เทคโนโลยี 3D นั้นมีการเติบตัวอย่างรวดเร็วนะครับ สำหรับบทบาทของเกมแล้วผมว่ามันทำออกมาได้เนียบกว่าไฟล์หนังเยอะแยะเลย พูดให้อยากก่อนแล้วกันครับ ว่าผมได้นำเจ้าเครื่อง ASUS G74SX เล่น Crysis 2 แบบเต็ม ๆ มาอย่างจุใจเรียบร้อยแล้ว ประทับใจมาก ๆ ครับ ^__^
สำหรับ ASUS G74SX นั้นเปิดตัวไปเมื่อ Commart X Gen 2011 ที่ผ่านมาซึ่งค่อนข้างได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี เพราะมันถูกพัฒนาระบบการแสดงผล 3D ให้ดีขึ้นไปอีกขั้น ทำให้การแสดงผลที่ออกมานั้นค่อนข้างประทับใจไม่น้อย และอีกอย่าง ASUS ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำเทคโนโลยี 3D ในตลาด Notebook เพราะไม่ว่าจะออกในงานไหน ๆ จะในเมืองไทยหรือเมืองนอก ASUS ก็ชอบที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปโชว์ด้วยเสมอ ตอนนี้อุปสรรคสำคัญเลยของ Notebook 3D คงหนีไม่พ้นเรื่องของราคาที่ยังคงแรงอยู่มาก คนทั่ว ๆ ไปจะสัมผัสและเข้าถึงมันค่อนข้างลำบาก ส่งผลให้มันค่อย ๆ โตอย่างช้า ๆ อย่างไรก็ตาม ในอีก 2 ? 3 ปีข้างหน้าเทคโนโลยีนี้ต้องถูกพัฒนาข้ามขั้นไปอีกและแน่นอนที่สุดว่าราคามันก็ต้องลดลงมาในระดับที่พอจะซื้อได้กันทุกคน ไม่แน่ครับว่าอีก 2 ? 3 ปีข้างหน้านั้นเทคโนโลยีนี้ต้องมีทุกบ้านก็เป็นได้ พูดถึงอนาคตไปซะเยอะเลย เดี๋ยวเราไปดูเจ้า ASUS G74SX แบบเต็ม ๆ กันดีกว่าครับว่าจะแรงขนาดไหน และ 3D จะเจ๋งขนาดไหนกัน
*สเปคเครื่องจริงนั้นแตกต่างกับเครื่องทดสอบที่ RAM เครื่องทดสอบจะมีขนาด 16 GB และฮาร์ดดิสก์ขนาด 1.25 TB ไม่ได้ทำ RAID*
ASUS G74SX มาพร้อมกับสเปคระดับ High-Ends กับพลังประมวลผลจาก Intel Core i7-2630QM ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงถึง 2.0 GHz และยังสามารถที่จะเพิ่มความเร็วตัวเองขึ้นไปอีกกับเทคโนโลยี Turbo Boost 2.0 สูงสุดที่ 2.90 GHz จับคู่มากับการ์ดจอประสิทธิภาพสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 560M พร้อมตัวแสดงผล 3D ในตัวและแว่นตาพร้อมมาในกล่อง หน้าจอขนาด 17.3 นิ้วความละเอียดระดับ Full HD รองรับความถี่ที่ 120 Hz ซึ่งเป็นความถี่ที่รองรับการแสดงผล 3D อย่างสมบูรณ์แบบ แรมเครื่องให้มา 8 GB DDR3 ฮาร์ดดิสก์ให้มา 1 TB ทำ RAID 0 มี Drive Blu-Ray มาให้ด้วย กล้องเว็บแคมก็มีความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล พอร์ตต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างครบครัน โดยจะรันบน Windows 7 Home Premium 64 bit
รูปลักษณ์ภายนอก
ASUS G74SX เป็น Notebook ขนาดใหญ่ 17.3 นิ้ว ที่ถูกวางลงมาในระดับของ 3D Gaming Notebook ที่ถูก ASUS นั้นพัฒนาเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น G73Sx เดิม โดยรุ่นใหม่นี้ยังคงใช้ระบบการแสดงผล 3D แบบเดิม แต่ที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นมามันคือซีพียู และการ์ดจอที่แรงขึ้นกว่าเดิมเยอะ
การออกแบบของ ASUS G74SX ก็ยังคงเป็นรูปแบบเดิม ๆ ไม่ได้เปลี่ยนไปจาก G73 สักเท่าไหร่ โดยตัวเครื่องมาในโทนสีดำที่ไม่ถึงกับดำสนิท แต่ก็ไม่เทานัก ดูแล้วดูแปลก ๆ นะครับ อาจจะดูเด่นสดุดตา แต่ก็ยังไม่ได้สวยจนเกมเมอร์บอกว่ามันสวยที่สุด แต่มันก็ถือว่าดูเท่ห์ที่สุด
วัสดุที่ใช้นั้นคือพลาสติกเป็นหลัก โดยมียางแบบด้านคลุมอยู่อีกทีทั้งตัวเครื่อง ซึ่งทำให้เกิดรอยได้ง่าย เช่น รอยขีดข่วน โดยเฉพาะรอยนิ้วมือที่สามารถมองเห็นได้ชัดเลยทีเดียว อาจจะต้องหมั่นหาน้ำยามาทำความสะอาดซักหน่อยละนะครับ ส่วนเรื่องของความแข็งแรงนั้น จัดได้ว่าหายห่วงเลย เพราะมันทั้งแข็งแรงและหนักมาก
โดยรวมการออกแบบและงานประกอบนั้นค่อนข้างอยู่ในระดับที่ดี ก็บอกได้เลยว่ามันค่อนข้างคุ้มกับเงินที่ลงไป
แว่น 3D ของ ASUS G74SX นั้นก็เป็นแว่น 3D Vision 1 เท่านั้น แต่ความคมชัดของมันนั้นยังใช้ได้เป็นอย่างดี คาดว่า G-Series รุ่นหน้าน่าจะใช้ 3D Vision 2
ส่วนเรื่องการสวมใสของมันก็ยังสบาย แต่ถ้าคนที่มีศรีษะใหญ่นั้นอาจจะลำบากไปหน่อย ส่วนปุ่มที่เห็นในรูปขวานั้นจะเป็นปุ่มที่เอาไว้กดเพื่อใช้งาน 3D
ASUS นั้นมาพร้อมกับ Logo ROG
มุมมองต่าง ๆ ของเจ้า ASUS G74SX ครับ สวยงามเลยทีเดียว
ส่วนระบบระบายความร้อนนั้นถูกออกแบบมาใหม่ โดยมีการใช้โครเมียมมาครอบอีกที
รูปลักษณ์ภายใน
เรามาชมภายในกันบ้างครับ สำหรับภายในนั้นก็ออกแบบมาได้ดี มุมมองค่อนข้างเยอะ พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นออกแบบมาแบบไม่แคร์เลยว่ามันจะต้องเล็ก แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ถูกต้องนะครับ เพราะ Notebook ขนาดใหญ่ขนาดนี้ ไหน ๆ ก็จะทำแล้ว ก็ทำให้พื้นที่ใหญ่ใช้งานสบายไปเลย ตรงนี้ต้องชมว่า ASUS ทำออกมาได้ดี
วัสดุภายในนั้นก็ไม่แตกต่างกับภายนอกตรงบริเวณที่วางข้อมือจะใช้ยางกันลื่น ส่วนตรงบริเวณของคีย์บอร์ดก็จะเป็นแบบธรรมดาทั่ว ๆ ไป
ตัวรับ 3D ในตัวครับ อยู่ข้าง ๆ กล้อง Webcam คุณภาพระดับ HD
ด้านบนของคีย์บอร์ดก็จะมีปุ่มเปิดเครื่องและ Boots เข้า ROG Systems ที่ยังคงใช้งานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ไฟแสดงสถานะต่าง ๆ อยู่บริเวณที่วางข้อมือสามารถสังเกตุได้อย่างง่ายดาย
Logo ASUS ภายด้านใน
สติ๊กเกอร์ความแรง
รูปลักษณ์คีย์บอร์ด
คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาก็มีการจัดวางปุ่มแบบ chiclet โดยมีการยกระดับให้เอียงสูงขึ้นมา 5 องศา ทำให้สามารถใช้งานได้งาน และยิ่งมีแท่นรองมือเป็นยางอีก ทำให้การพิมพ์แลดูสะดวกสบายเอามากๆครับ ส่วนปุ่ม numpad ก็มีมาให้เช่นกัน และในภาพนี้ได้ทำการเปิดไฟ LED ที่คีย์บอร์ดด้วย
ต้องชมว่าคีย์บอร์ดวาง Layout ออกมาได้ดีมาก
เมื่ออยู่ในห้องมืด ก็สามารถมองเห็นปุ่มได้อย่างชัดเจน แถมยังสามารถปรับระดับความสว่างของไฟได้ด้วยการกดปุ่ม fn+F3 เพื่อลด และ fn+F4 เพื่อเพิ่มความสว่าง
ทัชแพดนั้นมีผิวสัมผัสที่ลื่น แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีพอตัว ปุ่มคลิกซ้าย/ขวาเป็นแบบแยกชิ้นกัน เมื่อกดลงไปก็มีเสียงพอสมควร
พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ
ด้านหน้าไม่มีอะไรเลย
ฝั่งขวาประกอบไปด้วย Card Reader, USB 3.0, USB 2.0, VGA, HDMI, LAN และ ที่ชาร์จไฟ
USB 2.0 2 พอร์ต, Drive Blu-Ray
ข้างหลังมีที่ระบายความร้อนออกทางด้านหลัง