Display ที่เป็นตัวอย่างในภาพจะเห็นได้ว่าเวลาเชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์เข้ากับโน๊ตบุ๊คโดยตรงแล้วแฟลชไดรฟ์จะหนากว่าพอสมควร ซึ่งถ้าไม่ได้ตั้งโน๊ตบุ๊คเอาไว้บนแท่นรองโน๊ตบุ๊คก็จะทำให้พอร์ตเชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์นูนจนเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นเวลาเชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์เข้ากับโน๊ตบุ๊คบางเบาล่ะก็ ถ้าไม่ใช้สายต่อ USB 3.0 ที่มีมาในชุดจำหน่ายเป็นตัวกลางเชื่อมต่อ ก็ควรจะหาสิ่งของมารองด้านใต้โน๊ตบุ๊คให้มีพื้นที่ว่างระหว่างแฟลชไดรฟ์กับพื้นโต๊ะสักนิดเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายลงไปได้

Kingston Hyper X Predator Review 010

ส่วนน้ำหนักของแฟลชไดรฟ์อันนี้จะอยู่ที่ 63 กรัมด้วยกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแฟลชไดรฟ์ขนาดปกติที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดตอนนี้จะมีน้ำหนักอยู่ราว 5-15 กรัมโดยประมาณให้พกพาได้สะดวก จึงถือได้ว่า Kingston HyperX Predator นั้นเป็นแฟลชไดรฟ์ที่มีน้ำหนักมากอันหนึ่งทีเดียว คาดว่าเป็นเพราะวัสดุอะลูมิเนียมที่นำมาประกอบตัวแฟลชไดรฟ์นั่นเอง

 

Performance

Kingston Hyper X Predator Review 011

มาตรฐานการเชื่อมต่อของ Kingston HyperX Predator นั้นจะเป็น USB 3.0 ซึ่งจะเห็นได้ว่าขั้วเชื่อมต่อจะเป็นสีน้ำเงินซึ่งจะสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วที่สุดเมื่อเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB 3.0 เหมือนกัน แต่ก็รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB 2.0 ได้เช่นกันแต่ความเร็วการถ่ายโอนจะทำได้เต็มที่ตามที่มาตรฐานความเร็วของ USB 2.0 รองรับเท่านั้น

Space

ส่วนของพื้นที่เก็บข้อมูลนั้นจะมีให้ใช้จริงอยู่ 478 GB เพราะการคำนวนพื้นที่ของคอมพิวเตอร์ด้วยเลขฐานสองนั่นเอง แต่ปกติแล้วพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 478 GB นั้นก็ถือได้ว่าพื้นที่สำหรับบันทึกข้อมูลก็มีให้ใช้อยู่มากทีเดียว

Screen Shot 2556-06-28 at 1.58.05 PM

จากการทดสอบกับโปรแกรม Disk Speed Test ในระบบปฏิบัติการ OS X แล้ว ความเร็วการเขียน (Write) อยู่ที่ 173 MB/s ส่วนความเร็วการอ่าน (Read) อยู่ที่ 269 MB/s ด้วยกัน จะสังเกตได้ว่าความเร็วการอ่าน (Read) ที่มีผลตอนถ่ายโอนข้อมูลจากแฟลชไดรฟ์ไปยังโน๊ตบุ๊คนั้นสูงมากส่วนของการถ่ายโอนข้อมูลเข้าสู่แฟลชไดรฟ์ในส่วนของการเขียน (Write) ก็ทำได้สูงไม่แพ้กัน ดังนั้นตอนถ่ายโอนข้อมูลจริงแล้วจะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพนั้นสูงน่าพอใจ

HD Tune

หลังจากทดสอบในฝั่งของ OS X แล้ว ส่วนของ Windows เองก็ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งจากการทดสอบด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วจะเห็นว่าความเร็วขั้นต่ำสุดจะอยู่ที่ 210 MB/s และสูงสุดที่ 237 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยได้ออกมาเสถียรมากที่ 227 MB/s และมีค่า Access Time ที่น้อยมาก เพียง 0.45 ms เท่านั้น เวลาเข้าถึงข้อมูลในแฟลชไดรฟ์เองก็สามารถทำงานได้อย่างรวเร็ว และสังเกตว่าค่า Burst rate ที่เป็นค่าความเร็วสูงสุดเมื่อถ่ายโอนข้อมูลต่อเนื่องนั้นจะอยู่ที่ 128 MB/s นับว่าสูงทีเดียวสำหรับแฟลชไดรฟ์ด้วยกัน ทำให้เวลาถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่จะใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิมมาก

จากกราฟทดสอบของ HD Tune ทำให้เราเห็นได้ว่า Kingston HyperX Predator นั้นเป็นแฟลชไดรฟ์ USB 3.0 ที่ทำงานได้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่เสถียรมากรุ่นหนึ่ง สังเกตได้จากความเร็วสูงสุดและต่ำสุดไม่หนีกันมากนักและจากการทดสอบถ่ายโอนไฟล์ในสถานการณ์จริงแล้ว ทางทีมงานพบว่าความเร็วในการถ่ายโอนนั้นใกล้เคียงกับค่า Burst rate ที่โปรแกรมแจ้งเอาไว้และถ่ายโอนที่ความเร็วระดับนั้นจนจบ จึงถือได้ว่าเป็นแฟลชไดรฟ์ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้เสถียรมากรุ่นหนึ่ง

AS SSD Kingston

ทดสอบด้วยโปรแกรม AS SSD แล้วจะเห็นได้ว่าความเร็วในการอ่าน (Read) จะอยู่ที่ 274 MB/s ส่วนเขียน (Write) จะอยู่ที่ 194 MB/s ด้วยกัน ซึ่งถือว่าความเร็วของแฟลชไดรฟ์นี้ทำงานได้เร็วมากกว่าที่สเปกหน้ากล่องสินค้าสกรีนเอาไว้ ทำให้ถ้านำแฟลชไดรฟ์นี้ไปเชื่อมต่อใช้งานจริงเพื่อถ่ายโอนข้อมูลก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วทีเดียว

CrystalDiskMark

ด้านของโปรแกรมทดสอบอย่าง CrystalDiskMark เพื่อทดสอบความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลจะเห็นว่าไม่ต่างกับที่ AS SSD แสดงนัก โดยมีค่าความเร็วในการอ่าน (Read) อยู่ที่ 268 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียน (Write) จะอยู่ที่ 73 MB/s น่าแปลกที่ความเร็วในการเขียนกลับได้น้อยกว่าที่ AS SSD แสดงให้เห็น ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากบั๊กของโปรแกรมก็เป็นไปได้ เพราะตอนที่ทดสอบใช้งานจริงแล้วการถ่ายโอนไฟล์ก็สามารถทำได้รวดเร็วตามที่ AS SSD แจ้งเอาไว้

TransferFile

จากการทดสอบใช้งานจริงแล้วทางทีมงานพบว่า Kingston HyperX Predator นั้นเป็นแฟลชไดรฟ์ที่ติดตั้งมาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ USB 3.0 มาให้ ทำให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลทำได้ดีและรวดเร็วมาก นอกจากนี้ระหว่างการถ่ายโอนไฟล์นั้นยังมีอัตราการถ่ายโอนที่เสถียรในระดับ 100 MB/s ขึ้นไปตามที่โปรแกรม HD Tune แจ้งให้ทราบอีกด้วย ซึ่งถ้าสังเกตจากกราฟการถ่ายโอนข้อมูลแล้วจะเห็นได้ว่าในช่วงแรกที่เริ่มต้นถ่ายโอนข้อมูลนั้นจะมีอัตราการถ่ายโอนไฟล์ที่เร็วแล้วค่อยลดลงเข้าสู่อัตราความเร็วปกติที่เสถียรตลอดการทำงานจนจบการทำงาน

ข้อสังเกตหนึ่งที่ทางทีมงานพบคือระหว่างตอนทดสอบด้วย AS SSD และ CrystalDiskMark นั้น ส่วนที่เป็นอะลูมิเนียมของแฟลชไดรฟ์จะเกิดความร้อนค่อนข้างสูง คาดว่าเป็นเพราะพื้นที่ว่างภายในตัวแฟลชไดรฟ์มีจำกัดทำให้ตอนที่ถ่ายโอนไฟล์แล้วเกิดความร้อนขึ้นกับชิ้นส่วนภายในแล้วต้องระบายความร้อนผ่านทางชิ้นส่วนอะลูมิเนียมแทน ซึ่งถ้าตอนที่ถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่เป็นระยะเวลานานๆ แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช้เรื่องน่ากังวลอะไรมากนัก

 

Conclusion

fd1tb

นอกจากดีไซน์ที่โดดเด่นแตกต่างและประสิทธิภาพการทำงานที่โดดเด่นแล้ว Kingston HyperX Predator นั้นจัดเป็นแฟลชไดรฟ์ระดับ Hi-End รุ่นหนึ่งที่ มาพร้อมประสิทธิภาพกับความจุที่สูง แน่นอนว่าราคาก็เลยสูงเช่นกันโดยอยู่ที่ราวๆ สองหมื่นบาท ที่ก็ไม่แปลกใจหากหลายๆ คนจะมองว่าราคาในระดับนี้สูงเกินไป เพราะถ้าได้ความจุเพียงแค่นี้เปลี่ยนไปเลือกซื้อ External Harddisk ไม่ดีกว่าหรือ? เพราะจะว่าไปแฟลชไดรฟ์รุ่นนี้มูลค่าก็พอๆ กับโน๊ตบุ๊คสเปกดีสักเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ซึ่งถ้ามองในแง่ราคาต่อความจุแล้วก็นับว่าความคิดนั้นไม่ผิดนัก แต่ถ้ามองในเรื่องของความเร็วที่ได้แล้วจะเห็นว่า Kingston HyperX Predator นี้คุ้มค่ากว่ามากด้วยความเร็วการถ่ายโอนที่เสถียรในระดับ 200-240 MB/s และมีค่า Burst rate ที่สูงถึง 128 MB/s ซึ่งความเร็วในระดับนี้นั้นเกิดจากชิปประสิทธิภาพสูงภายในแฟลชไดรฟ์กับมาตรฐานการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็น USB 3.0 ทำให้ขีดความเร็วเพิ่มขึ้นมาสูงมากในระดับนี้ หากเทียบกับ External Harddisk ที่มีเงื่อนไขเหมือนกัน คือเป็น USB 3.0 แต่ภายใน External Harddisk จะเป็นเพียงฮาร์ดดิสก์ปกติ ทำให้ค่าความเร็วอยู่ในระดับ 29-35 MB/s และได้ค่า Burst rate เฉลี่ยอยู่ราว 33 MB/s ซึ่งถ้านำอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นนี้มาทดสอบถ่ายโอนไฟล์เทียบกันแล้วก็จะเห็นได้ชัดว่าใครทำงานได้เร็วกว่า หรือกรณีฮาร์ดดิสก์ภายในเลือกใช้เป็น SSD ความจุ 512GB ในส่วนของราคาก็แทบไม่ต่างจากแฟลชไดร์ฟ?Kingston HyperX Predator รุ่นนี้อยู่ดี

ซึ่งถ้าใครให้ความสำคัญเรื่องความจุก็คงตอบได้โดยง่ายว่า External Harddisk แบบฮาร์ดดิสก์ปกตินั้นเป็นคำตอบเพราะได้ราคาที่ไม่สูงนักและได้ความจุที่มากกว่า (ปัจจุบันราคาความจุ 1TB อยู่ที่ประมาณสามพันบาทต้นๆ เท่านั้น) แต่ถ้าโจทย์คือความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลและความสะดวกในการพกพาล่ะก็ Kingston HyperX Predator นั้นเป็นคำตอบที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วย แม้จะมีราคาสูงแต่ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ก็ตอบได้เต็มปากว่าแฟลชไดรฟ์อันนี้น่าสนใจกว่าหลายเท่าทีเดียว แม้เวลาสั่งซื้อจะต้องสั่งจองแล้วรอสินค้าสักหน่อยก็ตาม เพราะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น้อยคนนักจะใช้งาน ซึ่งคาดว่าในส่วนของคนที่ใช้งานคงต้องเป็นคนที่ต้องการพกพาข้อมูลขนาดใหญ่ไปด้วยตลอดเวลาแน่นอน

 

ข้อดี

  • ดีไซน์โดดเด่นมีเอกลักษณ์ วัสดุแข็งแรงทนทาน
  • แพ็คเกจจำหน่ายเป็นกล่องสวยงามและหรูหรา
  • มีอุปกรณ์เสริมเป็นสายต่อ USB 3.0 มาให้ในชุด
  • มีอัตราถ่ายโอนข้อมูลที่เร็วและเสถียรมาก
  • เป็นสื่อเก็บข้อมูลขนาดใหญ่แต่พกพาได้สะดวก

 

ข้อสังเกต

  • แฟลชไดรฟ์มีขนาดใหญ่ ทำให้เวลาเชื่อมต่อบางครั้งไม่สะดวกนัก
  • เวลาถ่ายโอนไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ต่อเนื่องจะเกิดความร้อนขึ้นพอควร
  • ความจุต่อราคาไม่คุ้มค่านัก
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

REVIEW

Kingston NV3 2TB ความจุเยอะ อ่านเขียนไว ตอบโจทย์คนทำงาน คอเกมและครีเอเตอร์ Kingston NV3 เป็น SSD M.2 NVMe รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานเริ่มต้นกับ SSD M.2 ไม่ว่าจะเป็นบนคอมพิวเตอร์พีซี โน๊ตบุ๊ค ในชีวิตประจำวัน กับความจุที่มากสุดถึง 2TB ทำให้รองรับได้ทั้งการติดตั้งระบบปฏิบัติการ ไปจนถึงการลงโปรแกรม...

CONTENT

แรม Kingston FURY Renegade DDR5 8000 RGB เร่งสปีดเกมมิ่งพีซีและ OC ให้ทะลุขีดจำกัด แรม Kingston FURY RENEGADE DDR5 8000 48GB RGB Edition จัดเป็นแรมในกลุ่มพรีเมียม เพื่อเพาเวอร์ยูสเซอร์ ที่ต้องการประสิทธิภาพขั้นสูง เพื่อรีดพลังจากระบบที่ใช้ไปให้ถึงขีดสุด มาในดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย...

Accessories review

HyperX Pulsefire Haste 2 Core และ HyperX Pulsefire Haste 2 Mini รุ่นใหม่ 2 ไซซ์ จับง่ายเข้ามือ น้ำหนักอย่างเบา 59 กรัม! HyperX Pulsefire Haste 2 Core และ...

Buyer's Guide

ในยุคนี้ที่อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบออฟไลน์หาซื้อได้ง่ายหลายช่องทางจะหาซื้อแฟลชไดร์ฟราคาดีก็ง่าย กำเงินไปร้อยสองร้อยบาทตรงเข้าร้านคอมใกล้บ้านก็ซื้อมาเซฟงานได้แล้ว ยิ่งยุคนี้เทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลก็ล้ำสมัยขึ้นเรื่อยๆ จึงมีแฟลชไดร์ฟความจุตั้งแต่ 8GB ไปจนหลัก TB วางขายกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งปัจจุบันก็จะมีแบรนด์ชั้นนำอย่าง Lexar, Kingston, SanDisk ให้เลือกซื้อกัน แต่หลายคนคงสงสัยว่าจะซื้อของชิ้นนี้ไว้ทำไมในเมื่อมีวิธีเซฟข้อมูลให้เลือกตั้งมากมาย? ถ้าเอาเรื่องใกล้ตัวอย่างการฟอร์แมตคอมลง Windows ใหม่ ก็ต้องเขียนไฟล์ระบบปฏิบัติการลงแฟลชไดร์ฟเอาไว้ล้างเครื่องอย่างแน่นอน หรือถ้าเป็นสายท่องเที่ยวถ่ายภาพอัดคลิปไว้มากมายแล้วหน่วยความจำในมือถือเต็ม แทนที่จะอัปโหลดขึ้น Cloud ให้เปลืองแพ็คเกจโรมมิ่งหรือรอไปต่อ Wi-Fi ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก