สวัสดีเพื่อนๆ ชาว NotebookSPEC วันนี้เราได้แท็บเล็ตแบรนด์ aigo ที่หลายๆ คนคงรู้จักกันดีเพราะด้วยราคาที่ไม่แพงที่ทุกคนสามารถหาซื้อมาใช้งานได้ และตัวล่างๆ ราคาเพียง 1,xxx กว่าบาทเท่านั้น ส่วนคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่อยากแนะนำ เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ เลย
ส่วนรุ่นที่เราจะนำมา Review ในครั้งนี้ชื่อรุ่นว่า M80E ซึ่งมีขนาดจออยู่ที่ 8 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1280×768 พิกเซล ชิปประมวลผลแบบ Dual Core มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุดอย่าง Android เวอร์ชั่น 4.2 ความลื่นไหลในการใช้งานจะแตกต่างจากเวอร์ชั่น 4.1 มากน้อยเพียงใดเดี๋ยวเรามาสัมผัสไปพร้อมๆ กัน !!
Specification
สเปกเต็มและราคา https://notebookspec.com/tablet/aigoPad-M80E/470
แท็บเล็ต aigoPad M80E มาพร้อมชิปประมวลผลแบบ Dual Core ความเร็ว 1.5GHz ความแรงอยู่ในระดับมาตราฐานทั่วไปของแท็บเล็ตรุ่นกลางๆ ใช้งานได้หลายระดับ มีกราฟิกการ์ดในตัวอย่าง Mail400MP2 ที่ช่วยในส่วนประมวลผลของกราฟิกความแรงถือว่ากลางๆใช้งานได้ดีเลยทั้งเล่นเกมส์และใช้งานกราฟิกอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นตัวที่ใส่มาในท้องตลาดอย่างแพร่หลาย เพราะประสิทธิภาพต่อราคาค่อนข้างคุ้มค่า แท็บเล็ต aigoPad M80E มี ROM ในตัว 8GB สามารถลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้มากมาย, เกมส์, หรือไฟล์งานต่างๆ แต่ในปัจจุบันอาจจะดูน้อยไปสักนิดสำหรับบางท่าน แต่ aigoPad M80E สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ Micro SD ได้ รองรับสูงสุด 32GB งานนี้จะเก็บหนัง, หรือไฟล์สำคัญๆ ก็พื้นที่มีเหลือเฟือกันเลย
ส่วนของ RAM ใส่มา 1GB ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตราฐานใช้งานได้ดี ถือว่าดีกว่าบางรุ่นที่ราคาใกล้เคียงกันแต่ใส่มาเพียง 512MB คิดว่าในปัจจุบันถือว่าน้อยไปแล้ว แท็บเล็ต aigoPad M80E มีขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ความละเอียด 1280×768 พิกเซล ถือว่าเป็นมาตราฐานของแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 8 นิ้ว แต่เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้วที่ความละเอียดมาตราฐาน 1024×600 ถือว่าชัดกว่าพอสมควรเหมือนกัน ตัวเครื่องก็มีพอร์ตต่างๆ อย่าง Micro USB, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่อง Micro SD Card, รองรับ Wi-Fi และมีกล้องด้านหน้าติดมาให้ใช้งานแบบวีดีโอคอลอีกด้วย แบตเตอรี่ภายในเครื่องขนาด 4000 มิลลิแอมป์ ใช้งานได้นานในระดับหนึ่ง น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 450 กรัม และสุดท้ายเลยสเปกทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้จบด้วยราคาเพียง 2,990 บาท เท่านั้น !!
Hardware / Design
แพ็ตเกจกล่องภายนอกค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว หลังจากแกะกล่องอุปกรณ์ออกมา ภายในกล่องก็จะมีตัวแท็บเล็ต aigoPad M80E, อแดปเตอร์, และสาย USB 1 เส้น, คู่มือ-ใบรับประกัน, ตัวแท็บเล็ต aigoPad M80E รูปทรงเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าเหมือนแท็บเล็ตทั่วๆ ไป หน้าจอเป็นกระจกใสเงาอยู่ด้านหน้าทั้งหมด ขอบจอด้านในหน้าจอสีดำรอบๆ ด้านขวาจะมีขนาดที่กว้างกว่าเพราะเมื่อใช้งานมือเดียวจะทำให้ถนัดขึ้นและนิ้วไม่ไปบังที่หน้าจอ การถือ-จับใช้งานค่อนข้างง่ายและนุ่มมือเพราะด้านหลังทำจากวัสดุที่เป็นซอฟท์ทัช พื้นผิวจะออกด้านๆ ให้ความรู้สึกนุ่มมือ จับถือได้อยู่มือไม่ลื่นเหมือนพื้นผิวพราสติกทั่วๆ ไป ที่นิ้วมีเหงื่อก็ลื่นแล้ว แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือง่ายเช่นกัน เราสามารถหาผ้ามาเช็ดออกได้ไม่มีปัญหาในส่วนนี้
ส่วนขอบตัวเครื่องรอบๆ ทำจากพราสติกออกสีน้ำตาลผิวมันๆ มีรวดลายเป็นประกายเล็กน้อยตลอดรอบเครื่องและตัวเครื่องมีความหนาเพียง 6.8 มิลลิเมตรเท่านั้นเองถือว่าค่อนข้างบางเลยทีเดียวทำให้จับแล้วรู้สึกว่าไม่หนักมือ งานประกอบก็ถือว่าแน่นหนาดีไม่มีจุดหลวมไม่โยกเยก ภาพรวมในการใช้งานถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลย ส่วนฮาร์ดแวร์ที่มาพร้อม Android เวอร์ชั่น 4.2 ที่มีข้อแตกต่างระหว่าง 4.1 อยู่นิดหน่อย เด็วเราจะมาทดสอบกันว่าจะลื่นมากน้อยเพียงใดกับ Android เวอร์ชั่น 4.2 ใน แท็บเล็ต aigoPad M80E ตัวนี้
Screen / Speaker
แท็บเล็ต aigoPad M80E มีขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ถือว่าขนาดกำลังพอดีกับการใช้งานทั่วๆ ไปถือจับกระชับมือ ความละเอียหน้าจอจะอยู่ที่ 1280×768 พิกเซล ถือว่าเป็นมาตราฐานของแท็บเล็ตหน้าจอ 8 นิ้ว โดยทั่วไป แต่ถ้าเอามาลองเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วที่มาตราฐานทั่วไปความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1024×600 พิกเซล ก็ถือว่าคมชัดขึ้นมาพอสมควรเลยกับขนาดหน้าจอที่ต่างกันเพียง 1 นิ้ว
อัตราส่วนบนจอภาพที่แสดงทำออกมาได้สมส่วนไม่ผิดเพี้ยน และจะมีแถบที่เป็นระบบสั่งงานต่างๆ อยู่ด้านล่างหน้าจอโดยจะมีปุ่มถอยหลัง, ปุ่มโฮม, ปุ่มดูโปรแกรมที่เปิดอยู่, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, และยังมีปุ่มสำหรับถ่ายภาพหน้าจอตรงกลางมาให้ใช้งานอีกด้วย ในส่วนนี้ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ทำให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นแยกเอาไว้เป็นส่วนๆ อย่างชัดเจน ในส่วนของการตอบสนองเมื่อหมุนจอใช้งานก็ทำได้รวดเร็วและไม่มีปัญหาแต่อย่างใดใช้งานได้ดี มุมมองหน้าจอมองได้รอบๆ 120 องศาเลย และในส่วนของเรื่องสีก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่สดหรือจืดจนเกินไปกำลังพอดี ส่วนลำโพงของแท็บเล็ต aidoPad M80E จะอยู่บริเวนด้านหลังเครื่องด้านขวามีลำโพงแค่ตัวเดียวคุณภาพเสียงทั่วไปพอใช้งาน อาจจะต้องระวังเวลาจับถือนิดหน่อยเพาะมืออาจจะไปบังช่องเสียงได้
Connector / Camera / Weight
รอบๆ ตัวเครื่องแท็บเล็ต aigoPad M80E ก็จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อและปุ่มใช้งานต่างๆ มาให้ บริเวณด้านบนมุมซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่มอยู่ 2 ปุ่มด้วยกัน ปุ่มแรกที่รูปเป็นวงกลมมีขีดตรงคือปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง สำหรับเปิด-ปิดพักหน้าจอ รวมไปถึงถ่ายภาพหน้าจอเมื่อกดพร้อมกันกับปุ่มลดเสียง ปุ่มถัดมาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง โดยจะมีรูป – กับ + แสดงกำกับเอาไว้อย่างชัดเจน ใกล้ๆ กับปุ่มพาวเวอร์จะมีช่องเล็กๆ อยู่คือช่องไมโครโฟนนั่นเอง
และด้านขวาของตัวเครื่องก็มีพอร์ตใช้งานให้มาเช่นกัน เริ่มจากด้านบนสุดจะเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร สำหรับฟังเพลง, ดูหนัง, หรืออยู่ในอารมณ์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวนั่นเอง ตัวเครื่องค่อนข้างบางสังเกตุได้จากช่องหูฟังหนากว่าตัวเครื่องไม่เท่าไหร่เอง ถัดมาจากช่องหูฟังจะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อ Micro SD Card ที่สามารถเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 32GB เลยทีเดียวเหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้เก็บข้อมูลเยอะๆ
คราวนี้ดูบริเวณด้านล่างจะมีพอร์ต Micro USB ที่สามารถเชื่อมต่อสายเข้ากับคอมพิวเตอร์เผื่อโอนถ่ายข้อมูล อาจจะใช้เป็นตัวชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมๆ กันก็ยังทำได้ และนอกจากนั้นยังสามารถต่อสาย USB OTG ต่อเข้ากับเมาส์หรือคีย์บอร์ด ใช้งานได้ด้วย แต่ถ้าใครจะใช้ทั้งสองอย่าง ต้องต่อเข้า Hub USB ก่อนอีกที เป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะแท็บเล็ตราคาสูงๆ บางตัวไม่สามารถทำได้ก็ยังมี และช่องกลมๆ อันสุดท้ายเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่ออแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเครื่องแท็บเล็ต aigoPad M80E นั่นเอง รวมๆ แล้วก็ถือว่าพอร์ตต่างๆ ที่ให้มาครบครันอยู่เหมือนกันสำหรับราคาเพียงเท่านี้
น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 466 กรัมถือว่าหนักตามมาตราฐานแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว แต่ตัวเครื่องมีความบางถือจับได้ง่ายโดยรวมแล้วพกพาได้อย่างสะดวก
และด้านหน้าตัวเครื่องจะมีกล้องอยู่หนึ่งตัวความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล การใช้งานพอใช้ไว้สำหรับใช้งานผ่านวีดีโอคอล หรือจะถ่ายรูปตัวเองก็ทำได้ความละเอียดภาพที่ได้จะอยู่ที่ 640×480 พิกเซล โดยรวมถือว่าพอใช้งาน
?
Software / Battery
หน้าหลักจะมีวิดเจ็ตต่างๆ เช่น Google Search สำหรับค้นหาข้อมูลอยู่ด้านบนสุดเพื่อความสะดวกในการหาข้อมูลต่างๆ และมุมขวาล่างเมื่อเอานิ้วไปสัมผัสจะมีเมนูเด้งขึ้นมา หลักๆ ก็จะมีเมนูสำหรับเปิด-ปิดตัวใช้งานต่างๆ เช่น Wi-Fi, ตัวแจ้งเตือน, ตัวเปิด-ปิดเสียง, ตั้งค่าหมุนหน้าจออัตโนมัติ รูปเฟืองสำหรับเข้าปรับการตั้งค่าทั้งหมด ตัวปรับแสงไฟลากไปมาตามความสว่างที่ต้องการได้เลย
เมนูแสดงการทำงานต่างๆ ภายในเครื่องเช่นเราติดตั้งโปรแกรมอะไรอยู่, เตือน Email เข้า, อื่นๆ นอกจากนั้นแถบด้านล่างของหน้าหลักจะมี Dock เมนูที่มีไอคอนเมนูต่างๆ สามารถเพิ่มปรับแต่งเองได้ 8 ตัวด้วยกัน ส่วนปุ่มวงกลมตรงกลางจะเป็นปุ่มสำหรับเข้าหน้าแอพพลิเคชั่น สิ่งที่เครื่องนี้ขาดไปคือ Bluetooth, และ GPS ที่ไม่มีมาให้ใช้งาน การใช้งานสัญญาณ Wi-Fi ถือว่าดีในระดับปานกลาง อาจจะมีกว่าแท็บเล็ตบางตัวที่ราคาสูงกว่าแต่จับสัญญาณได้ไม่ดีนัก
เมื่อเข้าสู่หน้าแอพพลิเคชั่นก็จะมีไอคอนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้เลือกใช้งาน เราสามารถย้ายแอพพลิเคชั่นตัวที่เราต้องการใช้งานไปไว้ที่หน้าหลักได้เผื่อความสะดวกในการใช้งาน นอกจากแอพพลิเคชั่นแล้วยังมีในส่วนของวิดเจ็ตที่อำนวยความสะดวกเช่นกัน โดยจะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบแล้วแต่ความถนัดของผู้ใช้งานเลย
และแอพพลิเคชั่นทั้งหลายรวมไปถึงโปรแกรมเกมส์ต่างๆ เราก็สามารถหาดาวน์ผ่าน Google Playstore ได้เลย โดยจะมีให้เลือกหลากหลาย บางตัวดีหน่อยที่เป็นแอพพลิเคชั่นฟรี ช่วยบางตัวก็อาจจะต้องใช้เงินซื้อมาใช้งาน โดยการซื้อผ่าน Google Playstore นั้น จะต้องเชื่อมต่อกับบัตรเครดิตเสียก่อนไม่งั้นไม่สามารถซื้อได้?
คราวนี้เราก็มาทดสอบการใช้งานเล่นเกมส์ 3D ดูบ้างว่าสเปกที่จัดมาที่ความแรงมากน้อยเพียงใด แต่ก็สามารถเล่นเกมส์ 3D แรงๆ หลายๆ เกมส์ได้อย่างลื่นไหลดีเพราะตัวเครื่องปรับการตั้งค่าให้เข้ากับตัวเครื่องเอง ทำให้มีความลื่นไหลขึ้น
และแอพพลิเคชั่นจำพวก Social ก็ใช้งานได้ดีไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, อื่นๆ และแท็บเล็ต aigoPad M80E มีกล้องหน้า สามารถใช้งานวีดีโอคอลได้ อาจจะผ่านโปรแกรมต่างๆ อย่าง Tango, Line, Wechat, และก็ Camfrog กล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลพอใช้งานได้
การทำงานบนหน้าเว็บไซต์การใช้งานดีในระดับหนึ่งเว็บทั่วๆ ไปลื่นไหลดี สำหรับบางเว็บไซต์อาจจะมีข้อมูลมาก อาจจะมีช้าบ้างบางจังหวะแต่โดยรวมใช้ได้ดีไม่ว่าจะเป็นแถวนอนหรือแนนตั้งอัตราส่วนของภาพก็ทำได้ดีตัวหนังสือบนหน้าเว็บไซต์ชัดเจน
นอกจากดูเว็บไซต์ทั่วๆ ไปแล้วสามารถดูวีดีโอแบบ HD ผ่านเว็บไซต์ได้อย่างลื่นไหล
Conclusion / Award
แท็บเล็ต aigoPad M80E โดยรวมถือว่ามามีความคุ้มค่าพอสมควร การทำงานที่หลากหลาย มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ชิปประมวลผลแบบ Dual Core ที่ใส่มาถือว่าพอเพียงสำหรับใช้งานในปัจจุบันเพราะด้วยเป็นแท็บเล็ตตัวล่างๆ จึงไม่ได้คาดหวังมากจะให้มาทำงานแบบหนักๆ แค่นี้ก็สามารถดูหนังระดับ HD ทำงาน, เล่นเกมส์ 3D ได้อย่างลื่นไหลแล้ว อาจจะมีช้าบ้างสำหรับการใช้งานหนักๆ การ์ดจอที่ใส่มาให้ก็สามารถเล่นเกมส์ 3D ได้อย่างดีเพราะระบบได้ปรับการตั้งค่าให้เข้ากับสเปกของตัวเครื่องเองจึงมีความลื่นไหลขึ้น
ROM 8GB และ RAM 1GB ถือว่าเป็นมาตราฐานของการใช้งานในปัจจุบันเลย ต่ำกว่านี้ถือว่าน้อยไปแล้วเพราะแต่ละโปรแกรมแต่ละแอพพลิเคชั่นค่อนข้างกินพื้นที่และใช้งานหนักๆ ก็มีมากมาย แต่สิ่งที่แท็บเล็ต aigoPad M80E ขาดไปคือ Bluetooth และ GPS แต่คุณภาพก็ควบคู่ไปกับราคาอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่จะตัดบางส่วนออกไป พูดถึงพอร์ตการใช้งานต่างๆ ก็ให้มาพอเพียงกับการใช้งาน และช่อง Micro USB ที่สามารถต่อสาย OTG ต่อเมาส์, คีย์บอร์ดแยกใช้งานได้แบบคอมพิวเตอร์ อันนี้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะแท็บเล็ตแพงๆ บางตัวยังไม่สามารถทำได้เลย
แท็บเล็ต aigoPad M80E เหมาะแก่คนที่ไม่ต้องอะไรมากมายใช้งานทั่วๆ ไปได้ดี ตามความต้องการก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องแรงมาก เพราะแท็บเล็ต aigoPad M80E จากที่ใช้งานก็เพียงพอสำหรับชีวิตประจำวันทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่ 4,000 มิลลิแอมป์ใช้งานได้ 3 – 5 ชั่วโมง ( แล้วแต่การใช้งาน ) แต่ถ้าใครคิดว่าไม่พอ ต้องมองหาตัวที่แบตอึดๆ กว่าตัวนี้แล้ว และแน่นอนว่าราคาต้องสูงกว่าพอสมควรเลย แต่อย่างที่บอกไปว่าคุณภาพตามราคา แท็บเล็ต aigoPad M80E ราคาอยู่เพียง 2,990 บาทเท่านั้น ที่เหลือก็แล้วแต่ผู้ใช้พิจรณาความคุ้มค่าจากบทความนี้ แต่สำหรับผมถือว่าตอบสนองการใช้งานทั่วไป, เล่น Social Network ต่างๆ, อ่านเว็บไซต์, ฟังเพลง แค่นี้ก็ตอบโจทย์ในการใช้งานของแต่ละวันได้แล้ว
ข้อดี
- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปกและรุ่นอื่นๆ
- มีขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ความละเอียด 1280×768 คมชัด
- สามารถต่อสาย OTG ต่อเมาส์, คีย์บอร์ดแยกเพื่อใช้งานได้
ข้อสังเกตุ
- ไม่มี Bluetooth, GPS
- ?แบตเตอรี่ใช้งานได้ 3 – 5 ชั่วโมง
Specification
สเปกเต็มและราคา https://notebookspec.com/tablet/aigoPad-M80E/470
แท็บเล็ต aigoPad M80E มาพร้อมชิปประมวลผลแบบ Dual Core ความเร็ว 1.5GHz ความแรงอยู่ในระดับมาตราฐานทั่วไปของแท็บเล็ตรุ่นกลางๆ ใช้งานได้หลายระดับ มีกราฟิกการ์ดในตัวอย่าง Mail400MP2 ที่ช่วยในส่วนประมวลผลของกราฟิกความแรงถือว่ากลางๆใช้งานได้ดีเลยทั้งเล่นเกมส์และใช้งานกราฟิกอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นตัวที่ใส่มาในท้องตลาดอย่างแพร่หลาย เพราะประสิทธิภาพต่อราคาค่อนข้างคุ้มค่า แท็บเล็ต aigoPad M80E มี ROM ในตัว 8GB สามารถลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้มากมาย, เกมส์, หรือไฟล์งานต่างๆ แต่ในปัจจุบันอาจจะดูน้อยไปสักนิดสำหรับบางท่าน แต่ aigoPad M80E สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ Micro SD ได้ รองรับสูงสุด 32GB งานนี้จะเก็บหนัง, หรือไฟล์สำคัญๆ ก็พื้นที่มีเหลือเฟือกันเลย
ส่วนของ RAM ใส่มา 1GB ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตราฐานใช้งานได้ดี ถือว่าดีกว่าบางรุ่นที่ราคาใกล้เคียงกันแต่ใส่มาเพียง 512MB คิดว่าในปัจจุบันถือว่าน้อยไปแล้ว แท็บเล็ต aigoPad M80E มีขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ความละเอียด 1280×768 พิกเซล ถือว่าเป็นมาตราฐานของแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 8 นิ้ว แต่เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้วที่ความละเอียดมาตราฐาน 1024×600 ถือว่าชัดกว่าพอสมควรเหมือนกัน ตัวเครื่องก็มีพอร์ตต่างๆ อย่าง Micro USB, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่อง Micro SD Card, รองรับ Wi-Fi และมีกล้องด้านหน้าติดมาให้ใช้งานแบบวีดีโอคอลอีกด้วย แบตเตอรี่ภายในเครื่องขนาด 4000 มิลลิแอมป์ ใช้งานได้นานในระดับหนึ่ง น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 450 กรัม และสุดท้ายเลยสเปกทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้จบด้วยราคาเพียง 2,990 บาท เท่านั้น !!
Hardware / Design
แพ็ตเกจกล่องภายนอกค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว หลังจากแกะกล่องอุปกรณ์ออกมา ภายในกล่องก็จะมีตัวแท็บเล็ต aigoPad M80E, อแดปเตอร์, และสาย USB 1 เส้น, คู่มือ-ใบรับประกัน, ตัวแท็บเล็ต aigoPad M80E รูปทรงเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าเหมือนแท็บเล็ตทั่วๆ ไป หน้าจอเป็นกระจกใสเงาอยู่ด้านหน้าทั้งหมด ขอบจอด้านในหน้าจอสีดำรอบๆ ด้านขวาจะมีขนาดที่กว้างกว่าเพราะเมื่อใช้งานมือเดียวจะทำให้ถนัดขึ้นและนิ้วไม่ไปบังที่หน้าจอ การถือ-จับใช้งานค่อนข้างง่ายและนุ่มมือเพราะด้านหลังทำจากวัสดุที่เป็นซอฟท์ทัช พื้นผิวจะออกด้านๆ ให้ความรู้สึกนุ่มมือ จับถือได้อยู่มือไม่ลื่นเหมือนพื้นผิวพราสติกทั่วๆ ไป ที่นิ้วมีเหงื่อก็ลื่นแล้ว แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือง่ายเช่นกัน เราสามารถหาผ้ามาเช็ดออกได้ไม่มีปัญหาในส่วนนี้
ส่วนขอบตัวเครื่องรอบๆ ทำจากพราสติกออกสีน้ำตาลผิวมันๆ มีรวดลายเป็นประกายเล็กน้อยตลอดรอบเครื่องและตัวเครื่องมีความหนาเพียง 6.8 มิลลิเมตรเท่านั้นเองถือว่าค่อนข้างบางเลยทีเดียวทำให้จับแล้วรู้สึกว่าไม่หนักมือ งานประกอบก็ถือว่าแน่นหนาดีไม่มีจุดหลวมไม่โยกเยก ภาพรวมในการใช้งานถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลย ส่วนฮาร์ดแวร์ที่มาพร้อม Android เวอร์ชั่น 4.2 ที่มีข้อแตกต่างระหว่าง 4.1 อยู่นิดหน่อย เด็วเราจะมาทดสอบกันว่าจะลื่นมากน้อยเพียงใดกับ Android เวอร์ชั่น 4.2 ใน แท็บเล็ต aigoPad M80E ตัวนี้
Screen / Speaker
แท็บเล็ต aigoPad M80E มีขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ถือว่าขนาดกำลังพอดีกับการใช้งานทั่วๆ ไปถือจับกระชับมือ ความละเอียหน้าจอจะอยู่ที่ 1280×768 พิกเซล ถือว่าเป็นมาตราฐานของแท็บเล็ตหน้าจอ 8 นิ้ว โดยทั่วไป แต่ถ้าเอามาลองเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วที่มาตราฐานทั่วไปความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1024×600 พิกเซล ก็ถือว่าคมชัดขึ้นมาพอสมควรเลยกับขนาดหน้าจอที่ต่างกันเพียง 1 นิ้ว
อัตราส่วนบนจอภาพที่แสดงทำออกมาได้สมส่วนไม่ผิดเพี้ยน และจะมีแถบที่เป็นระบบสั่งงานต่างๆ อยู่ด้านล่างหน้าจอโดยจะมีปุ่มถอยหลัง, ปุ่มโฮม, ปุ่มดูโปรแกรมที่เปิดอยู่, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, และยังมีปุ่มสำหรับถ่ายภาพหน้าจอตรงกลางมาให้ใช้งานอีกด้วย ในส่วนนี้ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ทำให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นแยกเอาไว้เป็นส่วนๆ อย่างชัดเจน ในส่วนของการตอบสนองเมื่อหมุนจอใช้งานก็ทำได้รวดเร็วและไม่มีปัญหาแต่อย่างใดใช้งานได้ดี มุมมองหน้าจอมองได้รอบๆ 120 องศาเลย และในส่วนของเรื่องสีก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่สดหรือจืดจนเกินไปกำลังพอดี ส่วนลำโพงของแท็บเล็ต aidoPad M80E จะอยู่บริเวนด้านหลังเครื่องด้านขวามีลำโพงแค่ตัวเดียวคุณภาพเสียงทั่วไปพอใช้งาน อาจจะต้องระวังเวลาจับถือนิดหน่อยเพาะมืออาจจะไปบังช่องเสียงได้
Connector / Camera / Weight
รอบๆ ตัวเครื่องแท็บเล็ต aigoPad M80E ก็จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อและปุ่มใช้งานต่างๆ มาให้ บริเวณด้านบนมุมซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่มอยู่ 2 ปุ่มด้วยกัน ปุ่มแรกที่รูปเป็นวงกลมมีขีดตรงคือปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง สำหรับเปิด-ปิดพักหน้าจอ รวมไปถึงถ่ายภาพหน้าจอเมื่อกดพร้อมกันกับปุ่มลดเสียง ปุ่มถัดมาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง โดยจะมีรูป – กับ + แสดงกำกับเอาไว้อย่างชัดเจน ใกล้ๆ กับปุ่มพาวเวอร์จะมีช่องเล็กๆ อยู่คือช่องไมโครโฟนนั่นเอง
และด้านขวาของตัวเครื่องก็มีพอร์ตใช้งานให้มาเช่นกัน เริ่มจากด้านบนสุดจะเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร สำหรับฟังเพลง, ดูหนัง, หรืออยู่ในอารมณ์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวนั่นเอง ตัวเครื่องค่อนข้างบางสังเกตุได้จากช่องหูฟังหนากว่าตัวเครื่องไม่เท่าไหร่เอง ถัดมาจากช่องหูฟังจะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อ Micro SD Card ที่สามารถเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 32GB เลยทีเดียวเหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้เก็บข้อมูลเยอะๆ
คราวนี้ดูบริเวณด้านล่างจะมีพอร์ต Micro USB ที่สามารถเชื่อมต่อสายเข้ากับคอมพิวเตอร์เผื่อโอนถ่ายข้อมูล อาจจะใช้เป็นตัวชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมๆ กันก็ยังทำได้ และนอกจากนั้นยังสามารถต่อสาย USB OTG ต่อเข้ากับเมาส์หรือคีย์บอร์ด ใช้งานได้ด้วย แต่ถ้าใครจะใช้ทั้งสองอย่าง ต้องต่อเข้า Hub USB ก่อนอีกที เป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะแท็บเล็ตราคาสูงๆ บางตัวไม่สามารถทำได้ก็ยังมี และช่องกลมๆ อันสุดท้ายเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่ออแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเครื่องแท็บเล็ต aigoPad M80E นั่นเอง รวมๆ แล้วก็ถือว่าพอร์ตต่างๆ ที่ให้มาครบครันอยู่เหมือนกันสำหรับราคาเพียงเท่านี้
น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 466 กรัมถือว่าหนักตามมาตราฐานแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว แต่ตัวเครื่องมีความบางถือจับได้ง่ายโดยรวมแล้วพกพาได้อย่างสะดวก
และด้านหน้าตัวเครื่องจะมีกล้องอยู่หนึ่งตัวความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล การใช้งานพอใช้ไว้สำหรับใช้งานผ่านวีดีโอคอล หรือจะถ่ายรูปตัวเองก็ทำได้ความละเอียดภาพที่ได้จะอยู่ที่ 640×480 พิกเซล โดยรวมถือว่าพอใช้งาน
?
Software / Battery
หน้าหลักจะมีวิดเจ็ตต่างๆ เช่น Google Search สำหรับค้นหาข้อมูลอยู่ด้านบนสุดเพื่อความสะดวกในการหาข้อมูลต่างๆ และมุมขวาล่างเมื่อเอานิ้วไปสัมผัสจะมีเมนูเด้งขึ้นมา หลักๆ ก็จะมีเมนูสำหรับเปิด-ปิดตัวใช้งานต่างๆ เช่น Wi-Fi, ตัวแจ้งเตือน, ตัวเปิด-ปิดเสียง, ตั้งค่าหมุนหน้าจออัตโนมัติ รูปเฟืองสำหรับเข้าปรับการตั้งค่าทั้งหมด ตัวปรับแสงไฟลากไปมาตามความสว่างที่ต้องการได้เลย
เมนูแสดงการทำงานต่างๆ ภายในเครื่องเช่นเราติดตั้งโปรแกรมอะไรอยู่, เตือน Email เข้า, อื่นๆ นอกจากนั้นแถบด้านล่างของหน้าหลักจะมี Dock เมนูที่มีไอคอนเมนูต่างๆ สามารถเพิ่มปรับแต่งเองได้ 8 ตัวด้วยกัน ส่วนปุ่มวงกลมตรงกลางจะเป็นปุ่มสำหรับเข้าหน้าแอพพลิเคชั่น สิ่งที่เครื่องนี้ขาดไปคือ Bluetooth, และ GPS ที่ไม่มีมาให้ใช้งาน การใช้งานสัญญาณ Wi-Fi ถือว่าดีในระดับปานกลาง อาจจะมีกว่าแท็บเล็ตบางตัวที่ราคาสูงกว่าแต่จับสัญญาณได้ไม่ดีนัก
เมื่อเข้าสู่หน้าแอพพลิเคชั่นก็จะมีไอคอนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้เลือกใช้งาน เราสามารถย้ายแอพพลิเคชั่นตัวที่เราต้องการใช้งานไปไว้ที่หน้าหลักได้เผื่อความสะดวกในการใช้งาน นอกจากแอพพลิเคชั่นแล้วยังมีในส่วนของวิดเจ็ตที่อำนวยความสะดวกเช่นกัน โดยจะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบแล้วแต่ความถนัดของผู้ใช้งานเลย
และแอพพลิเคชั่นทั้งหลายรวมไปถึงโปรแกรมเกมส์ต่างๆ เราก็สามารถหาดาวน์ผ่าน Google Playstore ได้เลย โดยจะมีให้เลือกหลากหลาย บางตัวดีหน่อยที่เป็นแอพพลิเคชั่นฟรี ช่วยบางตัวก็อาจจะต้องใช้เงินซื้อมาใช้งาน โดยการซื้อผ่าน Google Playstore นั้น จะต้องเชื่อมต่อกับบัตรเครดิตเสียก่อนไม่งั้นไม่สามารถซื้อได้?
คราวนี้เราก็มาทดสอบการใช้งานเล่นเกมส์ 3D ดูบ้างว่าสเปกที่จัดมาที่ความแรงมากน้อยเพียงใด แต่ก็สามารถเล่นเกมส์ 3D แรงๆ หลายๆ เกมส์ได้อย่างลื่นไหลดีเพราะตัวเครื่องปรับการตั้งค่าให้เข้ากับตัวเครื่องเอง ทำให้มีความลื่นไหลขึ้น
และแอพพลิเคชั่นจำพวก Social ก็ใช้งานได้ดีไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, อื่นๆ และแท็บเล็ต aigoPad M80E มีกล้องหน้า สามารถใช้งานวีดีโอคอลได้ อาจจะผ่านโปรแกรมต่างๆ อย่าง Tango, Line, Wechat, และก็ Camfrog กล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลพอใช้งานได้
การทำงานบนหน้าเว็บไซต์การใช้งานดีในระดับหนึ่งเว็บทั่วๆ ไปลื่นไหลดี สำหรับบางเว็บไซต์อาจจะมีข้อมูลมาก อาจจะมีช้าบ้างบางจังหวะแต่โดยรวมใช้ได้ดีไม่ว่าจะเป็นแถวนอนหรือแนนตั้งอัตราส่วนของภาพก็ทำได้ดีตัวหนังสือบนหน้าเว็บไซต์ชัดเจน
นอกจากดูเว็บไซต์ทั่วๆ ไปแล้วสามารถดูวีดีโอแบบ HD ผ่านเว็บไซต์ได้อย่างลื่นไหล
Conclusion / Award
แท็บเล็ต aigoPad M80E โดยรวมถือว่ามามีความคุ้มค่าพอสมควร การทำงานที่หลากหลาย มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ชิปประมวลผลแบบ Dual Core ที่ใส่มาถือว่าพอเพียงสำหรับใช้งานในปัจจุบันเพราะด้วยเป็นแท็บเล็ตตัวล่างๆ จึงไม่ได้คาดหวังมากจะให้มาทำงานแบบหนักๆ แค่นี้ก็สามารถดูหนังระดับ HD ทำงาน, เล่นเกมส์ 3D ได้อย่างลื่นไหลแล้ว อาจจะมีช้าบ้างสำหรับการใช้งานหนักๆ การ์ดจอที่ใส่มาให้ก็สามารถเล่นเกมส์ 3D ได้อย่างดีเพราะระบบได้ปรับการตั้งค่าให้เข้ากับสเปกของตัวเครื่องเองจึงมีความลื่นไหลขึ้น
ROM 8GB และ RAM 1GB ถือว่าเป็นมาตราฐานของการใช้งานในปัจจุบันเลย ต่ำกว่านี้ถือว่าน้อยไปแล้วเพราะแต่ละโปรแกรมแต่ละแอพพลิเคชั่นค่อนข้างกินพื้นที่และใช้งานหนักๆ ก็มีมากมาย แต่สิ่งที่แท็บเล็ต aigoPad M80E ขาดไปคือ Bluetooth และ GPS แต่คุณภาพก็ควบคู่ไปกับราคาอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่จะตัดบางส่วนออกไป พูดถึงพอร์ตการใช้งานต่างๆ ก็ให้มาพอเพียงกับการใช้งาน และช่อง Micro USB ที่สามารถต่อสาย OTG ต่อเมาส์, คีย์บอร์ดแยกใช้งานได้แบบคอมพิวเตอร์ อันนี้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะแท็บเล็ตแพงๆ บางตัวยังไม่สามารถทำได้เลย
แท็บเล็ต aigoPad M80E เหมาะแก่คนที่ไม่ต้องอะไรมากมายใช้งานทั่วๆ ไปได้ดี ตามความต้องการก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องแรงมาก เพราะแท็บเล็ต aigoPad M80E จากที่ใช้งานก็เพียงพอสำหรับชีวิตประจำวันทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่ 4,000 มิลลิแอมป์ใช้งานได้ 3 – 5 ชั่วโมง ( แล้วแต่การใช้งาน ) แต่ถ้าใครคิดว่าไม่พอ ต้องมองหาตัวที่แบตอึดๆ กว่าตัวนี้แล้ว และแน่นอนว่าราคาต้องสูงกว่าพอสมควรเลย แต่อย่างที่บอกไปว่าคุณภาพตามราคา แท็บเล็ต aigoPad M80E ราคาอยู่เพียง 2,990 บาทเท่านั้น ที่เหลือก็แล้วแต่ผู้ใช้พิจรณาความคุ้มค่าจากบทความนี้ แต่สำหรับผมถือว่าตอบสนองการใช้งานทั่วไป, เล่น Social Network ต่างๆ, อ่านเว็บไซต์, ฟังเพลง แค่นี้ก็ตอบโจทย์ในการใช้งานของแต่ละวันได้แล้ว
ข้อดี
- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปกและรุ่นอื่นๆ
- มีขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ความละเอียด 1280×768 คมชัด
- สามารถต่อสาย OTG ต่อเมาส์, คีย์บอร์ดแยกเพื่อใช้งานได้
ข้อสังเกตุ
- ไม่มี Bluetooth, GPS
- ?แบตเตอรี่ใช้งานได้ 3 – 5 ชั่วโมง