กลับมาอีกครั้งกับสุดยอดเกมที่เป็นอมตะนิรันด์กาลสำหรับเกมเมอร์ขาซิ่งทั้งหลายกับ Need For Speed The Run โดยภาคนี้เป็นภาคที่วิ่งในเมืองตะลุยในอเมริกาไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางสมชื่อ The Run ซะจริง ๆ ซึ่งคงต้องกล่าวถึงภาคก่อนอย่าง Need For Speed Shift ที่ดูจะไม่เข้าท่าและรู้สึกเล้าใจเอาซะเลยกับเกมที่วิ่งแต่ในสนามแข่ง ที่ดูน่าเบื่อ มาภาคนี้ทาง EA และ Blackbox ได้ปรับปรุงตัวเกมใหม่หมด ภาพกราฟิกนั้นถือว่าคมชัด เนียบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบสภาพแวดล้อมของภนน ความสมจริงของระบบแสงที่เล่นเอาคนเล่นแสบตาไปตาม กัน (แนะนำหาแว่นกันแดดมาใส่เวลาเล่นบางฉาก?.)
ภาพรวมของเกม Need for Speed The Run
ผมคงไม่ขอพูดถึงรายละเอียดในส่วนของเนื้อเรื่องเท่าไรนักล่ะกัน อยากให้เราได้ซึมซับในเรื่องของการเล่นมากกว่า โดยในส่วนของการดำเนินเกม Need for Speed The Run นี้ในส่วนของการเปิดเกมนั้นดูมี Intro ที่น่าสนใจมากขึ้น การดำเนินเนื้อนั้นเอื้อให้ user ได้มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนร่วมในเกมมากขึ้น (ดราม่า?.มากไปป่าวนี่มันเกมแข่งรถนะวุ๊ย) ซึ่งฉากเปิดของ Need for Speed The Run เริ่มต้นก็โดนอัดอยู่ในรถบอดแล้ว ต้องแก้เชือกแล้วปีนออกมาจากนั้นก็ขับรถนี้ เป็นการเปิดตัวที่เกมในยุคประจุบันเริ่มหันมาทำแนวนี้กันแทบทั้งหมดแล้ว ในส่วนแรกของตัวเราจะได้รถมาหนึ่งคันให้เลือกเล่น จากนั้นก็เล่นตามภาระกิจไปเรื่อย ๆ เพื่อนเปิดตัวรถคันอื่น ๆ
ในส่วนของการปรับแต่งรถนั้นทำได้ทำได้เพียงการแต่งสีและโดรงรถเพียงเท่านั้นเองในโหมดการแข่งซึ่งผมคิดว่ามันเบสิคไปเปล่าเมื่อเทียบกับตัวเกมในภาคก่อน ๆ อย่าง Need For Speed Underground ทั้ง 2 ภาค หรือแม้แต่ Most Wanted ก็ตามความสวยงามในตัวรถมีมากขึ้นแต่การลงรายละเอียดของเกมในตัวรถนั้นมีน้อยลง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการปรับแต่งรถในเกมนั้นมีผลกับเรื่องลิขสิทธิ์ของรถในแต่ละยี่ห้อด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าขัดใจคอเกมอย่างเรา ๆ แน่นอน
สำหรับระบบที่ผมใช้ทำการทดสอบนั้นยังคงเป็น Sony SB ตัวเดิม ๆ กับกราฟฟิก AMD HD6470 VRAM 512 MB โดยงานนี้ผมได้ทดสอบการเล่น Need for Speed The Run ให้เพื่อน ๆได้ทราบถึงตัวระบบในเกมว่ากินสเปกเครื่องหนักขนาดซึ่งสเปกพื้นฐานของเกม Need for Speed The Run นี้ค่อนข้างจะกินสเปกเล็กน้อย เนื่องจากการเก็บรายละเอียดฉากและระบบแสงที่เกิดในตัวฉากนั้นค่อนข้างที่จะละเอียดสุด ๆ และยังต้องรองรับ การแสดงผลในกาารเรนเดอร์ฉากที่ไวในแต่ละช่วงการแข่งด้วย ทำให้สเปกพื้นฐานของตัวเกมอาจจะกินไปเล็กน้อย
ระบบพื้นฐานของเกม Need for Speed The Run
- OS: Windows Vista SP2 or Windows 7
- CPU: 2.4 GHz Intel Core 2 Duo or equal AMD
- RAM: 3 GB
- HDD: 18 GB free disk space
- Graphics: ?Shader 3.0 or better 256 MB NVIDIA? GeForce? 8600GT / ATI? Radeon? X1950 or better (VRAM 512 MB ขึ้นไป)
- DirectX: Version 10
- Network: 1 MB ขึ้นไปสำหรับการเล่นบนระบบ Multiplayer
ระบบที่ใช้ในการทดสอบเกม Need for Speed The Run
- OS: Windows? 7 64 Bit
- Processor: Intel? Core-i5-2430M (2.4GHz)
- Memory: 8 GB RAM
- Graphics: AMD Radeon? HD6470 VRAM 512 MB
- DirectX?: DirectX? 11
ระบบการเล่นของเกม Need for Speed The Run
สำหรับระบบการเล่นของเกม Need For Speed The Run พื้นฐานในควบคุมนั้นอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม นั่นคือ คันเร่งและเบรคจะไปอยู่ที่ปุ่ม A และ Z ปุ่มไนตัสอยู่ที่ Shift ด้านซ้าย ซึ่งแน่นอนว่าการบังคับอาจจะไม่ถนัดสักเท่าไรนัก เมื่อเข้าเกม ตัวเกมเปิดเรื่องมาเราก็ต้องเปิดตัวภาระกิจแรกทันทีด้วยการหนีออกจาเครื่องบดรถ จากกนั้นก็ขับหนีออกมา การเปิดเรื่องในครั้งแรกดูค่อนข้างที่จะยืดยาวไปหน่ายเกือบจะเป็นหนังขนาดย่อม ๆ เลยทีเดียว คงไม่พูดไรมากตรงนี้เดี๋ยวเรื่องมันจะยาว เมื่อเข้าเกมเราจะมีสิทธิ์ในการเลือกรถใช้ได้อยู่ 3 คันแรก ได้แก่ BMW , Ford และ Nissan โดยการแข่งในละภาระกิจจะมีการแจ้งมาให้ทราบเรื่อง ๆ ภาคนี้วิ่งอย่างเดียว ตำรวจมีให้ลุ้นเรื่อย ๆ ตามถนน และค่อนข้างจะโหดเอาการอยู่ สำหรับตัว AI ฉากแต่ละท้องถนนมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ คนเล่นแรกๆ อาจจะไม่คุ้นเคยในการควบคุมเท่าไรนัก การเข้าโค้งหรือวิ่งอาจจะทำได้ไม่ถนัดเท่าไร ในส่วนของการเล่นในโหมดอื่น ๆ อย่าง Online หรือ Challenge Series สำหรับการแข่งเฉพาะทาง ซึ่งมีรถให้เราเลือกและแต่งสีได้
Screen Shot Gameplay Need for Speed The Run
ทดสอบการเล่น Need for Speed The Run
ในการทดสอบของตัวเกมนั้นผมได้ทำการทดสอบในส่วนของการประมวลผลของเกมว่ากิน Performace ของเครื่องมากขนาดไหน โดยทดสอบผ่าน Taskmanager แลัวให้เแสดงผลในรูปแบบของกราฟในส่วนของ Preformance ในขณะเล่นในช่วงนั้น รายละเอียดดูได้จากภาพด้านล่างนี้
ทดสอบ FPS ของตัวเกม Need for Speed The Run
ในส่วนของการทดสอบ FPS นั้นผมได้ทำการทดสอบผ่านโปรแกรม FARBS โดยผมทดสอบกับความละเอียดที่ 1024 x 768 และ 1280 x 720 และความละเอียดและโหมดกราฟฟิกระดับกลาง โดยผลการทดสอบพอจะสรุปได้ดังนี้
ผลทดสอบ FPS จากเกม Need For Speed The Run ความละเอียดที่ 1024×768
ผลทดสอบ FPS จากเกม Need For Speed The Run ความละเอียดที่ 1024×768
คำทิ้งท้ายสำหรับ Need for Speed The Run
หลังจากที่ผมได้ลองเล่น Need for Speed The Run ขอสรุปภาพรวมให้ได้เห็นกันก่อน สำหรับเกมนี้ คงต้องยอมรับว่าการกลับมาในครั้งนี้ กราฟฟิกทำดีขึ้น ถึงดีที่สุด สภาพแวดล้อมในเกมงามซะเหลือเกิน รายละเอียดรถ ความสวยงามของตัวรถทำได้แจ่ม แต่สิ่งนึงที่ทางทีมพัฒนาลืมไปหรือเปล่าว่า ความเป็น Need for Speed ไม่ว่าภาคไหนก็ตาม ความมันส์มันอยู่ที่การควบคุมรถในการแข่งในเส้นทางถนนที่ออกแบบมา ความลงตัวในการควบคุมรถที่ทำให้คล่องแก่ผู้เล่น สำหรับภาคนี้การควบคุมรถยากพอสมควร เมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ ที่ผ่านมา ความน่าสนใจในตัวเกมเหมือนจะมีมากแต่ก็ไม่ใช่ อย่าง Intro ไม่ต้องมีมาก็ได้ถ้าจะต้องให้เล่นในตรงนั้น เนื่อเรื่องดูยืดยาวไป ทั้ง ๆ ที่เป็นการแข่งรถ ถ้าตัดบทสนทนาในร้านอาหารจีนไปน่าจะดีกว่าแต่ก็เข้าใจว่าเป็นการขายเนื้อเรื่องของตัวเกมนะแหละ ก็ดูหนุกไปอีกแบบแต่จุดสำคัญของเกมมันคือการแข่งรถและวิ่งหนีตำรวจ ซึ่งการเข้าโค้งในแต่ละครั้งของเกมนี้ ถ้าใครคุ้นเคยกับการเข้าโค้งในภาคก่อน ๆ นั้นน่าะจกะจังหวะกันได้ แต่ภาคนี้การควบคุมทำได้แข็งมาก ๆ การเข้าโค้งนั้น ต้องกะดี ๆ เลยทีเดียว หลาย ๆ คนเล่นแล้วอาจจะรู้สึกหงุดหงิดในการเข้าโค้ง ว่ามันคุมรถไมได้ดั่งใจซะจริง ๆ ของแบบนี้คงต้องทำใจยอมรับมันไป การกลับมาในครั้งนี้ เหมือนเป็นการกลับมาที่เราเล่นภาพแล้วมันน่าจะได้อะไรมากกว่าความสวยงามของกราฟฟิก แต่ความเป็นกลิ่นไอของ Nedd for Speed เดิม ๆ ที่คุ้นเคยหายไป กลายเป็นว่าภาพสวย เนื้อเรื่องน่าเบื่อเพราะยืดยาว แถมการควบคุมที่ดูจะต้องหัดเล่นสักระยะกว่าจะชินกับระบบการควบคุมแบบนี้ ถือว่าเป็นการรอคอยที่ไม่ค่อยจะสมน้ำสมเนื้อสักเท่าไร อย่างไรก้ลองดูครับ ถ้าชอบ Need for Speed? ที่ภาพสวยงามจัดไปเลยครับ ภาคนี้ทำภาพสวยจริง ๆ แค่คงไม่ถูกใจคอเกมเมอร์เก๋า ๆ กันสักเท่าไรนัก
- เนื้อหาของเกม : เนื้อหาของเกม Need for Speed The Run ทำออกมาได้ดีเกินคาด ด้วยการเข้า Intro ของตัวเกมเพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าใจถึงเนื้อเรื่องของเกมและแสดงผลงานกราฟฟิกที่พัฒนาออกมาได้อย่างสมจริงและสวยงามแต่การดึงเนื้อเรื่องเกมให้ยาวยืดเยื้อไป บางครั้งมันกก็เกิดการรอคอยว่าเมื่อไรเนื้อเรื่องมันจะจบ จะได้แข่งซะที ซึ่งพักหลัง ๆ เหมือนจะยัดเนื้อเรื่องเข้าไปมากขึ้นจนทำให้กลิ่นไอของการแข่งรถตามแบบฉบับของ Need for Speed ค่อย ๆ หายไปส่วนหนึ่ง แต่ด้วยเนื้อเรื่องของเกมคงต้องยอมรับว่า การดึง User เข้าไปมีส่วนร่วมในตัวเกมไม่ว่าส่วนไหนก็ตามถือว่าเป็นการดี ซึ่งช่วงหลัง ๆเกมที่ออกส่วนใหญ่ก็ใช้การเปิดหัวเรื่องของเกมแบบนี้แทบทั้งหมด
- ระบบภาพและเสียง : ระบบภาพของการเล่นเกม Need for Speed The Run? นี้คงต้องยอมรับว่าทีมงานผู้พัฒนาเกมทำออกมาได้สมจริงเกินคาด โดยเฉพาะระบบแสงของฉากที่สมจริงซะ เวลาเล่นความรู้สึกเหมือนกับขับถนนจริง ด้วยแสงอาทิตย์ที่ทอดยาวออกมาจากฉากแยงสายตายขณะที่เล่น ระบบเงาและฉากที่เกิดในตัวเกม นั้นสามารถตอบสนองการเล่นได้ทันที ในส่วนของระบบเสียงด้วยผมทำการทดสอบการเล่นโดยใช้หูฟังแบบธรรมดา ๆ ถือว่าระบบเสียงยังคงความเป็นเอกลักษณ์อยู่เช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นทิศทางเสียงของรถที่ถูกเราแซง รถตำรวจ เสียงเครื่องยนต์ ถือว่าทำได้สมจริงตามแบบฉบับของ Need for Speed The Run
- ระบบที่รองรับการเล่น : ด้วยความที่กราฟฟิกงาม ๆ แบบที่เรียกได้ว่าคมกริ๊บ ๆ ความสมจริงในระบบแสงและฉากที่แสดงผลได้ดี ทำให้สเปกของเครื่องที่จะรองรับการเล่น? ซึ่งผมทดสอบการเล่นด้วยความละเอียดที่ 1360×768? และโหมดกราฟฟิก ระดับกลาง ก็สามารถเล่นได้ในระดับหนึ่งแต่เมื่อมีการแสดงผลหลาย ๆ อย่างซ้อนกันเยอะขึ้น รถ แสง ตีก ภาพอาจจะมีกระตุกบ้างในบางจังหวะ
- ความยากง่ายในการเล่นเกม : ความยากง่ายในการเล่น คงต้องยอมรับว่า หลาย ๆ คนหวังว่าจะได้รับความมันสะใจในการเล่น Need for Speed The Run ซึ่งผลไม่เป็นอย่างนั้นสักเท่าไรนัก การควบคุมรถ ทำได้ไม่สมดุลเท่าที่ควร จังหวะเร่งนั้นดูทื่อ ๆ กว่าความเร็วจะเพิ่มนั้นยังรู้สึกว่ารถวิ่งอืดอยู่ดี การเข้าโค้งของตัวเกมนั้น ยากพอสมควร ยิ่งถ้าเป็นโค้งหักศอกแบบหนัก ๆ ด้วยแล้ว โอกาสรถเหวี่ยงหรือแหกโค้งนั้นมีสูงมาก การเล่นควรใช้ Joypad เล่นจะดีกว่าการควบคุมผ่าน Keyboard เพราะอาจจะไม่ถนัดเท่าไรนัก เมือเทียบกับการเล่นบน Joypad