นายวรวุฒิ โกศลกิจวงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่าฟูจิตสึให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อโลกสีเขียวมาอย่างต่อเนื่องซึ่งฟูจิตสึได้มีการแนะนำ Fujitsu LIFEBOOK ในตระกูล S Series 2 รุ่นได้แก่ Fujitsu LIFEBOOK SH761 และ Fujitsu LIFEBOOK SH561 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับโลกอย่างสมบูรณ์แบบ และยังเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติสุดยอดที่ครอบคลุมการใช้งานทุกด้าน สามารถพกพาไปได้ทุกที่ด้วยความบางและเบา
Fujitsu LIFEBOOK SH761 ถือเป็นเทคโนโลยีเรือธงของฟูจิตสึ โดยโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติที่สุดยอดครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอแดปเตอร์ประหยัดพลังงาน (Green 0 Watt AC Adapter) ที่พกพาได้อย่างสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม ขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว และแสดงผลแบบ Superfine HD LED back-light screen ให้ความสว่างในการแสดงผลภาพระดับ 300nits และแบตเตอรี่ขนาด 6200mAH รองรับการใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีความสามารถสูงสุดในระดับเดียวกัน นอกจากนี้ ด้วยระบบระบายอากาศที่เป็นสิทธิบัตรและเอกลักษณ์ของฟูจิตสึ ช่วยทำให้เครื่องทำงานได้เงียบ ใช้งานได้นานขึ้น และให้ความมั่นใจในเรื่องความเสถียรของการทำงานทั้งในสถานการณ์ทางธุรกิจ และการใช้งานส่วนตัว
ส่วน Fujitsu LIFEBOOK SH561 เป็นโน๊ตบุ๊คที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพกพาเป็นหลัก ด้วยหน้าจอ 13 นิ้ว ซึ่งจะเหมาะกับผู้บริหารที่เน้นการใช้งานนอกสถานที่ แต่ยังคงประสิทธิภาพและความคงทน พิเศษด้วยการออกแบบที่ให้ประโยชน์สูงสุดในการใช้งานด้วยพื้นที่สำหรับวางพักมือ นอกจากนี้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Biometric และระบบเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือผ่านคลื่นความถี่วิทยุที่แสดงสถานะด้วยไฟ LED เพื่อการป้องกันขั้นสูงสำหรับการเข้าดูข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายวรวุฒิ กล่าวถึงคุณสมบัติเด่นของ Fujitsu LIFEBOOK ทั้ง 2 รุ่น ว่ามีการขจัดการสิ้นเปลื้องพลังงาน จากเดิมที่เคยสูญเปล่ามากถึง 10% เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย ด้วยการเพิ่มโหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode)ไว้ในอแดปเตอร์ของคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ทุกรุ่นของฟูจิตสึ ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยพร้อมๆกัน
ทั้งนี้โดยทั่วไปโน๊ตบุ๊คจะยังคงใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 0.8-0.9 WH ในขณะที่อยู่ในสถานะสแตนด์บาย แต่ระบบอีโคโหมดของ ฟูจิตสึ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าดังกล่าวลงเหลือเพียง 0.009 WH (ในกรณีใช้ไฟฟ้า 230 โวลต์) และ 0.005 WH (ในกรณีใช้ไฟฟ้า 110 โวลต์) ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 93% ต่อปี หรือเทียบเท่า 1.687 WH ต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศ 768 กรัมและเมื่อเปรียบเทียบการประหยัดพลังงานของที่ชาร์ตแบต 0-watt ทุกๆ 1,000 ยูนิต สามารถประหยัดต้นไม้สนซีดาร์ได้ถึง 48 ต้น
ฟูจิตสึยังติดตั้งระบบตรวจสอบพลังงานในแบตเตอรี่อย่างง่ายโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่อง เพียงสังเกตสีก็สามารถตรวจสอบพลังงานในแบตเตอรี่ได้ทันที่ โดยสีเขียว (50-100%) สีส้ม (12-50%) และสีแดง (0-12%) เป็นสัญญาณบอกปริมาณไฟที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ เพื่อสามารถเลือกใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสมระหว่างพลังงานไฟฟ้ากับพลังงานแบตเตอรี่
นอกจากนี้ฟูจิตสึยังติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อจัดการการชาร์จไฟผ่านช่องเชื่อต่อ USB เพื่อป้องกันการสิ้นเปลื้องโดยไม่จำเป็นจากการชาร์จไฟที่ไม่ต้องการผ่าน USB Port โดยซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถกำหนดให้มีการชาร์จตลอดเวลาก็ได้ และยังมีระบบจัดการตัดการชาร์จแบตเตอรี่ของเครื่องโน๊ตบุ๊คเมื่อมีการเสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการเสื่อมของแบตเตอรี่โดยไม่จำเป็นอีกด้วย