หลังจากผ่าน Part 1 ที่รวมใน Ballroom กับ Plenary Hall ไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาทัวร์ส่วนของ Zone C ทั้งชั้นบนและล่างและพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งในตอนที่สองนี้จะมีสินค้าที่ดูน่าตื่นตาสำหรับเกมเมอร์มากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่าใน Zone C ในงาน Commart ครั้งนี้จะมีอะไรบ้างก็ต้องตามอ่านกันในตอนที่สอง
สำหรับชั้นบนของ Zone C ฝั่งขวามือเมื่อหันหน้าเข้าหาจะมีบูธของ Kingston ตั้งอยู่พร้อมมีโปรโมชั่นจับจ่ายสินค้าครบ 300 บาทจะได้รับสิทธิ์จับรางวัล 1 ครั้ง โดยสามารถรับสิทธิ์ได้มากสุด 4 ครั้งต่อการซื้อสินค้าหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยของรางวัลจาก Kingston จะมีมากมายไม่ว่าจะเสื้อหรือปากกาก็มีให้ทั้งนั้น อยู่ที่ดวงของคนจับล้วนๆ
ภายในบูธนั้นจะมีสินค้าหลากหลายทั้งแรมและฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ทั้งแบบ SSDNow และ HyperX ที่ขึ้นชื่อให้เลือกซื้อพร้อมกับเมมโมรี่การ์ดและแฟลชไดรฟ์อีกด้วย ส่วนราคาดูตามป้ายได้เลย
ใกล้ๆ กับบูธ Kingston จะมีบูธของฟิล์มกันรอย Focus เปิดอยู่พร้อมรับติดฟิล์มทั้งสมาร์ทโฟนและหน้าจอโน๊ตบุ๊ค แต่ถ้าใครกำลังหาฟิล์มตัดเพื่อให้เข้ากับหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นหายากๆ ล่ะก็ต้องติดต่อที่อื่นเอา เพราะร้านนี้ขายเฉพาะฟิล์มตรงรุ่นเท่านั้น
Power Bank ที่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้พลังงานเก่งในยุคนี้ก็มีขายอยู่หลายบูธหลายความจุ เช่น Power Max เป็นต้น
ใกล้ๆ กันก็มีบูธของ RIZZ ที่ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์เสริมสำหรับโน๊ตบุ๊คและสมาร์ทโฟนมาเปิดโปรโมชั่นหูฟังอยู่ด้วย ได้ข่าวว่าตอนนี้รุ่นยอดนิยมหลายๆ รุ่นเริ่มหมดแล้วด้วย
ด้านของของอุปกรณ์จุกจิกต่างๆ เช่นสาย USB หรือจะเป็นหูฟังและอีกหลากหลายชิ้นนั้นจะมีอยู่ในบริเวณนี้ด้วย
ที่กระบะสินค้าจะมีสายเชื่อมต่อแบบต่างๆ วางขายอยู่ ซึ่งถ้าใครกำลังอยากได้ก็ลองเดินดูสักหน่อย ราคาไม่แพงเท่าไหร่อีกด้วย
อย่างที่ทีมงานพูดไปในตอนที่แล้ว กระเป๋าโน๊ตบุ๊คภายในงานนี้มีอยู่หลายที่ในงานและสามารถหาซื้อได้ง่าย เช่น Belkin ใบนี้ก็เริ่มต้นที่ราคาเพียง 590 บาทเท่านั้น ใครมีโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วก็เชิญรับกลับบ้านได้เลย
ถ้าใครเน้นหาคีย์บอร์ดหรือเม้าส์ราคาคุ้มค่าต้องไปดูที่บูธของ Microsoft เลย มีทั้งแบบขายรวมแพ็คคู่และแยกเดี่ยวก็มีเช่นกัน ส่วนใครอยากได้คอนโทรลเลอร์ Xbox 360 ก็มีในบูธด้วย ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
External Harddisk จาก Buffalo ที่หลายๆ คนมั่นใจก็มีขายในงานนี้กับราคา 1 TB ต่อ 1,990 บาท อีกด้วย
ส่วนของ External Harddisk จาก Acer ก็มีมาวางขายพร้อมของสมนาคุณอย่างซองหนังใส่ฮาร์ดดิสก์กับกระปุกใส่น้ำร้อนอีกด้วย
หน้าจอขนาดต่างๆ ก็มีมาวางขายในงานนี้ ไม่ว่าจะเป็น Acer ที่นำรุ่น 21.5 นิ้วและ 23 นิ้ว ความคมชัด Full HD
พูดถึงอุปกรณ์เช่นหน้าจอหรือโปรเจคเตอร์ก็ลืม BenQ ไม่ได้ เพราะมีหน้าจอหลากหลายขนาดมาวางขายด้วย ซึ่งจอ 15.6 นิ้วความคมชัดระดับ HD (1366×768 พิกเซล) ก็จัดโปรโมชั่นราคา 1,990 บาท เท่านั้น
ใกล้ๆ บูธของ BenQ จะมีบูธขายปลั๊กและพอร์ต USB แบบต่างๆ มาโชว์ตัวอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB to Lighting ราคาเพียง 148 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ใครที่รักคีย์บอร์ดลายน่ารักเช่นหมีพูห์หรือมิกกี้เม้าส์ก็มีจำหน่ายที่ด้านหลัง Zone C ด้านหลังสุดอีกด้วย
บูธของ Commy เองก็มี Power Bank หลากหลายรุ่นมาวางจำหน่ายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นแถม Power Bank ความจุ 2300 mAh ในรูปล่างซ้ายมือให้เมื่อซื้อสินค้าในราคาเต็มอีกด้วย
นอกจากจะมีแบตเตอรี่เสริมแล้ว ยังมีฟิล์มกันรอยหน้าจอเริ่มต้นที่ 49 บาทพร้อมโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 อีกด้วย
สำหรับหน้าจอซีรี่ย์ DELL Ultrasharp เองก็มีหน้าจอ IPS ราคาคุ้มค่ามาวางจำหน่ายด้วยกับราคา 9,590 บาทสำหรับขนาด 27 นิ้ว และ 8,990 บาท สำหรับรุ่น 23 นิ้ว เป็นจอ IPS ที่ราคาน่าจับจองเช่นกัน
ซึ่งบูธของ DELL ที่อยู่ใน Zone C ที่ชั้นบนใกล้กับทางออกจะมีอุปกรณ์ของ DELL หลายชิ้นมาวางจำหน่ายด้วย ซึ่งทางทีมงานเห็นหูฟัง Alienware TACTX มาวางจำหน่ายด้วยราคา 1,960 บาทเท่านั้น เรียกหว่าหาไม่ได้ง่ายๆ ทีเดียวสำหรับหูฟัง Alienware รุ่นนี้
ด้านฝั่งซ้ายของ Zone C นั้นจะเป็นบูธขนาดใหญ่ของ J.I.B. มองหาง่ายและนำสินค้าเกมมิ่งมาจัดแสดงไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คหรืออุปกรณ์เกมมิ่งต่างๆ ทั้งราคาย่อมเยาว์และรุ่นสูงอีกด้วย นอกจากนี้ยังเปิดให้ทดลองเล่นเกมกับคอมพิวเตอร์ที่จัดตามสเปกที่โชว์ภายในงานและถ้าพอใจอยากได้เครื่องรุ่นนั้นๆ ล่ะก็ สามารถสั่งประกอบได้ทันทีที่โซนด้านหลังที่มีสินค้าพร้อมประกอบในทันที
แต่ถ้าใครไม่ใส่ใจเรื่องเกมมิ่งมากเท่าไหร่ J.I.B. ก็จัดส่วนแสดงสินค้าราคาคุ้มค่าให้เลือกซื้อได้อีกด้วย
ถัดเข้ามาในส่วนของ Banana IT ที่อยู่ด้านในฮอลล์ข้าง Zone C ก็มีอุปกรณ์เสริมสำหรับคอมพิวเตอร์วางขายอีกด้วย ถ้าใครอยากได้ Cooling Pad ดีๆ จาก Deep Cool มาใช้งานก็น่าเข้าไปเยี่ยมชมมาก
และส่วนตรงกลางด้านหลังของบูธ Banana IT ก็มีสินค้าเซลล์ลดราคาสูงสุดถึง 50% ไม่ว่าจะเป็นเม้าส์ หูฟังและลำโพง โดยสินค้าแต่ละชิ้นจะติดป้ายลดราคาแตกต่างกัน
ถัดมาที่ Zone C ชั้นล่างแล้วจะมีสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายอิสระเข้ามาจำหน่ายสินค้ามากมายทีเดียว ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อได้ที่นี่
เริ่มต้นที่ฝั่งซ้ายของ Zone C จะเป็นกระเป๋าโน๊ตบุ๊คแบบต่างๆ สำหรับคนที่ชอบความแตกต่าง ส่วนราคานั้นต้องตกลงกับผู้ขายเอง
สินค้าจิปาถะสำหรับสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็นเคสหรือแบตเตอรี่สำรองก็มีขาย รวมทั้งยังมี Phone Stand ที่เป็นจุกยางติดด้านหลังสมาร์ทโฟนเพื่อวางตัวเครื่องได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ตจีนราคาย่อมเยาว์พร้อมระบบปฏิบัติการ Android มาวางจำหน่ายอีกด้วย ถ้าใครอยากซื้อให้ลูกหลานเล่นก็น่าสนใจเช่นกัน
ด้านของบูธอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ชื่อดังอย่าง Razer ก็มีสินค้ามาจำหน่ายเช่นกัน สามารถหาเจอได้ง่าย โดยปีนี้ยังนำเม้าส์และคีย์บอร์ดเกมมิ่งมาวางจำหน่ายเหมือนเดิม แต่จะมีสินค้าใหม่ๆ เช่น Razer Death Stalker ที่เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นใหม่กับ Razer Black Widow Tournament เกมมิ่งคีย์บอร์ดเช่นเดียวกับ Razer Black Widow Ultimate แต่ตัดโซนของปุ่ม Numpad ออกไปเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถทดลองสินค้าได้ที่บูธอีกด้วย
ไม่ห่างกันมากนักจะเป็นบูธของ Ttesport ที่นำเอาอุปกรณ์เกมมิ่งหลายชิ้นมาวางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นหูฟังหรือเม้าส์และคีย์บอร์ดรุ่นต่างๆ ก็มีให้ชมและทดลองจับใช้งานดูก่อนได้อีกด้วย
ส่วนของบูธ Logitech นั้นจะมีสินค้าทั้งเกมมิ่งและอุปกรณ์เช่นเม้าส์สำหรับใช้ทำงานทั่วไปมาวางจำหน่ายด้วย นับเป็นอีกบูธที่มีสินค้าหลากหลายไม่เจาะจงเฉพาะเกมมิ่งอย่างเดียว
มาถึงบูธของ SteelSeries ที่น่าจะเป็นเกมมิ่งแบรนด์ในใจของใครหลายๆ คนก็ออกบูธที่ Zone C ชั้นล่างพร้อมนำเม้าส์และคีย์บอร์ดรวมทั้งหูฟังของทางค่ายมาวางจำหน่ายอีกด้วย พิเศษที่ในงานจะมีคีย์บอร์ดรุ่น SteelSeries Apex มาวางจำหน่ายในราคา 1,990 บาทอีกด้วย
Eneloop ก็มาออกบูธในงาน Commart นี้พร้อมนำแบตเตอรี่และ Power Bank ของค่ายมาวางจำหน่ายกับราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้อีกด้วย
บูธของ Genius ที่มีเม้าส์และคีย์บอร์ดสำหรับเน้นใช้งานในสำนักงานมาวางจำหน่ายให้เลือกใช้ได้อีกด้วย พิเศษที่มีเม้าส์ปากกามาวางขายเช่นกัน ถ้าใครอยากได้เม้าส์ปากการาคาไม่สูงนักก็หาซื้อได้ที่นี่
Skullcandy ที่โด่งดังเรื่องหูฟังที่มีดีไซน์สวยงามและเสียงดีก็มาออกบูธในงานนี้เช่นเดิม พร้อมนำหูฟังหลากหลายรุ่นมาวางขายด้วย
ส่วนของจิปาถะต่างๆ เช่นน้ำยาทำความสะอาดตัวเครื่อง, ลำโพง Bluetooth, Cooling Pad ทั้งแบบตั้งโต๊ะจาก OKER หรือแบบเป็นโต๊ะทำจากไม้ไผ่ราคา 650 บาท ก็มีเป็นตัวเลือกให้สำหรับคนที่ต้องการ Cooling Pad ไปตั้งโน๊ตบุ๊คของตัวเองที่ต้องเปิดทำงานต่อเนื่องต่อวันเป็นระยะเวลานานได้อีกด้วย