หูฟังชั้นนำหลายๆ ยี่ห้อมักมีผู้ก่อตั้งเกี่ยวข้องกับวงการเพลงหรือเสียงเพลงเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่ง Motorheadphone เองก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ผู้ก่อตั้งเกี่ยวข้องกับวงการดนตรี เริ่มต้นเป็นวงดนตรีเฮฟวี่ เมทัล (Heavy Metal) ในชื่อ Mot?rhead มีพื้นเพเป็นวงจากประเทศอังกฤษ เริ่มก่อตั้งในปี 1975 จนถึงปัจจุบันก็ยังมีผลงานออกมาเรื่อยๆ โดยในวันนี้มีหูฟังสองรุ่นสองสไตล์จาก Mot?rheadphone มารีวิวกัน โดยรุ่นแรก คือ Mot?rheadphone Overkill Silver เป็นหูฟังแบบ In-ear และ Mot?rheadphone Mot?rizer ที่เป็นหูฟังประเภท Semi-Full Size อีกหนึ่งรุ่นด้วยกัน โดยชื่อรุ่นนั้นมาจากชื่ออัลบั้มของวง
Mot?rheadphone Overkill Silver
Mot?rheadphone Overkill Silver เป็นหูฟังแบบ In-ear ที่ทาง Mot?rheadphone วางขาย ราคาอยู่ที่ 1,980 บาท ตัวกล่องดีไซน์เหมือนกล่องใส่ลำโพงในงานคอนเสิร์ตที่จะเดินขอบด้วยอะลูมิเนียม สีกล่องจะใช้สีขาวและดำเป็นหลักพร้อมกับชื่อรุ่นที่มุมบนซ้าย ตราใบโพธิ์ดำที่มุมบนขวามือ ตรงกลางเป็นโลโก้ของวงติดอยู่ที่ด้านหน้ากล่องกับคำว่า ?Everything lounder than everything else? ที่เป็นชื่ออัลบั้มแสดงสดลำดับที่ 3 ของวงนั่นเอง
ด้านหลังของกล่องเป็นรูปภาพตัวอย่างของ Mot?rheadphone Overkill Silver ที่บรรจุเอาไว้ในกล่องพร้อมคำอธิบายรายละเอียดของตัวหูฟังรุ่นนี้ รวมทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของตัวกล่องจะเป็นสเปกของ Mot?rheadphone Overkill Silver เอง ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งรายละเอียดของสเปกมีดังนี้
- ตัวหูฟังจะมีส่วนของไมโครโฟน
- ไดรฟ์เวอร์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 9 มิลลิเมตร
- ค่า Sensitivity อยู่ที่ 96 dB SPI. (1mW) ที่ 1KHz
- ค่า Frequency Response ที่ 20 ? 20,000 Hz
- Max Input อยู่ที่ 50 mW
- Rated Impedance อยู่ที่ 16 โอห์ม ต่อ 1 KHz
- จุกยางมีสามขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
- ตัวสายหูฟังยาว 1 เมตร
- หัวแจ็คเชื่อมต่อเคลือบด้วยทองคำ มีขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 16 กรัม
อุปกรณ์ทั้งหมดที่มีมาให้ใน Mot?rheadphone Overkill Silver จะมีตัวหูฟัง, จุกยางสามขนาด, หัวแจ็คสำหรับแปลงสัญญาณและถุงสำหรับใส่หูฟังสีดำพร้อมสกรีนโลโก้เอาไว้
ตัวหูฟังจะเป็นโครเมียมสีเงินมันวาวสวยงามพร้อมกับปลายเป็นจุกยาง ทรงคล้ายกระสุนปืน สมกับเป็นหูฟังสำหรับชาวเมทัลดี ด้านท้ายของหูฟังจะเป็นท้ายตัดเรียบพร้อมสลักชื่อยี่ห้อเอาไว้ ส่วนของสัญลักษณ์ L, R แบ่งฝั่งซ้ายขวาจะเขียนเอาไว้ที่ข้อต่อระหว่างสายกับตัวหูฟัง ทำให้ไม่ต้องสลักสัญลักษณ์เอาไว้ที่ตัวหูฟัง แต่ข้อเสียนั้นคือแรกๆ จะหาฝั่งของหูฟังได้ยากอยู่
สายจะเป็นสายถักไม่ใช่สายพลาสติกยางเหมือนกับหูฟังบางรุ่น ทำให้ไม่เสียหายง่ายและสวยงามอีกด้วย เลื่อนลงมาอีกจะเป็นชุดไมโครโฟนพร้อมปุ่มสวิตช์สั่งเปิดและปิดเพลงที่กำลังเล่นอยู่ได้เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่มีโปรแกรมรองรับด้วย ปุ่มสวิตช์หาเจอง่าย แต่ปุ่มกดแข็งพอควร ทำให้เวลาตอนฟังเพลงอยู่แล้วมีสายเข้า (กรณีต่อกับสมาร์ทโฟน) รับสายได้ยากพอควร และที่จุดล่างสุดจะเป็นหัวเลื่อนสำหรับกระชับสายหูฟังให้ชิดเข้าหรือห่างจากเดิมได้ด้วย ทำจากโครเมี่ยมเหมือนกัน
หัวแจ็คจะเป็นข้อต่อทรงตัว L มีส่วนเป็นพลาสติกสลับกับโครเมียมสีเงิน หุ้มตัวแจ็คด้วยทองคำให้นำสัญญาณเสียงได้ดียิ่งขึ้น
เวลาเชื่อมต่อก็สามารถต่อได้ทั้งแบบตรงและผ่านหัวแปลงก็ได้ซึ่งจะทำให้สายยาวขึ้นอีกเล็กน้อย และหัวต่อมีน้ำหนักระดับหนึ่งทำให้ตอนต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลงแล้ว น้ำหนักของหัวแจ็คตัวเมียจะดึงให้คู่หัวแจ็คทั้งสองอันตกลง ทำให้หูฟังหลุดจากหูได้ง่ายขึ้น แต่คาดว่าทาง Mot?rheadphone เองก็ทราบว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นจะไม่รองรับหูฟังแน่นอนถ้าเชื่อมต่อเข้าไปตรงๆ ดังนั้นหัวแจ็คแปลงจึงเป็นตัวกลางให้ Mot?rheadphone Overkill Silver สามารถต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา
ทดลองใช้งานจริงแล้ว ตัวหูฟังมีข้อดีที่สามารถปรับหัวยางได้สามระดับ คือหัวยางขนาดเล็ก, กลางและใหญ่ เพื่อให้เข้ากับขนาดของรูหูของผู้ใช้ได้ดี ตัวจุกยางเข้ารูปทำให้เมื่อสวมใส่แล้วจะไม่หลุดออกจากหูง่ายด้วยคุณสมบัติของยางเอง ส่วนของเสียงรบกวนจากภายนอกถ้าไม่ถึงระดับเสียงของเครื่องยนต์ก็จะไม่ลอดเข้ามามากนัก ส่วนคุณภาพเสียงของ Mot?rheadphone Overkill Silver ถือว่าอยู่ในระดับสมราคา สเตจชิดพอควรและเน้นเสียงร้อง, กีตาร์และเสียงกลองมากเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าใครชอบฟังเพลงเมทัลหรือเพลงร็อคก็ควรเก็บ Mot?rheadphone Overkill Silver ตัวนี้เอาไว้เป็นอีกตัวเลือกเวลาเลือกซื้อหูฟังใหม่
ข้อดี
- งานประกอบเรียบร้อยสวยงาม
- พกพาสะดวก รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
- มีหัวแปลงสัญญาณมาให้ในชุดจำหน่าย
- มีจุกยางสำหรับเปลี่ยนสามขนาด
- สายถักคุณภาพดี แข็งแรงไม่เสียหายง่ายๆ
- เสียงดี ฟังเพลงได้หลากหลายแนว
ข้อสังเกต
- สายหูฟังสั้นเพียงแค่ 1 เมตรเท่านั้น
- เสียงแทรกลอดเข้ามาได้ง่าย
- หาสัญลักษณ์ L, R แบ่งฝั่งได้ยาก
?
Mot?rheadphone Mot?rizer
ด้านของ Mot?rheadphone Mot?rizer เป็นหูฟังแบบ Semi-Full Size (หรือ Over-the-Ear) ของทาง Mot?rheadphone ราคา 4,260 บาท สเปกเป็นดังนี้
- ไดรฟ์เวอร์ขนาด 40 มิลลิเมตร ทำจาก Neodymium
- Sensitivity อยู่ที่ 102 dB SPL (1mW) ที่ 1 KHz
- Frequency Response อยู่ที่ 10-20,000 Hz
- Max Input ที่ 200 mW
- Rated Impedance อยู่ที่ 68 โอห์ม ต่อ 1 KHz
- วัสดุทำที่ครอบหูเป็นผ้ากำมะหยี่
- สายสัญญาณยาว 2.5 เมตร เป็นสายตรงเส้นเดียว
- แจ็คขนาด 3.5 มิลลิเมตรเคลือบด้วยทองคำ
- น้ำหนัก 238 กรัม
ตัวหูฟัง Mot?rheadphone Mot?rizer จะใช้สีดำเป็นสีหลักพร้อมกับติดโลโก้ทำจากโลหะสีเงินเอาไว้ที่ข้างหูฟังและใช้โครงอะลูมิเนียมในส่วนของแขนจับที่ครอบหูจนกระทั่งถึงโครงที่คาดหัว ส่วนของที่คาดหัวเองจะเป็นพลาสติกสีดำ
ด้านนอกของที่คาดหัวจะเป็นพลาสติกแข็งเนื้อเดียวกับด้านนอกของที่ครอบหู ส่วนด้านในที่ครอบหัวจะเป็นยาง เวลาฟังเพลงแล้วขยับหัวไปมาจะไม่หลุดง่าย แต่ว่า Mot?rheadphone Mot?rizer จะไม่มีขาเลื่อนเหมือนกับหูฟังรุ่นอื่นๆ แต่ตัวหูฟังยืดหยุ่นพอรองรับศีรษะของผู้ใช้ได้หลายขนาด ส่วนของสายหูฟังจะเป็นหัวแจ็คเคลือบด้วยทองคำยื่นออกมาสั้นๆ ทำให้ถอดเปลี่ยนสายหูฟังได้ง่ายเมื่อซื้อสายมาใหม่
ด้านในของที่ครอบหูจะบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีดำเอาไว้รองรับบริเวณรอบหูและมีฟองน้ำอยู่ภายใน ทำให้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานโดยไม่เจ็บที่รอบหู
สายหูฟังยาว 2.5 เมตรและเป็นสายถักพร้อมกับหัวต่อแจ็คที่ตัวหูฟังและปลายแจ็คเคลือบด้วยทองคำทั้งคู่ ส่วนหัวแจ็คมีขนาด 3.5 มิลลิเมตร ตามขนาดมาตรฐาน ข้อต่อเป็นทรงตัว L เช่นเดียวกับ Mot?rheadphone Overkill Silver
เมื่อทดลองใช้งานจริงแล้ว Mot?rheadphone Mot?rizer ถึงจะไม่มีขาเลื่อนปรับความยาวของตัวหูฟังเหมือนกับหูฟังแบบ Semi-Full Size รุ่นอื่นๆ แต่ความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของอะลูมิเนียม ทำให้ตัวหูฟังสามรถปรับตัวเข้ากับศีรษะของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ส่วนของน้ำหนักที่กดให้ที่ครอบหูแนบเข้ากับหูของผู้ใช้ก็ทำได้กำลังดี เวลาหันหัวเร็วๆ แล้วตัวหูฟังจะไม่ลื่นหลุดได้ง่ายๆ ป้องกันเสียงกวนจากภายนอกได้ดีกว่า Mot?rheadphone Overkill Silver โดยเสียงลอดจะเบากว่า Overkill แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีเสียงรบกวนลอดเข้ามาเลย เสียงจะแน่นและทุ้มกว่า Mot?rheadphone Overkill Silver เสียงจะขุ่นกว่ารุ่น Overkill Silver ระดับหนึ่ง จึงเหมาะกับคนที่ฟังเพลงแนวเมทัลมากกว่า
สายหูฟังเป็นจุดด้อยที่ทำให้พกติดตัวไปไหนไม่สะดวก สาย 2.5 เมตร ถ้าต่อกับ iPod หรือสมาร์ทโฟนแล้วต้องม้วนสายเก็บ ซึ่งวิธีการแก้ไขคือนำใส่กระเป๋าเป้แยกไว้จะดีกว่านำมาใส่ในกระเป๋ากางเกง
นับว่าดีไปคนละแบบ สำหรับ?Mot?rheadphone ทั้งสองรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Overkill Silver ที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้ทั่วไปที่จะนำไปใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนสามารถนำไปเชื่อมต่อได้ทันทีพร้อมกับมีไมค์และคอนโทรลเลอร์เวลามีสายเข้าก็สามารถรับสายและคุยสายได้ในทันที เสียงออกใสฟังสบายหูกว่ารุ่น?Mot?rizer ที่เน้นสำหรับนักฟังเพลงที่ชอบเพลงแนวเมทัลโดยเฉพาะ และตัวหูฟังเป็นแบบ Semi-Full Size ที่ออกแบบมาเพื่อฟังเพลงจะพกพาไม่สะดวกเท่ารุ่น Overkill Silver แต่คุณภาพเสียงก็นับได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่ฟังเพลงได้ดีไม่แพ้หูฟังยี่ห้อดังๆ ยี่ห้ออื่น
ข้อดี
- งานประกอบเรียบร้อย ดีไซน์สวยแปลกตา
- ที่ครอบหูเป็นฟองน้ำบุผ้ากำมะหยี่ ใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน
- ใช้อะลูมิเนียมเป็นโครงสร้างหลัก แข็งแรงทนทาน
- ด้านในที่ครอบหัวเป็นยาง ทำให้ไม่ลื่นหลุดง่ายเวลาสวมใส่
- มีเสียงลอดเข้ามาน้อยมาก
ข้อสังเกต
- ไม่มีตัวเลื่อนปรับความยาวของหูฟัง
- สายหูฟังยาวมาก พกพาไม่สะดวก