เทรนของโลกปัจจุบันนั้นหันไปมองเรื่อง Save the earth จะทำอะไรก็ต้องคำนึงถึง Eco เทคโนโลยี ไม่พ้นแม้แต่ในเทคโนโลยีของ Notebook ซึ่งสิ่งนี้เอง มันเป็นต้นตอของการเปลี่ยนไปของเทคโนโลยีการ์ดจอของ Notebook อย่างสิ้นเชิง เมื่อก่อน Notebook เครื่องนึงถ้าอยู่ได้นาน 2 ? 3 ชั่วโมงก็ถือว่าเก่งแล้ว และยิ่ง Notebook ที่มีการ์ดจอแรง ๆ ด้วยนั้น ไม่ต้องพูดถึงเลย แบตเตอรี่มันหมดไวมาก ๆ ไม่สามารถที่จะนำ Notebook เหล่านั้นออกไปจากบ้านได้ หรือถ้าพกไปได้ก็ต้องหาที่ชาร์จแบตเตอรี่ซึ่งมันก็ค้อนข้างยุ่งยาก โลกของเราเปลี่ยนไป เราต้องการการประหยัดพลังงานมากขึ้น วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป มีความต้องการที่จะใช้ Notebook นอกสถานที่มากขึ้น ทั้ง 2 อย่างนี้รวมกัน มันทำให้วิศวกรของ Notebook หรือ Hardware ค่ายต่าง ๆ เริ่มที่คิดค้นหนทางที่จะประหยัดพลังงานได้มากขึ้นและยังสามารถที่จะใช้การ์ดจอแรง ๆ ได้แบบเดิม ทั้งหมดนี้ก็จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดเทคโนโลยี NVIDIA Optimus และ AMD Switchable ขึ้นมา
NVIDIA Optimus Technology คืออะไร ?
พูดกันง่าย ๆ ไม่ต้องอาศัยศัพท์เทคนิคอะไรมาก NVIDIA Optimus Technology คือระบบสลับการ์ดจออัตโนมัติ ซึ่งจะสลับระหว่างการ์ดจอที่แยกมากับการ์ดจอที่อยู่บนซีพียู นิยมใช้กับซีพียูที่เป็น Intel เท่านั้น และไม่ใช่ว่าทุกเครื่องจะมีเทคโนโลยีนี้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเองว่าจะนำเทคโนโลยีนี้ออกมาใช้หรือไม่
- ข้อดีของ NVIDIA Optimus Technology >>> ประหยัดพลังงานให้เราโดยอัตโนมัติ
- ข้อเสียของ NVIDIA Optimus Technology >>> ทำให้เฟรมเรทในการเล่นเกมตกเมื่อเทียบกับการ์ดจอรุ่นเดียวกันซึ่งไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้, รองรับการใช้งานเพียงแค่บน Windows 7
AMD Dynamic Switchable คืออะไร ?
AMD Dynamic Switchable คือระบบสลับการ์ดจออย่างอัตโมัติลักษณะการทำงานจะคล้าย ๆ กับ NVIDIA Optimus นั่นเอง โดยเว็บไซต์ของ AMD กล่าวว่า ?AMD Dynamic Switchable ทำออกมาเพื่อ User ที่เน้นพกพาเป็นหลักแต่ก็ยังต้องอาศัยการ์ดจออยู่ดี โดย AMD Dynamic Switchable นั้นจะให้ทั้งความแรงและการประหยัดพลังานที่เหนือชั้น ระบบจะเปลี่ยนไปใช้การ์ดจอแยกทันทีที่ต้องการใช้งานหนัก และเมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็จะกลับมาใช้การ์ดจอออนบอร์ดตามเดิม?
- ข้อดีของ AMD Dynamic Switchable >>> ประหยัดพลังงานให้เราโดยอัตโนมัติ
- ข้อเสียของ AMD Dynamic Switchable >>> ทำให้เฟรมเรทในการเล่นเกมตกเมื่อเทียบกับการ์ดจอรุ่นเดียวกันซึ่งไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้, รองรับการใช้งานเพียงแค่บน Windows 7
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทั้ง 2 ระบบ
ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองระบบนั้นจะเกิดปัญหาขึ้นเหมือนกัน คือระบบนั้นยังไม่สามารถสลับได้อย่างฉลาดพอ บางครั้งก็ไม่ได้สลับทั้ง ๆ ที่ต้องการจะใช้การ์ดจอแยก ต้องเข้าไปตั้งค่าในไดร์เวอร์บังคับให้มันเปิดการ์ดจอแยกแบบ Manual แต่มันก็ไม่ได้เหมือน Manual ซะทีเดียว ในเมื่อระบบทั้งสองระบบนี้ ทำให้ประสิทธิภาพที่ควรจะเป็นของการ์ดจอนั้น ๆ ต้องลดน้อยถอยลงไป ราวกับว่า ทำงานได้ก็ไม่เต็มที่แล้วยังจะมากินสเปคลงไปอีก ซึ่งทั้งสองระบบนี้พยายามแก้ไขมาโดยตลอด
เจ้าแรกที่ทำระบบนี้เป็นของ NVIDIA Optimus Technology ซึ่งทำระบบนี้ออกมาสู่ตลาดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยช่วงแรก ๆ ที่ทำลงมาจะนำไปใส่กับพวก Notebook Ultra thin หรือพวก Notebook เน้นพกพาเป็นหลัก ปรากฏว่าแรก ๆ นั้นถูกโจมตีอย่างนัก แต่ NVIDIA ก็ยังเชื่อมั่นว่ามันยังจะต้องเกิด จึงได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ จนมั่นใจดีแล้วอะไรหลาย ๆ อย่างก็อยู่ในระดับที่พอรับได้แล้ว จึงทำให้ต้นปีที่ผ่านมา NVIDIA ทำลงมาในการ์ดจอสุดฮิตใน Notebook อย่าง NVIDIA GeForce GT 540M ต้องบอกเลยว่าระบบนี้ถูกปรับปรุงออกมาใส่การ์ดจอแรง ๆ ได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เยอะ แต่มันดีพอหรือยังนั้น ตอบได้เลยว่ามันยังดีไม่พอ ระบบนี้เป็นระบบที่ดี หากแต่ว่ายังไม่มีการ Optimized ที่ดีมากกว่า นั้นละคือปัญหาที่ NVIDIA ต้องแก้ไขกันต่อไป
สำหรับ AMD Dynamic Switchable นั้นค่อนข้างที่จะเป็นอะไรที่ไม่มีใครคาดคิดว่า AMD จะนำออกมา เพราะเมื่อปีก่อนหน้านั้นระบบสลับการ์ดจอที่เป็นแบบ Manual ของ AMD นั้นถล่มคู่แข่งอย่าง NVIDIA แบบเทน้ำเทท่า สาเหตุที่ขายดีกว่าก็เพราะว่า NVIDIA มี Optimus นี่แหละ เหมือน AMD รู้ทั้งรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ NVIDIA แต่ AMD ก็ต้องการที่จะลองลงมาเล่นในเทคโนโลยีลักษณะเดียวกันนี้ ผลปรากฏว่า AMD เละเอาเรื่องเลย เพราะ AMD ไม่มีการลองตลาดเหมือนกับที่ NVIDIA ลองมาแรก ๆ จึงทำให้ Feedback ของ AMD กลับมา ติดลบค่อนข้างเยอะ จนทำให้ AMD แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยหลังจากออกเทคโนโลยีนี้มา 1 เดือน เพราะต้องมั่วเอาเวลาไปทำ Driver ให้มันดีกว่าเดิม?ปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้นั้นน่าจะสามารถแก้ไขได้ อาจจะเพิ่มปุ่มที่เป็น Manual เอาไว้เปิด-ปิด เทคโนโลยีนี้น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ผลการทดสอบระหว่างมีระบบกับไม่มีระบบ (เน้นเฉพาะ Performance)
เราจะมาทดสอบกันแค่ในหมวดของ Performance เท่านั้นนะครับ อาจจะไม่ได้ครอบคลุมถึงการทดสอบการใช้งานที่ยาวนานขึ้นนั้นเพราะว่าเราไม่ได้มีรีวิวที่เก็บในด้านนั้น แต่ก็เชื่อว่าอย่างไรนั้นการใช้งานของทั้งสองระบบ ต้องใช้งานได้ยาวนานกว่าไม่มีสองเทคโนโลยีนี้เป็นแน่ เพราะเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการทำสองเทคโนโลยีนี้ออกมามันคือการประหยัดพลังงาน สำหรับตอนนี้เราก็ไปดูกันแค่ Performance อย่างเดียวก่อนแล้วกันครับ
NVIDIA Optimus Technology
ผลปรากฏว่าไม่มี NVIDIA Optimus Technology จะทำงานได้ดีกว่าถึง 9.98 %
AMD Dynamic Switchable
ผลปรากฏว่าไม่มี AMD Dynamic Switchable จะทำงานได้ดีกว่าถึง 8.61 %
ทิศทางของ NVIDIA Optimus และ AMD Switchable
หลังจากที่เรานำประสิทธิภาพของทั้งสองเทคโนโลยีมาเทียบกับการไม่มีอยู่ของสองเทคโนโลยีนั้นแล้ว พบได้เลยว่าเทคโนโลยีทั้งสองนั้นไปฉุดความสามารถของการ์ดจอลงไปเกือบ 10% ซึ่งนั้นหมายความว่าเยอะมาก ๆ ถามว่าปัญหานี้เป็นทั่วโลกไหม ตอบได้เลยว่าเป็นทั่วโลกแน่นอน NVIDIA และ AMD เองก็รู้ตัว และพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดตรงนี้มาโดยตลอด แต่ถ้าวันนึงมันถึงเวลาที่ผู้ใช้งานนั้นยังไม่หยุดที่จะพูดถึงปัญหาเหล่านี้ และปัญหาเหล่านี้มันยังคงลามไปเรื่อย ๆ ก็มีสิทธิที่ NVIDIA และ AMD จะปลดระวางทั้งสองเทคโนโลยีนี้ออก
อนาคตเป็นอย่างไรคงไม่มีใครรู้ครับ แต่อดีตเป็นอย่างไรนั้นคนที่ผ่านมาจะรู้เองมากที่สุด ไม่แน่ภายใน 2 ปีข้างหน้า ทั้งสองเทคโนโลยีนี้อาจจะเป็นแค่อดีตที่ผ่านไปก็เป็นไปได้ครับ สำหรับวันนี้คงจะพอแค่นี้ เดี๋ยวปิดท้ายด้วยบทความเก่า ๆ มาให้เพื่อน ๆ อัพเดตและแก้ไขปัญหาที่ทั้งสองเทคโนโลยีนี้เล่นเกมได้ไม่ลื่นครับ