สำหรับงาน WWDC ของ Apple ที่ผ่าน ก็ค่อนข้างเป็นที่น่าแปลกใจ ว่าไม่มีการเอาตัวเครื่อง MacBook Pro ที่ใช้ชิป Haswell ออกมาเปิดตัวให้ดูกันด้วย มีแต่เพียงแค่ MacBook Air เท่านั้น แต่อย่างน้อยก็พอจะมีผลทดสอบเจ้าเครื่องใหม่ที่ว่านี้มาให้ได้ดูกันบ้าง ว่าถ้าเป็นระดับ MacBook Pro รวมเข้ากับชิป Haswell แล้ว มันจะออกมาเป็นยังไง
โดยเป็นผลทดสอบจาก Geekbench ที่มีรหัส model number ของเครื่องเป็น ?AAPLJ44,1? แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามันเป็นรุ่นหน้าจอ Retina Display รึเปล่า หรือว่าเป็น MacBook Pro รุ่นเดิมที่มีการอัพเดทใหม่ แต่ทั้งสองรุ่นก็ดูจะให้ผลประสิทธิภาพที่ได้ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่นัก เมื่อใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกัน
ตัวเครื่องยังมีการใช้ระบบ OS X 10.9 Mavericks ตัวใหม่ ที่ได้เปิดตัวเวอร์ชั่นทดลอง beta สำหรับนักพัฒนาเอาไปลองใช้งานกันก่อน และก็มาพร้อมกับแรม 8GB และชิป Intel Core i5-4258U ทำงานที่ความเร็ว 2.4GHz
เมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้มากขึ้นแล้วนั้น โดยรวมก็อยู่ที่ 5-8 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากมายอะไรสักเท่าไหร่ แต่กับเรื่องพลังงานแล้วล่ะก็ แน่ใจได้เลยว่าดีกว่าเดิมพอสมควร มีการใช้พลังงานที่น้อยกว่าเดิม และจะส่งผลในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานจากแบตเตอรี่ที่นานขึ้น
ตัวชิป Haswell นี้ ถือเป็นเหตุผลหลักที่ว่าทำไม เครื่อง MacBook Air ถึงสามารถทำงานได้นานทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องชาร์จไฟเพิ่มเติมเลย เพราะตัวชิปมีการบริหารจัดการพลังงานที่ดีกว่าเดิมมาก ทำให้ตัวเครื่อง MacBook Air ขนาด 13 นิ้ว สามารถทำงานได้นานถึง 12 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว จากเดิมที่เคยทำงานได้ที่ 7 ชั่วโมง เรียกว่าแตกต่างกันแบบชัดเจนมาก
ส่วนรายงานต่างๆ ก็คาดว่าเราน่าจะได้เห็น Apple เปิดตัวเครื่อง MacBook Pro ใหม่นี้ ในช่วงปลายปี ซึ่งก็น่าจะมาพร้อมๆกับการเปิดตัวอุปกรณ์ระบบ iOS ตัวใหม่ด้วย
นอกเหนือไปจากนั้น ยังมีข้อมูลของตัวเครื่อง Mac Pro ใหม่ รหัสรุ่น ?AAPLJ90,1? ด้วยอีกตัว ซึ่งมาพร้อมกับชิป Intel Xeon E5-2697 ที่เป็นชิประดับเครื่อง Server มี 12-core ที่ Phil Schiller ได้พูดไปแล้วบนเวทีของงาน WWDC ทำงานที่ความเร็ว 2.7GHz มากับแรมมหาศาล 64GB และแน่นอน มาพร้อมกับระบบ Mavericks
เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับเครื่อง Mac Pro ตัวปัจจุบัน ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว เครื่องรุ่นใหม่นี้ มีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งต่างๆไปมากมาย แต่กับบางจุดก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมายเท่าไหร่นัก บางส่วนนั้น ก็อาจจะเป็นผลมาจากระบบซอฟท์แวร์มากกว่าที่จะเป็นจากฮาร์ดแวร์ แต่ยังไงซะ นี่ก็คือเครื่อง Mac ที่แรงที่สุดแล้ว
ที่มา: Cult of Mac