สำหรับเกมเมอร์อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Mouse , แผ่นรอง? หรือ Keyboard? ล้วนแล้วเป็นอุปกรณ์ที่นักเล่นเกมหลาย ๆ คนมีไว้เพื่อใช้เล่นเกมได้คล่องขึ้น อีกหนึ่งอย่างที่่ถือว่าเป็นอุปกรณสำหรับนักเล่นเกมที่่ ถือว่าถ้ามีใช้ก้ดีในระดับหนึ่งกับชุดหูฟัง ทำไมชุดหูฟังธรรรมดา กับชุดหูฟังเกมเมอร์จึงต่างกัน ระบบหูฟังแต่ละแบบมีความต่างกันอย่างไร คำถามทั้งหมดนั้นเคยมีอยู่ใจนักเล่นเกมทุกคนว่าจะเลือกหูฟังแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองดีโดยบทความนี้จะขอเป็นการแนะนำคร่าว ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการอยากได้หูฟังสำหรับเล่นเกมไว้สักชุดนึง
ทำไมต้องใช้หูฟัง ?
ทำไมการเล่นเกมต้องใช้ชุดหูฟังเกมเมอร์ ทั้ง ๆ ที่เครื่อง Notebook เองหรือเครื่อง Desktop เองก็มีลำโพงอยู่แล้ว เหตุผลหลัก ๆ ก็คือ การใช้ลำโพงภายนอก การได้รายละเอียดของเสียงนั้นไม่ชัดเจนเท่ากับการใส่หูฟัง และยังช่วงให้ไม่เสียงไม่รบกวนคนรอบข้างด้วย ทำการผู้เล่นเกมมีสมาธิในการเล่นเกมมากขึ้นในระดับหนึ่ง รวมไปถึงการสนทนา โดยส่วนใหญ่แล้วชุดหูฟังเกม จะมาพร้อมชุดดไมโครโฟร ติดมาให้ที่ชชุดลำโพงของหูฟังอยู่แล้ว ซึ่งส่วนแล้วในการเล่นเกมเรามักจะใช้สำหรับการพูดคุยกับผู้เล่นในเกมด้วยกัน ซึ่งถือว่ามีความสะดวกกว่าการพิมพ์สนทนา ในขณะเล่นอีกด้วย
หูฟังสำหรับเล่นเกม หูฟังเกมเมอร์มีแบบไหนบ้าง ?
ชุดหูฟังเกมเมอร์นั้น มีมากมายหลายแบบ แต่ในที่นี้ผมจะแยกออกเป็น 2? รูปแบบ ส่วนใหญ่ในท้องตลาดมีจำหน่าย นั่นคือชุดหูฟังสำหรับคอเกมแบบ Full Size หรือ Headphone ตัวชุดหูฟัง ตัวลำโพงจะมีขนาดที่ทใหญ่ มีก้านไว้สำหรับรองรับการคาดของศรีษะ ดอกลำโพงจะถูกแนบไปกันใบหูของผู้ใช้เพื่อรองรับกาารใช้งานของเกมเมอร์ได้ดี มีฟองน้ำรองรับใบหู อีกหนึ่งแบบที่มักใช้กันคือหูแบบ In Ear เป็นชุดหูฟังแบบเล็ก ๆ อุดเข้าไปยังรูหู ตัวลำโพงมีขนาดเล็ก การให้เสียงนั้นค่อนข้างที่จะแน่นพอสมควร
ข้อดีของหูฟังแบบ Headphone
- จุดเด่นที่ถือว่าชุดหูฟังแบบ Headphone ได้เปรียบกว่าหูฟังแบบอื่น ๆ ก็คือกำลังขับของเสียงที่ดีกว่า
- รองรับการใช้งานในระบบเสียงได้หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบ 5.1 และ 7.1
- การใช้ไมโครโฟนทำได้ดีกว่าเนื่องจากส่วนใหญ่ชุดหูฟังแบบ Headphone นั้นจะมีไมค์อยู่ข้างตัวลำโพงของชุดหูฟังอยู่แล้ว
ข้อเสียของหูฟังแบบ Headphone
- มีน้ำหนักมากพอสมควร ด้วยขนาดลำโพงที่ใหญ่ ทำให้การใช้งานเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดอาการเมื่อยคอขึ้นได้
- พกพาได้ยากและไม่สะดวกนัก หากจจะเอาไปใช้งานข้างนอก
- ราคาค่อนข้างจะสูง โดยส่วนใหญ่ชุดหูฟังสำหรับเล่นเกมนั้นเรทราคาจะเริ่มต้นที่ 2,XXX บาทขึ้นไป
ข้อดีของชุดหูฟังแบบ In-Ear
- พกพาง่าย เล็ก สะดวก ไม่ทำให้เมื่อยคอเมือเทียบกับหูฟังแบบ Head Phone
- ราคาถูก แต่ค่อนข้างจะหาซื้อยากเพราะตลาดส่วนใหญ่ออกมาเป็นแบบ Headphone ซะมากกว่า
ข้อเสียของชุดหูฟังแบบ In-Ear
- รองรับการใช้งานระบบเสียงได้เพียง 2.1 เท่านั้น นอกจากจะใช้อุปกรณ์เสริมแยกสัญญาณเสียงให้เป็นแบบ 5.1
- เสียงไมโครโฟนแกว่ง ไม่ชัดเท่าไรนัก เนื่องจากส่วนใหญ่นั้น ไมโครโฟนของชุดหูฟังจะไปอยู่ที่สายซึ่งเวลาเล่นเกมนั้นสายไมโครโฟนจะแกว่งไปมาทำให้การรับสัญญาณเสียงจากผู้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
ระบบเสียงแบบไหน ถึงจะถูกใจคอเกม
โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นชุดหูฟังเกมเมอร์เดิม ๆ นั้นจะเป็นระบบ 2.1 ซึ่งระบบเสียงในลักษณะนี้เป็นระบบเสียงเราจะได้ยินเสียงหลักของตัวเกมเด่่นที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหูฟังในระบบ 2.1 สำหรับการเล่นเกมนั้นจะมีลูกเล่นเอฟเฟกเสียงเซอร์ราวหรือระบบซาว์แบบสามมิติเพื่อเพิ่มความกว้างของเสียงให้ได้ยินชัดเจนขึ้นในระดับ แต่เมื่อเทียบกับระบบเสียงที่เป็นแบบ 5.1 และ 7.1 นั้นจะเหมาะกว่ามาก ด้วยการเล่มเกมที่ให้ความชัดเจนของทิศทางเสียงรอบด้านให้เด่นชัดขึ้น โดยส่วนใหญ่ชุดหูฟัง ที่รองรับระบบ 5.1 และ 7.1 จะมีตัวปรับระบบเสียงให้เพื่อไว้ใช้สำหรับเน้นทิศทางของเสียงได้อีกด้วย ทำให้ ผู้เล่นเกมส่วนใหญ่มักนิยมใช้หูฟังเกมเมอร์แบบ 5.1 และ 7.1 สำหรับเล่นเกมซะมากกว่าหูฟัง 2.1 แบบเดิม ๆ แต่ด้วยราคาค่าตัวที่ค่อนข้างจะแรงเอาเรืองอยู่เหมือนกัน สำหรับหูฟังแบบ 5.1 และ 7.1 ราคาอจจะอัพไปถึงตั้งแต่ 3,XXX บาทขึ้นไป
การเชื่อมต่อล่ะแบบไหนดีกว่ากัน
การเชื่อมต่อการใช้งาน แน่นอนว่าส่วนใหญ่เราจะชินกับหูฟังในรูปแบบ หัวเชื่อมสัญญาณแบบบ 3.5 มม. โดยส่วนใหญ่หากเป็นชุดหูฟังแบบ 2.1 นั้นจะมีสายสัญญาณแยกมาให้เป็น สายไมโครโฟน และสายสัญญาณเสียงอย่างล่ะสาย หรือเป็นชุดระบบ 5.1 และ 7.1 ก็แยกหัวสัญญาณแบบ 3.5 มม. เช่นกันโดยชุดสายสัญญาณจะมีจำนวนมากกว่า โดยตัวเครื่องคอมพิวเตอร์เอง ต้องมีช่องสำหรับสัญญาณ 5.1 และ 7.1 ด้วยงั้นต้อง Sound Card มาประกอบการใช้งานด้วย แต่ในปัจจุบันนั้น หูฟังหลาย ๆ ค่ายนั้นมาแก้ปัญหาโดยการมีตัวสำหรับควบคุมสัญญาณเสียงโดยสามารถรองรับสาย 3.5 มม. ในระบบ 5.1 และ 7.1 ได้แล้วโดย ตัวควบคุมสัญญาณจะใช้การเชื่อมต่อเป็นแบบ USB แทบทำให้สะดวกมากขึ้น หรือหูฟังบางรุ่น อาจจะไม่ใช่ชุดหูฟังที่เป็นแบบสายสัญญาณ 3.5 มม. แต่กลับใช้เป็น สาย USB มาแทนเพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน และอีกหนึ่งความสะดวกในการเชื่อมต่อโดยชุดหูฟังแบบไร้สายสำหรับคนเล่นเกม ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่อีกก้าวหนึ่งแต่ราคายังคงสูงอยู่ จึงไม่นิยมสักเท่าไร
ชุดสัญญาณต่อแบบสาย 3.5 มม. และ ตัวขยายสัญญาณแบบ USB
ชุดหูฟังแบบไร้สายสำหรับเกมเมอร์
คำทิ้งท้ายสำหรับหูฟังเกมเมอร์
ในปัจจุบันมีชุดหูฟังเกมเมอร์ให้เราเลือกลองมากมาย ซึ่งแต่ละรุ่น แต่ละค่ายมีความแตกต่างกันไป ในแต่ละระบบที่ทางค่ายนั้นได้พัฒนาขึ้นมา ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว เราควรจะเลือกที่เราชอบและเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับตัวเรามากว่า แต่แน่นอนว่าอุปกรณ์เกม เรามองถึงความถนัดในการใช้งานเป็นหลักซะมากกว่าจริงไหม ทำให้เราเล่นเกมได้สะดวกขึ้น ดังนั้นในเมื่อเรามีงบพอที่จะซื้อได้ก็อย่าหยุดความอยากครับ ใช้มันไปให้คุ้มเพราะของชิ้นหนึ่งราคาไม่ใช่ถูก ๆ สำหรับวันนี้ผมคงต้องขอปิดบทความแต่เพียงเท่านี้ พบกกันใหม่ในบทความครั้งนี้ส่วนจะเป็นเรื่องไรนั้นโปรดติดตาม