Connect with us

Hi, what are you looking for?

SOFTWARE

Facebook หลบซ้าย MSN ต้องชิดขวา เพราะ Google Wave กำลังมา

สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ โอ้วว ประเทศไทยร้อนมาก การเมืองไทยก็ยังร้อนเข้าไปอีก พอหันไปดูฝรั่งมังค่าแล้ว ว้าวว มีของเล่นใหม่มาให้เราเล่นด้วย ผมกล้าบอกว่า คนที่ใช้คอมเป็น เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเก้าเก้า ? เปอร์เซนต์คงต้องรู้จัก Google แน่นอนครับ บริษัทยักษ์ใหญ่รายนี้ มีผลงานออกมาให้ชื่นชมกันเป็นระยะๆ เลย ตั้งแต่ยุคของ Gmail จนมาถึง Android Chrome และล่าสุดก็คือ Google Wave ไม่รู้จะรวยไปไหนกันครับ Googlegoogle_wave_logo

Google มีการเปิดตัว Google Wave ครั้งใหญ่ในงาน Google I/O 2009 เมื่อไม่นานมานี้ ทาง Google เรียกมันว่า “A New Tool for Communication and Collaboration on the Web” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารโดยอาศัยผ่านตัวอักษรแบบ Real Time คล้ายๆ กับ MSN ผสมกับโทรศัพท์ล่ะครับ ซึ่งขณะที่เราพิมพ์โต้ตอบ ถึงแม้ว่าเราจะพิมพ์ผิด หรือจะแก้ไข เพื่อนของเราก็จะเห็น ลักษณะมันคงจะคล้ายๆ Face Book แบบ Real Time นั่นเอง

Advertisement

ที่มาที่ไปของ Wave

map sharing

Wave เดิมมี Codename ว่า “Walkabout” เริ่มพัฒนาขึ้นโดย Google Australia ซึ่งทีมพัฒนาก็คือทีมที่เคยทำ Google Maps เดิมแหละครับ เป็นบริษัท Where 2 Tech ที่ Google เคยไปซื้อกิจการเขามาเมื่อนานมาแล้ว ทาง Google เปิดเผยมาว่า ทีมพัฒนามี 5 คน ซุ่มเงียบพัฒนามากว่า 4 ปีแล้วครับ เอาเป็นว่า ถ้าคุณผู้อ่านสนใจ ทาง Google มีตำนานการสร้าง Wave บันทึกอยู่ครับ ที่ http://googleblog.blogspot.com/2009/05/went-walkabout-brought-back-google-wave.html

มารู้จักกับ Wave กันดีกว่า

video

พูดถึง Google Wave แล้ว เรามาทำความรู้จักกับ Google Wave กันดีกว่า อย่างที่เรารู้กันว่า Wave เป็นระบบการสื่อสารออนไลน์แบบ Real Time แต่มันยังมีรายละเอียดมากกว่านั้นนะครับ

? Wave คือเว็บ ทั้งหมดที่เห็นเป็น HTML ทำงานผ่านเบราว์เซอร์ แต่เป็น HTML5 ที่เรียกใช้ฟีเจอร์หลายอย่างที่ยังไม่มีในสเปกมาตรฐานกลาง (ปัจจุบัน Browser ทุกตัวสนับสนุนแล้วครับ ยกเว้น IE เจ้าเก่า)

? Wave เป็นระบบการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ซึ่งต้องใช้ Protocol พิเศษที่ Google คิดขึ้นมาใหม่ เรียกว่า Google Wave Federation Protocol

? Google Wave สร้างด้วย Google Web Toolkit (GWT) ทั้งหมด

? และที่สำคัญ Wave เป็น Open Source ครับ และยังเปิดโอกาสให้คนทั่วไปใช้งานฟรีอีกด้วย

จุดเด่นของ Google Wave

full screen wave

? การสื่อสารทุกอย่างเป็นแบบ Real Time ถึงขนาดว่าเรามองเห็นว่าเพื่อนพิมพ์ตัวอักษรอะไรอยู่ในขณะนั้น

? Wave เป็นสื่อแบบมัลติมีเดียสมบูรณ์แบบ มีลักษณะเป็น Rich Document ในระดับเดียวกับ Google Docs ซึ่งจะสามารถใส่ได้ทั้งภาพ เสียง วิดีโอ Maps ฯลฯ

? เราสามารถแก้ไข wave แบบ Real Time ได้พร้อมกับเพื่อนๆ โดยเมื่อมีการแก้ไขแล้ว ทาง Google ก็ได้ใส่ความสามารถด้าน revision control เช่นเดียวกับ SVN หรือ git ลงไป โดยกูเกิลทำให้มันดูหรูขึ้นโดยใส่ timeline แบบโปรแกรมมัลติมีเดียลงไป สามารถกด playback เพื่อดูเวอร์ชันเก่าๆได้

? ระบบเพื่อนของ Google Wave จะคล้ายๆ กับ social network ต่างๆ อย่าง Hi5 หรือ Facebook คือ เพิ่มเพื่อนเป็นรายคนลงใน Wave ได้ แยกลำดับชั้นความลับได้

? เราสามารถนำ Wave ไปฝังลงในเว็บเพจปกติได้ครับ การแก้ไข (หรือ Comment ต่างๆ) ที่เกิดขึ้นจะแสดงให้เห็นทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะดูผ่านหน้าเว็บที่ฝัง Wave เอาไว้ หรือดูจากหน้า Wave เอง

Pages: 1 2 3

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Tips & Tricks

กำแพงภาษาอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ใครหลายคนไม่อยากเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพราะกลัวจะสื่อสารไม่ได้คุยกับใครไม่รู้เรื่อง แต่ในยุคนี้ก็มีแอพแปลภาษาให้โหลดไปติดตั้งในสมาร์ทโฟนเอาไว้สื่อสารกับชาวต่างชาติได้ง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็สามารถพูดสื่อสารกันได้ตั้งแต่ถามเส้นทางการเดินทางไปจนติดต่อคุยงานกันในยามจำเป็นก็ยังได้ แม้จะไม่ถึงระดับของล่ามที่ฝึกฝนภาษานั้นมาเป็นเวลานานจนเชี่ยวชาญแต่ในนาทีสำคัญมันก็ช่วยแก้ปัญหาให้เราได้แน่นอนแถมส่วนใหญ่เป็นแอพฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือถ้าจ่ายค่าบริการเพิ่มก็ได้ฟีเจอร์มาเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกหลายอย่าง ถ้าพูดถึงแอพฯ เหล่านี้เมื่อไหร่ เป็นใครก็ต้องคิดถึง Google Translate ก่อนเป็นชื่อแรกแน่นอนแ แต่บางประเทศ เช่น จีนแผ่นดินใหญ่ปลายทางยอดนิยมของชาวไทยตอนนี้หรือรัสเซียก็ไม่สามารถใช้ Google ได้ ยกเว้นจะ Roaming สัญญาณเน็ตเข้าไป ก็มีทางออกโดยหันมาใช้แอพฯ เฉพาะของที่นั่นแทน ซึ่งใช้งานได้ดีพอกันและออกแบบมาเพื่อภาษานั้นโดยเฉพาะด้วย ทำให้การแปลภาษาลื่นไหลสื่อสารกับผู้คนได้ต่อเนื่อง แถมแอพฯ เหล่านี้ก็พัฒนาตัวเองให้แปลเอกสารและไฟล์...

Special Story

หากจะพูดถึงซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024 สำหรับโน้ตบุ๊กของ AMD ก็จะต้องเป็น AMD Ryzen AI 300 series ที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านพลังประมวลผล พลังกราฟิก และที่เด่นชัดสุดคือความสามารถในการทำงานด้าน AI โดยที่ผ่านมาก็จะมีรุ่นที่ออกมาทำตลาดคือ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ที่เป็นชิปรุ่นกลาง แต่ล่าสุดเราเริ่มเห็นโน้ตบุ๊กที่ใช้ AMD...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

CONTENT

ในบทความก่อนหน้านี้จะเป็นการแนะนำโน้ตบุ๊ก AMD น้ำหนักเบาที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมตอบโจทย์การทำงานที่ต้องเน้นการพกพาเครื่องบ่อย ๆ โดยที่ยังได้พลังในการทำงานที่ดีอยู่ ส่วนในบทความนี้เราจะมาดูโน้ตบุ๊ก AMD การ์ดจอแรง แต่มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบากันบ้าง เผื่อในกรณีของท่านที่ต้องการซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ซักเครื่อง แล้วอยากได้แพลตฟอร์มของค่ายแดงมาไว้ใช้ทำงาน เล่นเกม แต่ก็ยังอยากพกง่าย ๆ อยู่ด้วยในเครื่องเดียว

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก