Worldtech นั้นมีชื่อเรื่องเครื่องเสียงและระบบความบันเทิงในรถยนต์มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นดีวีดีหรือเครื่องเสียงก็สร้างชื่อให้กับทาง Worldtech มาเป็นระยะเวลานานจนวันนี้ Worldtech เองก็ก้าวสู่ตลาดอุปกรณ์พกพาจำพวกแท็บเล็ตเช่นกัน โดยในตอนนี้จะมีแท็บเล็ตภายใต้ชื่อของ Worldtech ออกมาวางจำหน่ายมากมาย โดยเน้นเป็นแท็บเล็ตที่ราคาไม่แพงมากเพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายและมีสเปกที่ดีในระดับที่น่าพอใจกับมูลค่าเงินที่จ่ายไปด้วย
Worldtech Smart Tab Upgradge และ Worldtech Smart Tab Duo เองก็เป็นแท็บเล็ตอีกคู่ของทาง Worldtech ที่ราคาไม่แพงมากนัก ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง 2,590 บาท ในรุ่น Worldtech Smart Tab Upgrade และถ้าเพิ่มเงินมาเป็น 3,890 บาท ก็จะได้เป็นเจ้าของ Worldtech Smart Tab Duo อีกด้วย?
Specification
Worldtech Smart Tab Upgrade
หน้าจอของเครื่องอยู่ที่ 7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 400 พิกเซล เป็นจอแบบ LCD พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0.4 ติดตั้งมาให้ ทำงานด้วยซีพียู Boxchip A13 ความเร็ว 1.2 GHz เป็นแบบ Singel-Core ทำงานร่วมกับกราฟิกการ์ด Mali 400 ?(Single Core) มีแรมขนาด 512 MB กับหน่วยความจำจุ 8 GB ด้วยกัน ด้านของแบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion ขนาด 2400 mAh ติดตั้งมาให้
ตัวเครื่องจะติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลมาให้หนึ่งตัว รองรับการทำ Video Call รองรับการเชื่อมต่อผ่าน microUSB, Audio Jack และ Wi-Fi สามารถอัพเกรดหน่วยความจำได้ที่ช่อง microSD Slot ได้ถึง 32 GB สนนราคาที่ 2,590 บาท
ชมสเปกเต็มๆ ได้ที่นี่
Worldtech Smart Tab Duo
Worldtech Smart Tab Duo เองก็เป็นแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วเช่นกันกับหน้าจอความละเอียด 800 x 600 พิกเซล พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.1 ติดตั้งมาให้ ใช้ซีพียู ARM Cortex A9 แบบ Dual-Core ความเร็ว 1.5 GHz และกราฟิกการ์ด Mali 400 (Dual Core) มีแรมขนาด 1 GB พร้อมกับหน่วยความจำขนาด 8 GB ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion ขนาด 2700 mAh
กล้องของ Worldtech Smart Tab Duo จะมีสองตัว ได้แก่กล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลกับกล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล รองรับการทำ Video Call รวมทั้งมีช่องเชื่อมต่อ Mini HDMI, microUSB Port, Audio Jack และ Wi-Fi, microSD Slot ที่รองรับความจุ 32 GB มีราคา 3,890 บาท
ชมสเปกเต็มๆ ได้ที่นี่
Hardware / Design
Worldtech Smart Tab Upgrade
วัสดุที่นำมาประกอบแท็บเล็ต Worldtech Smart Tab Upgrade จะเป็นพลาสติกทั้งหมด ด้านหน้าใช้สีดำและด้านหลังเป็นสีขาวด้วย ส่วนของขอบจอจนถึงขอบของตัวเครื่องจะมีระยะห่างพอควร เพื่อให้มือไม่สัมผัสถูกเวลาใช้งาน และส่วนขอบบนขวามือจะติดตั้งกล้องความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลเอาไว้อีกหนึ่งตัว และเป็นเพียงตัวเดียวสำหรับ Worldtech Smart Tab Upgrade มิติตัวเครื่องอยู่ที่ 192 x 114 x 12 มิลลิเมตร
ดีไซน์ด้านหลังจะสกรีนโลโก้และชื่อรุ่นเอาไว้ด้วยสีดำชัดเจนและมีรายละเอียดต่างๆ เขียนเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ เวลาต้องการใช้งานจะสามารถหาได้สะดวก ทั้งปุ่มเปิดปิดเครื่องหรือแม้กระทั่ง microSD Slot ก็อยู่ตรงนี้ทั้งหมด รวมถึงปุ่ม Reset อีกด้วย ส่วนฝั่งขวาด้านบนจะเป็นลำโพงหนึ่งตัว
Worldtech Smart Tab Duo
ตัวเครื่องของ Worldtech Smart Tab Duo จะใช้วัสดุภายนอกเครื่องเป็นพลาสติกทั้งหมด ด้านหน้าเป็นกรอบสีดำและด้านหลังเป็นสีขาว มีระยะจากขอบหน้าจอจนถึงขอบตัวเครื่องเพียงพอให้ถือแท็บเล็ตแล้วอุ้งมือจะไม่สัมผัสโดนที่หน้าจอขณะที่ใช้งานอยู่ ส่วนด้านขอบบนขวามือจะมีกล้องความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลติดตั้งเอาไว้ทำ Video Call มีมิติตัวเครื่องที่ 190 x 113 x 10 มิลลิเมตร
ด้านหลังจะเป็นพลาสติกสีขาวสะอาดพร้อมกับสกรีนโลโก้ยี่ห้อและรุ่นผลิตภัณฑ์เอาไว้เรียบร้อย โดยด้านซ้ายมือจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ รวมเอาไว้ที่จุดเดียว หาเจอได้สะดวก ถัดเข้ามาเป็นกล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ฝั่งขวาระดับเดียวกับกล้องจะเป็นลำโพงของเครื่อง ส่วนด้านล่างของกล้องจะเป็นปุ่มสำหรับ Reset เมื่อตัวเครื่องค้างหรือเกิดปัญหาขึ้นแล้วไม่สามารถดับเครื่องได้ โดย Worldtech Smart Tab Duo จัดวางเอาไว้ได้ชัดเจนหาง่าย?
Screen / Speaker
ทั้งสองเครื่องมีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 600 พิกเซล และเป็นจอ LCD รองรับการแตะสัมผัส 5 จุดพร้อมกันทั้งรุ่น Upgrade และ Duo รวมทั้งดีไซน์ให้ใช้งานในแนวนอน หน้าจอของทั้งสองรุ่น เป็นจอแบบ LCD แบบ TN ทำให้มุมมองไม่กว้างนัก และองศาการมองจะไม่กว้าง ซึ่งจอของทั้งสองรุ่นจะแสดงผลได้ดีที่สุดคือมองด้านหน้าตรง โดยรุ่น Upgrade พอใช้งานนานๆ แล้ว ตาจะลายง่ายกว่ารุ่น Duo ส่วนมุมเฉียงจะมีองศามองไม่มากนักก่อนที่สีจะเพี้ยน ไม่เหมือนกับจอ IPS ที่ให้องศาการมองกว้างกว่า
ลำโพงที่ติดตั้งเอาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง Worldtech Smart Tab ทั้งสองรุ่นนั้นติดตั้งเอาไว้ที่มุมบนขวา และจะอยู่ที่เหนือมือซ้ายเมื่อใช้งานแบบปกติ เวลาจับใช้งานแล้ว มือจะไม่พาดทับหน้าลำโพง เวลาดูคลิปหรือเล่นเกมจะได้ยินเสียงชัดเจน ไม่ต้องขยับมือหลบลำโพง ส่วนของคุณภาพเสียงนั้นสมราคา โดยเทียบเท่าแท็บเล็ตที่มีราคาใกล้เคียงกัน โดยแนะนำให้ต่อหูฟังเพิ่มเวลาฟังเพลงจะดีกว่าใช้ลำโพงที่ติดตั้งมาให้
Connector / Thin And Weight
Worldtech Smart Tab Upgrade จะรวมช่องสำหรับเชื่อมต่อทั้งหมดเอาไว้ที่ด้านซ้ายของเครื่อง จากซ้ายมือไป จะมีไมค์อยู่หนึ่งตัวกับปุ่มเพิ่มและลดเสียง มีช่องสำหรับใส่ microSD Card ติดตั้งเอาไว้ติดๆ กัน ต่อด้วยช่องสำหรับเชื่อมต่ออะแดปเตอร์, USB Port, Audio Jack และปุ่มสำหรับเปิดและปิดเครื่อง น้ำหนักอยู่ที่ 314 กรัม ไล่เลี่ยกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ เช่น iPad mini ที่หนัก 312 กรัม และ Acer ICONIA B1 ที่หนัก 308 กรัม ตัวเครื่องหนา 12 มิลลิเมตร ทำให้รู้สึกว่าเทอะทะไปบ้าง
ภายในกล่องจะมีสายต่างๆ แถมมาให้ครบครัน ทั้งอะแดปเตอร์, สาย USB รวมทั้งหูฟัง ซึ่งเป็นการแยกหน้าที่ของสายแต่ละสายออกจากกันทั้งหมด ต่างจากแท็บเล็ตยุคใหม่ที่จะใช้สาย USB ต่อกับหัวอะแดปเตอร์เป็นอะแดปเตอร์ได้ด้วย ทำให้ลดภาระเวลาพกไปใช้ชาร์จไฟในที่อื่นๆ?
ด้านของ Worldtech Smart Tab Duo จะวางปุ่มคล้ายกับรุ่น Upgrade แต่ระหว่างปุ่มเพิ่มลดเสียงและ USB Port นั้น จะมีพอร์ต Mini HDMI เสริมเข้ามาให้พร้อมกับสายสำหรับแปลงสัญญาณแถมมาให้ในกล่องด้วย โดยปุ่มแต่ละปุ่มจะมีตำแหน่งวางตัวแผ่กว้างกว่ารุ่น Upgrade เล็กน้อย เพื่อให้พื้นที่กับ Mini HDMI ที่เสริมเข้ามาอีกหนึ่งช่อง และพอร์ตต่างๆ จะมีสายเฉพาะของตนด้วย ส่วนของความหนาที่ 10 มิลลิเมตร รู้สึกเข้ามือกว่า Smart Tab Upgrade พอควร ?รวมทั้งน้ำหนักอยู่ที่ 333 กรัม ถึงน้ำหนักจะมากกว่าแต่พอใช้จริงกลับไม่หนักจนรบกวนการใช้งานอย่างที่คิด
Performance / Software
ส่วนของระบบปฏิบัติการใน Worldtech Smart Tab Upgrade จะเป็น Android 4.0.4 Ice cream Sandwich สามารถอัพเกรดเป็น Jelly Bean ได้ในภายหลัง ส่วนของ?Worldtech Smart Tab Duo จะเป็น Android 4.1 Jelly Bean
ส่วนของแรมภายทั้งสองเครื่องนั้น Worldtech Smart Tab Upgrade มีอยู่ 512 MB ส่วนของ Smart Tab Duo จะมีอยู่ 1 GB ทำให้รองรับการทำงานของแอพฯ ได้มากกว่า ส่วนของ Smart Tab Upgrade นั้นเมื่อเล่นไปแล้วอาจช้าไม่ทันใจ ขอแนะนำให้หาแอพฯ ที่ใช้ Kill Process มาเสริมหรือปิดแอพฯ ที่ไม่ใช้งานไปเป็นระยะๆ จะทำให้ใช้งานได้ดีขึ้น
ความจุภายในทั้งสองเครื่องมีอยู่ 8 GB เท่ากัน รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 32 GB ทั้งสองเครื่อง
ทดสอบด้วย Antutu Benchmark v3.2.1 แล้ว Worldtech Smart Tab Duo ได้ที่ 2,885 คะแนน ส่วนของ Smart Tab Upgrade จะน้อยกว่าราว 500 คะแนน?
GLBenchmark 2.5.1 ทดสอบด้วย Egypt Classic จะได้ที่ 39 FPS Offscreen แล้วอยู่ที่ 14 FPS ส่วนของ Smart Tab Upgrade อยู่ที่ 28 FPS ส่วนของ Offscreen ได้ 10 FPS?
ด้านของการใช้งานนั้น ที่หน้า Lock Screen จะเหมือนเดิม แต่เราสามารถปลดล็อคแล้วเลือกเข้าสู่แอพฯ ที่เปิดค้างเอาไว้ได้ด้วยใน Android เวอร์ชั่น 4.1 ของ Worldtech Smart Tab นี้ หรือเราจะเลือกปลดล็อคแบบปกติก็ได้เช่นกัน พอปลดล็อคเข้ามาแล้ว หน้า Home Screen จะเหมือนกับระบบปฏิบัติการ Android เครื่องอื่นๆ แต่จะเพิ่มปุ่มเพิ่มลดเสียงเข้ามาที่แถบด้านล่าง รวมเอาไว้กับกลุ่มของปุ่ม Back, Home, Recent Apps ให้เราสามารถเพิ่มลดเสียงได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องเลื่อนมือไปกดที่ปุ่มเพิ่มลดเสียงที่อยู่ด้านข้างเครื่องแบบแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ส่วนของ Widgets จะเหมือนกับเครื่องอื่นๆ ที่ติดตั้ง Android เวอร์ชั่น 4.0.4 เป็นต้นมา คือจะรวมเอาไว้ที่หน้าเดียวกับแอพพลิเคชั่นในตัวเครื่อง
ส่วนของความร้อนเวลาใช้งานเต็มที่แล้วจะร้อนขึ้นมาที่ฝาหลังจนรู้สึกได้ แต่ไม่ร้อนมากนักจนรบกวนเวลาใช้งาน ส่วนระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องจะไม่เกิน 5 ชั่วโมง นับว่าไม่มากนัก
Conclusion / Award
แท็บเล็ตทั้งสองรุ่น ทั้ง Worldtech Smart Tab Upgrade หรือ Smart Tab Duo นั้นถือว่าเป็นแท็บเล็ตเน้นที่ราคาคุ้มค่า ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้ มีสเปกอยู่ในระดับปานกลาง เน้นการใช้งาน Social Network กับท่องเว็บเป็นหลัก และถ้าต้องการเล่นเกมสามมิติด้วยแล้ว ขอแนะนำเป็น Worldtech Smart Tab Duo มากกว่า Worldtech Smart Tab Upgrade ที่เน้นผู้ใช้ทั่วๆ ไป เพราะซีพียูแบบ Dual-Core รองรับการเล่นเกมสามมิติได้ดีกว่า
Smart Tab Upgrade นั้นจะเน้นราคาไม่แพงและคุ้มค่าสำหรับเล่นเน็ตเป็นหลัก สามารถเล่นเกมได้ระดับหนึ่ง แต่เกมสามมิติอาจเล่นได้ไม่ลื่นนัก เพราะเป็นซีพียูและกราฟิกการ์ดเป็นแบบ Singel Core ทั้งคู่ และแรมที่ 512 MB เท่านั้น จึงเหมาะกับคนที่เน้นเอาไปใช้ท่องเว็บหรือเล่น Facebook เป็นหลัก รวมทั้งมีราคาไม่แพงเกินไปอีกด้วย
ข้อดี
- ราคาถูกคุ้มค่า สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย
- ช่องเชื่อมต่อต่างๆ รวมเอาไว้จุดเดียว
- ปุ่ม Reset หาเจอง่าย
- มีปุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียงที่แถบด้านล่างแบบ Sensitive Touch
- หน้าจอทำให้ตาลายได้ง่าย
- ใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด
- การเชื่อมต่อไร้สายจะรองรับเฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น
- มีกล้องเพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น
ส่วนของ Smart Tab Duo ที่มีซีพียูและกราฟิกการ์ดแบบ Dual-Core นั้นจะใช้งานได้รอบด้านกว่า ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือท่องเว็บก็ทำได้ดีกว่ารุ่น Smart Tab Upgrade หลายอย่าง แต่ราคาก็สูงกว่าเช่นกัน ตัวเครื่องจะจับได้กระชับมือกว่าและมีช่องเชื่อมต่อมากกว่า โดยเฉพาะ Mini HDMI ที่ติดตั้งเข้ามาให้ สำหรับใครที่จะดูคลิปผ่าน Youtube ก็สามารถนำไปเชื่อมต่อเข้ากับจอที่รองรับพอร์ต HDMI ได้ด้วย
ข้อดี
- งานประกอบเรียบร้อย?
- หน้าจอเทียบแล้วดีกว่า Smart Tab Upgrade ใช้งานต่อเนื่องไม่ลายตานัก
- มีกล้องสองตัว ทั้งด้านหน้าและหลัง
- มีพอร์ต Mini HDMI ติดตั้งมาให้
ข้อสังเกต
- ระบบเชื่อมต่อไร้สายมีแค่ระบบ Wi-Fi เท่านั้น
- ใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด
Specification
Worldtech Smart Tab Upgrade
หน้าจอของเครื่องอยู่ที่ 7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 400 พิกเซล เป็นจอแบบ LCD พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0.4 ติดตั้งมาให้ ทำงานด้วยซีพียู Boxchip A13 ความเร็ว 1.2 GHz เป็นแบบ Singel-Core ทำงานร่วมกับกราฟิกการ์ด Mali 400 ?(Single Core) มีแรมขนาด 512 MB กับหน่วยความจำจุ 8 GB ด้วยกัน ด้านของแบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion ขนาด 2400 mAh ติดตั้งมาให้
ตัวเครื่องจะติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลมาให้หนึ่งตัว รองรับการทำ Video Call รองรับการเชื่อมต่อผ่าน microUSB, Audio Jack และ Wi-Fi สามารถอัพเกรดหน่วยความจำได้ที่ช่อง microSD Slot ได้ถึง 32 GB สนนราคาที่ 2,590 บาท
ชมสเปกเต็มๆ ได้ที่นี่
Worldtech Smart Tab Duo
Worldtech Smart Tab Duo เองก็เป็นแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วเช่นกันกับหน้าจอความละเอียด 800 x 600 พิกเซล พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.1 ติดตั้งมาให้ ใช้ซีพียู ARM Cortex A9 แบบ Dual-Core ความเร็ว 1.5 GHz และกราฟิกการ์ด Mali 400 (Dual Core) มีแรมขนาด 1 GB พร้อมกับหน่วยความจำขนาด 8 GB ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion ขนาด 2700 mAh
กล้องของ Worldtech Smart Tab Duo จะมีสองตัว ได้แก่กล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลกับกล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล รองรับการทำ Video Call รวมทั้งมีช่องเชื่อมต่อ Mini HDMI, microUSB Port, Audio Jack และ Wi-Fi, microSD Slot ที่รองรับความจุ 32 GB มีราคา 3,890 บาท
ชมสเปกเต็มๆ ได้ที่นี่
Hardware / Design
Worldtech Smart Tab Upgrade
วัสดุที่นำมาประกอบแท็บเล็ต Worldtech Smart Tab Upgrade จะเป็นพลาสติกทั้งหมด ด้านหน้าใช้สีดำและด้านหลังเป็นสีขาวด้วย ส่วนของขอบจอจนถึงขอบของตัวเครื่องจะมีระยะห่างพอควร เพื่อให้มือไม่สัมผัสถูกเวลาใช้งาน และส่วนขอบบนขวามือจะติดตั้งกล้องความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลเอาไว้อีกหนึ่งตัว และเป็นเพียงตัวเดียวสำหรับ Worldtech Smart Tab Upgrade มิติตัวเครื่องอยู่ที่ 192 x 114 x 12 มิลลิเมตร
ดีไซน์ด้านหลังจะสกรีนโลโก้และชื่อรุ่นเอาไว้ด้วยสีดำชัดเจนและมีรายละเอียดต่างๆ เขียนเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ เวลาต้องการใช้งานจะสามารถหาได้สะดวก ทั้งปุ่มเปิดปิดเครื่องหรือแม้กระทั่ง microSD Slot ก็อยู่ตรงนี้ทั้งหมด รวมถึงปุ่ม Reset อีกด้วย ส่วนฝั่งขวาด้านบนจะเป็นลำโพงหนึ่งตัว
Worldtech Smart Tab Duo
ตัวเครื่องของ Worldtech Smart Tab Duo จะใช้วัสดุภายนอกเครื่องเป็นพลาสติกทั้งหมด ด้านหน้าเป็นกรอบสีดำและด้านหลังเป็นสีขาว มีระยะจากขอบหน้าจอจนถึงขอบตัวเครื่องเพียงพอให้ถือแท็บเล็ตแล้วอุ้งมือจะไม่สัมผัสโดนที่หน้าจอขณะที่ใช้งานอยู่ ส่วนด้านขอบบนขวามือจะมีกล้องความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลติดตั้งเอาไว้ทำ Video Call มีมิติตัวเครื่องที่ 190 x 113 x 10 มิลลิเมตร
ด้านหลังจะเป็นพลาสติกสีขาวสะอาดพร้อมกับสกรีนโลโก้ยี่ห้อและรุ่นผลิตภัณฑ์เอาไว้เรียบร้อย โดยด้านซ้ายมือจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ รวมเอาไว้ที่จุดเดียว หาเจอได้สะดวก ถัดเข้ามาเป็นกล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ฝั่งขวาระดับเดียวกับกล้องจะเป็นลำโพงของเครื่อง ส่วนด้านล่างของกล้องจะเป็นปุ่มสำหรับ Reset เมื่อตัวเครื่องค้างหรือเกิดปัญหาขึ้นแล้วไม่สามารถดับเครื่องได้ โดย Worldtech Smart Tab Duo จัดวางเอาไว้ได้ชัดเจนหาง่าย?
Screen / Speaker
ทั้งสองเครื่องมีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 600 พิกเซล และเป็นจอ LCD รองรับการแตะสัมผัส 5 จุดพร้อมกันทั้งรุ่น Upgrade และ Duo รวมทั้งดีไซน์ให้ใช้งานในแนวนอน หน้าจอของทั้งสองรุ่น เป็นจอแบบ LCD แบบ TN ทำให้มุมมองไม่กว้างนัก และองศาการมองจะไม่กว้าง ซึ่งจอของทั้งสองรุ่นจะแสดงผลได้ดีที่สุดคือมองด้านหน้าตรง โดยรุ่น Upgrade พอใช้งานนานๆ แล้ว ตาจะลายง่ายกว่ารุ่น Duo ส่วนมุมเฉียงจะมีองศามองไม่มากนักก่อนที่สีจะเพี้ยน ไม่เหมือนกับจอ IPS ที่ให้องศาการมองกว้างกว่า
ลำโพงที่ติดตั้งเอาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง Worldtech Smart Tab ทั้งสองรุ่นนั้นติดตั้งเอาไว้ที่มุมบนขวา และจะอยู่ที่เหนือมือซ้ายเมื่อใช้งานแบบปกติ เวลาจับใช้งานแล้ว มือจะไม่พาดทับหน้าลำโพง เวลาดูคลิปหรือเล่นเกมจะได้ยินเสียงชัดเจน ไม่ต้องขยับมือหลบลำโพง ส่วนของคุณภาพเสียงนั้นสมราคา โดยเทียบเท่าแท็บเล็ตที่มีราคาใกล้เคียงกัน โดยแนะนำให้ต่อหูฟังเพิ่มเวลาฟังเพลงจะดีกว่าใช้ลำโพงที่ติดตั้งมาให้
Connector / Thin And Weight
Worldtech Smart Tab Upgrade จะรวมช่องสำหรับเชื่อมต่อทั้งหมดเอาไว้ที่ด้านซ้ายของเครื่อง จากซ้ายมือไป จะมีไมค์อยู่หนึ่งตัวกับปุ่มเพิ่มและลดเสียง มีช่องสำหรับใส่ microSD Card ติดตั้งเอาไว้ติดๆ กัน ต่อด้วยช่องสำหรับเชื่อมต่ออะแดปเตอร์, USB Port, Audio Jack และปุ่มสำหรับเปิดและปิดเครื่อง น้ำหนักอยู่ที่ 314 กรัม ไล่เลี่ยกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ เช่น iPad mini ที่หนัก 312 กรัม และ Acer ICONIA B1 ที่หนัก 308 กรัม ตัวเครื่องหนา 12 มิลลิเมตร ทำให้รู้สึกว่าเทอะทะไปบ้าง
ภายในกล่องจะมีสายต่างๆ แถมมาให้ครบครัน ทั้งอะแดปเตอร์, สาย USB รวมทั้งหูฟัง ซึ่งเป็นการแยกหน้าที่ของสายแต่ละสายออกจากกันทั้งหมด ต่างจากแท็บเล็ตยุคใหม่ที่จะใช้สาย USB ต่อกับหัวอะแดปเตอร์เป็นอะแดปเตอร์ได้ด้วย ทำให้ลดภาระเวลาพกไปใช้ชาร์จไฟในที่อื่นๆ?
ด้านของ Worldtech Smart Tab Duo จะวางปุ่มคล้ายกับรุ่น Upgrade แต่ระหว่างปุ่มเพิ่มลดเสียงและ USB Port นั้น จะมีพอร์ต Mini HDMI เสริมเข้ามาให้พร้อมกับสายสำหรับแปลงสัญญาณแถมมาให้ในกล่องด้วย โดยปุ่มแต่ละปุ่มจะมีตำแหน่งวางตัวแผ่กว้างกว่ารุ่น Upgrade เล็กน้อย เพื่อให้พื้นที่กับ Mini HDMI ที่เสริมเข้ามาอีกหนึ่งช่อง และพอร์ตต่างๆ จะมีสายเฉพาะของตนด้วย ส่วนของความหนาที่ 10 มิลลิเมตร รู้สึกเข้ามือกว่า Smart Tab Upgrade พอควร ?รวมทั้งน้ำหนักอยู่ที่ 333 กรัม ถึงน้ำหนักจะมากกว่าแต่พอใช้จริงกลับไม่หนักจนรบกวนการใช้งานอย่างที่คิด
Performance / Software
ส่วนของระบบปฏิบัติการใน Worldtech Smart Tab Upgrade จะเป็น Android 4.0.4 Ice cream Sandwich สามารถอัพเกรดเป็น Jelly Bean ได้ในภายหลัง ส่วนของ?Worldtech Smart Tab Duo จะเป็น Android 4.1 Jelly Bean
ส่วนของแรมภายทั้งสองเครื่องนั้น Worldtech Smart Tab Upgrade มีอยู่ 512 MB ส่วนของ Smart Tab Duo จะมีอยู่ 1 GB ทำให้รองรับการทำงานของแอพฯ ได้มากกว่า ส่วนของ Smart Tab Upgrade นั้นเมื่อเล่นไปแล้วอาจช้าไม่ทันใจ ขอแนะนำให้หาแอพฯ ที่ใช้ Kill Process มาเสริมหรือปิดแอพฯ ที่ไม่ใช้งานไปเป็นระยะๆ จะทำให้ใช้งานได้ดีขึ้น
ความจุภายในทั้งสองเครื่องมีอยู่ 8 GB เท่ากัน รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 32 GB ทั้งสองเครื่อง
ทดสอบด้วย Antutu Benchmark v3.2.1 แล้ว Worldtech Smart Tab Duo ได้ที่ 2,885 คะแนน ส่วนของ Smart Tab Upgrade จะน้อยกว่าราว 500 คะแนน?
GLBenchmark 2.5.1 ทดสอบด้วย Egypt Classic จะได้ที่ 39 FPS Offscreen แล้วอยู่ที่ 14 FPS ส่วนของ Smart Tab Upgrade อยู่ที่ 28 FPS ส่วนของ Offscreen ได้ 10 FPS?
ด้านของการใช้งานนั้น ที่หน้า Lock Screen จะเหมือนเดิม แต่เราสามารถปลดล็อคแล้วเลือกเข้าสู่แอพฯ ที่เปิดค้างเอาไว้ได้ด้วยใน Android เวอร์ชั่น 4.1 ของ Worldtech Smart Tab นี้ หรือเราจะเลือกปลดล็อคแบบปกติก็ได้เช่นกัน พอปลดล็อคเข้ามาแล้ว หน้า Home Screen จะเหมือนกับระบบปฏิบัติการ Android เครื่องอื่นๆ แต่จะเพิ่มปุ่มเพิ่มลดเสียงเข้ามาที่แถบด้านล่าง รวมเอาไว้กับกลุ่มของปุ่ม Back, Home, Recent Apps ให้เราสามารถเพิ่มลดเสียงได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องเลื่อนมือไปกดที่ปุ่มเพิ่มลดเสียงที่อยู่ด้านข้างเครื่องแบบแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ส่วนของ Widgets จะเหมือนกับเครื่องอื่นๆ ที่ติดตั้ง Android เวอร์ชั่น 4.0.4 เป็นต้นมา คือจะรวมเอาไว้ที่หน้าเดียวกับแอพพลิเคชั่นในตัวเครื่อง
ส่วนของความร้อนเวลาใช้งานเต็มที่แล้วจะร้อนขึ้นมาที่ฝาหลังจนรู้สึกได้ แต่ไม่ร้อนมากนักจนรบกวนเวลาใช้งาน ส่วนระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องจะไม่เกิน 5 ชั่วโมง นับว่าไม่มากนัก
Conclusion / Award
แท็บเล็ตทั้งสองรุ่น ทั้ง Worldtech Smart Tab Upgrade หรือ Smart Tab Duo นั้นถือว่าเป็นแท็บเล็ตเน้นที่ราคาคุ้มค่า ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้ มีสเปกอยู่ในระดับปานกลาง เน้นการใช้งาน Social Network กับท่องเว็บเป็นหลัก และถ้าต้องการเล่นเกมสามมิติด้วยแล้ว ขอแนะนำเป็น Worldtech Smart Tab Duo มากกว่า Worldtech Smart Tab Upgrade ที่เน้นผู้ใช้ทั่วๆ ไป เพราะซีพียูแบบ Dual-Core รองรับการเล่นเกมสามมิติได้ดีกว่า
Smart Tab Upgrade นั้นจะเน้นราคาไม่แพงและคุ้มค่าสำหรับเล่นเน็ตเป็นหลัก สามารถเล่นเกมได้ระดับหนึ่ง แต่เกมสามมิติอาจเล่นได้ไม่ลื่นนัก เพราะเป็นซีพียูและกราฟิกการ์ดเป็นแบบ Singel Core ทั้งคู่ และแรมที่ 512 MB เท่านั้น จึงเหมาะกับคนที่เน้นเอาไปใช้ท่องเว็บหรือเล่น Facebook เป็นหลัก รวมทั้งมีราคาไม่แพงเกินไปอีกด้วย
ข้อดี
- ราคาถูกคุ้มค่า สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย
- ช่องเชื่อมต่อต่างๆ รวมเอาไว้จุดเดียว
- ปุ่ม Reset หาเจอง่าย
- มีปุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียงที่แถบด้านล่างแบบ Sensitive Touch
- หน้าจอทำให้ตาลายได้ง่าย
- ใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด
- การเชื่อมต่อไร้สายจะรองรับเฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น
- มีกล้องเพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น
ส่วนของ Smart Tab Duo ที่มีซีพียูและกราฟิกการ์ดแบบ Dual-Core นั้นจะใช้งานได้รอบด้านกว่า ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือท่องเว็บก็ทำได้ดีกว่ารุ่น Smart Tab Upgrade หลายอย่าง แต่ราคาก็สูงกว่าเช่นกัน ตัวเครื่องจะจับได้กระชับมือกว่าและมีช่องเชื่อมต่อมากกว่า โดยเฉพาะ Mini HDMI ที่ติดตั้งเข้ามาให้ สำหรับใครที่จะดูคลิปผ่าน Youtube ก็สามารถนำไปเชื่อมต่อเข้ากับจอที่รองรับพอร์ต HDMI ได้ด้วย
ข้อดี
- งานประกอบเรียบร้อย?
- หน้าจอเทียบแล้วดีกว่า Smart Tab Upgrade ใช้งานต่อเนื่องไม่ลายตานัก
- มีกล้องสองตัว ทั้งด้านหน้าและหลัง
- มีพอร์ต Mini HDMI ติดตั้งมาให้
ข้อสังเกต
- ระบบเชื่อมต่อไร้สายมีแค่ระบบ Wi-Fi เท่านั้น
- ใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด